ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่งดึงพันธมิตรนักลงทุนไทยและต่างประเทศเข้ามาถือหุ้นประมาณ 50% หวังเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจคาดจะได้ข้อสรุปภายในเดือนส.ค.นี้ จับตาบริษัทธุรกิจลีสซิ่งมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น ดึงสถาบันการเงินเข้ามาร่วมถือหุ้นเพื่อเกื้อหนุนธุรกิจ

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีกระแสข่าวว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECLอยู่ระหว่างการจรจากับพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาร่วมถือหุ้น ซึ่งมีทั้งนักลงทุนคนไทยและสถาบันการเงินจากต่างประเทศ ซึ่งจะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทสัดส่วนรวมกันประมาณ 50% ซึ่งกลุ่มพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามานั้นอาจจะเข้ามาร่วมบริหารงานด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเกื้อหนุนให้ธุรกิจของบริษัทตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่งมีแนวโน้มที่ดีได้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนสิงหาคมนี้

ทั้งนี้กลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัทตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่งนั้นส่วนใหญ่จะได้แก่กลุ่มตระกูลวีระพงษ์และกลุ่มตันตราภรณ์ โดยก่อนที่จะนำบริษัทเข้ามาจดทะเบียนทั้ง 2 กลุ่มถือหุ้นรวมกัน 82.13%

แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุที่บริษัทตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่งดึงนักลงทุนไทยและต่างประเทศเข้ามาร่วมถือหุ้น เนื่องจากต้องการขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้น เนื่องจากธุรกิจลีสซิ่งในปัจจุบันนี้มีการแข่งขันกันมาก และที่ผ่านมาบริษัทที่ประกอบธุรกิจลีสซิ่งในตลาดหลักทรัพย์ก็มีการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมถือหุ้นเช่นในกรณีบริษัท ราชธานีลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI ที่ให้ธนาคารนครหลวงไทยเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 40.33% ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถเข้าร่วมบริหารงานในบริษัทราชธานีลีสซิ่งได้ ขณะเดียวกันบริษัทนวลีสซิ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ NVL ก็มีกระแสข่าวว่าขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร ซึ่งประกอบด้วยผู้ประกอบการธนาคารพาณิชย์ และผู้ประกอบการธุรกิจเช่าซื้อโดยพันธมิตรดังกล่าวจะต้องเข้ามาเสริมในฐานะทางการเงินเป็นหลัก

ทั้งนี้สิ่งที่จะต้องจับตาต่อไปว่าบริษัทที่ประกอบธุรกิจลีสซิ่ง นอกเหนือจากบริษัทดังกล่าวแล้ว บริษัทที่เหลือจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นหรือไม่ และแต่ละบริษัทจะมีการวางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างไร หลังจากที่บริษัทลีสซิ่งบางแห่งมีธนาคารพาณิชย์เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งจะทำให้มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น