Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 สิงหาคม 2549
ทรูไม่ติดโลโก้บนโทรศัพท์สาธารณะ อนุญาโตฯชี้ขาดให้จ่ายค่าชดเชย150ล.             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
โฮมเพจ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน)
โฮมเพจ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ทีทีแอนด์ที, บมจ.
ทรู คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
Telephone
ทีโอที, บมจ.




ทีโอที ตีปีก อนุญาโตฯ ตัดสินข้อพิพาทชนะทรู ไม่ยอมติดโลโก้ทีโอที บนตู้โทรศัพท์สาธารณะ รับค่าชดเชย 150 ล้านบาท ผ่อนชำระ 5 ปีกว่า เดือนละ 2.3 ล้าน ฝ่ายกฎหมายมั่นใจส่วนทีทีแอนด์ทีไม่พลิก เตรียมรับอีกก้อนร่วม 300 ล้าน ด้านทรูยังไม่เห็นเอกสารชี้ขาด บอกได้แค่ไม่กังวลใจกับเรื่องค่าเสียหาย เมื่อเทียบกับบางคดีที่มีมูลค่าร่วมหมื่นล้าน วอนจับเข่าประนีประนอมมากกว่าสืบสาวไม่จบสิ้น

นายปริญญา วิเศษศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกฎหมาย บริษัท ทีโอที เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทที่อยู่ในระหว่างการรอผลการพิจารณาคดีจากคณะอนุญาโตตุลาการกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น และบริษัท ทีทีแอนด์ที ว่า กรณีที่ ทีโอที ได้เรียกร้อง ค่าเสียหายจากทรูที่ไม่ยอมติดตราสัญลักษณ์ของทีโอที บนตู้โทรศัพท์สาธารณะ เป็นมูลค่า 433 ล้านบาท ขณะนี้อนุญาโตฯ ได้ตัดสินให้ ทีโอทีชนะทรู แต่อนุญาโตฯ ได้ประเมินค่าปรับใหม่ โดยลดมูลค่าเสียหายให้ทรูจ่ายชดเชยทีโอที ประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มจ่ายตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป เฉลี่ยเดือนละประมาณ 2.3 ล้านบาท ไปจนกว่าจะครบทั้งหมด หรือเป็นเวลาประมาณ 65 เดือน

“คดีนี้คณะกรรมการที่ตัดสินต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ทรูผิดจริง ประกอบกับทุกคนก็ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน จึงมั่นใจว่าทรูจะไม่มีข้ออ้างที่จะนำเรื่องดังกล่าวยื่นต่อศาลปกครองกลางเพื่อยกเลิกคำตัดสินอย่างแน่นอน”

สำหรับคณะอนุญาโตตุลาการที่ตัดสินคดีพิพาทครั้งนี้ ประกอบไปด้วย นายสมชัย ทรัพย์วานิช ซึ่งเป็นประธาน ส่วนกรรมการอีก 2 คนที่มาจากตัวแทนแต่ละฝ่ายคือ นายไพรัช กังวาลสุระ ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายทีโอที และนายบุญส่ง วรรณกลาง ตัวแทนฝ่ายทรู

เขากล่าวอีกว่า การตัดสินของอนุญาโตฯ ในครั้งนี้ ทีโอทีมีความพอใจและยอมรับต่อผลการพิจารณา ซึ่งคดีนี้ถือเป็นข้อแตกต่างจากคดีค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (แอ็คเซ็สชาร์จ) ที่อนุญาโตฯตัดสินให้ทรูชนะทีโอที เพราะในคดีดังกล่าวอนุญาโตฯที่ตัดสินบางคนมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทีโอทีจึงสามารถยื่นเรื่องให้ศาลปกครองกลางพิจารณายกเลิกคำตัดสินของอนุญาโตฯได้

อย่างไรก็ตาม ทีโอทียังมีข้อพิพาทกับทางบริษัท ทีทีแอนด์ที ซึ่งมีรูปแบบลักษณะเดียวกันกับกรณีของทรู คือ ไม่ยอมติดตราสัญลักษณ์ของทีโอทีบนตู้โทรศัพท์สาธารณะเช่นเดียวกัน โดยมีมูลค่า 300 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอนุญาโตฯ และคาดว่าทีโอทีจะเป็นฝ่ายชนะเช่นเดียวกัน เนื่องจากรูปแบบและมูลเหตุในรายละเอียดถึงการฟ้องร้องไม่มีข้อแตกต่างกันมากนัก

นายปริญญา กล่าวต่ออีกว่า ข้อพิพาทระหว่างทีโอทีกับทรู ยังมีอีก 1 คดี ที่ยังอยู่ในขั้นการรอฟังผลพิจารณา คือ การที่ทรูไม่ติดตราสัญลักษณ์ของทีโอทีบนใบแจ้งหนี้ที่เรียกเก็บค่าใช้บริการกับลูกค้า ซึ่งในเรื่องนี้ทีโอทีได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายประมาณ 1,900 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถพิจารณาได้แล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือนนี้ และมั่นใจว่าผลการพิจารณาจะออกมาในลักษณะเดียวกันแน่นอน

ด้านนายอธึก อัศวานันท์ รองประธานกรรมการและหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกฎหมาย ทรู กล่าวว่า ผลการพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ทาง ทรูยังไม่ได้รับผลการพิจารณาอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยในวันนี้ (15 สิงหาคม) จะตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร ก่อนจะดำเนินการตามที่เห็นว่าเหมาะสมต่อไป แต่ถึงอย่างไรก็ตามคดีพิพาทครั้งนี้ถือเป็นคดีเล็ก เพราะมีมูลค่าไม่ถึงหมื่นล้านบาท ดังนั้นทั้ง 2 ฝ่าย ควรจะหาวิธีไกล่เกลี่ยกันมากกว่าที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us