|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
มีเดีย ออฟ มีเดียส์ ยิ้มร่า หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ มีกำไรในรอบ 3 ปี มูลค่ากว่า 85.25 ล้านบาท โตขึ้น 62.44% จากการลดต้นทุน ปรับผังรายการที-แชแนลใหม่ และเปลี่ยนสัมปทานจากลาวไปเขมรแทน ล่าสุดจับมือลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม ดันรายการที-แชแนล สร้างรายได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมเร่งเครื่องเดินหน้าดันรายการเพิ่มอีก 10 รายการปีนี้ ป้อนวิกหมอชิต มั่นใจสิ้นปีมีรายได้ ไม่ต่ำกว่า 62%
นางชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างการทำงานตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้มีรายการที่บริหารเวลาเอง 1 รายการ คือ ชิงร้อยชิงล้าน และการเป็นผู้บริหารเจ้าของสถานีโทรทัศน์เคเบิ้ลบันเทิงแนวลูกทุ่ง 24 ชั่วโมง ที-แชแนลนั้น ปรากฏว่าครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 85.25 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 62.44%
โดยกำไรที่เกิดขึ้นนั้น มาจากการที่บริษัทฯให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนในด้านต่างๆ ลง เช่น มีการเปลี่ยนสัมปทานจากลาวไปเขมรแทน โดยสามารถลดต้นทุนได้ประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน รวมไปถึงการปรับการผลิตรายการที – แชแนล จาก 12 ชั่วโมง รัน 2 รอบ มาเป็นเป็น 8 ชั่วโมง รัน 3 รอบใน 1 วันแทน ส่งผลให้ในไตรมาสสอง บริษัทฯมีกำไรเพิ่มขึ้น 30% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 42.9 ล้านบาท
ในขณะที่ที-แชแนลเองนั้น บริษัทฯได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรกับสถานีวิทยุลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม นำโดยนายวิทยา ศุภพรโอภาส โดยความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่การปรับปรุงรูปแบบและการนำเสนอรายการที่มีความหลากหลาย พร้อมเพิ่มฐานผู้ชมได้อีกทางหนึ่ง รวมไปถึงสามารถสร้างรายได้ให้ที-แชแนลเพิ่มขึ้นอีก 20% ในปีนี้ จากการที่จะมีการทำอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้งมากขึ้น จากการที่สปอนเซอร์และสินค้าต่างๆ จะเข้ามาซื้อโฆษณาของที-ชาแนล นั้นเอง
สำหรับทิศทางการแข่งขันตลาดโฆษณาในปีนี้ มองว่าอย่างเก่งน่าจะโตเพียง 5% เท่านั้น โดยในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สามารถระดับการเติบโตไป 5% ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ครึ่งปีหลังมองการแข่งขันจะสูงขึ้น รวมทั้งลูกค้าที่จะลงโฆษณาเองนั้น ก็จะต้องเลือกสื่อที่ดีมีคุณภาพที่สุด ดังนั้นตัวผู้ผลิตเองจะต้องมีการพัฒนาแพกเก็จราคาโฆษณาที่ทำให้เจ้าของสินค้าได้รับประโยชน์สูงที่สุด ในขณะที่ทางบริษัทฯ เองก็ได้มีการพัฒนาประโยชน์ที่จะเกิดแก่ลูกค้าเช่นเดียวกัน โดยเป็นการหาพันธมิตรร่วมดำเนินธุรกิจอย่างการจับมือกับลูกทุ่งเอฟเอ็ม เพื่อทำให้ที-ชาแนลมีความแข่งแกร่งขึ้น
อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทฯ จะมีการเพิ่มรายการอีกประมาณ 10 รายการ สำหรับป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 แบ่งได้เป็น 1. สารคดีสั้น 1 นาที 4 รายการ 2.รายการเด็ก 2 รายการ ชื่อ พริกไทยไข่กวน และ คิดดีคิดสนุก 3.การ์ตูน 2 รายการ เช่น พิภพมัจจุราช และ 4. รายการเพลงช่วงดึก คือ รายการห้องซน อีก 1 รายการ ในขณะที่มี 2 รายการที่ออกอากาศมาตั้งแต่เดือนกันยายน และที่เหลือจะเริ่มออกอากาศในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
นางชาลอต กล่าวอีกว่า รายการใหม่ที่เพิ่มขึ้นนั้น ถือได้ว่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา 9 รายการ แต่คาดว่าปีนี้รายการทุกรายการที่เสนอไปจะทำกำไรให้ทุกรายการ โดยคาดว่าทั้งปีบริษัทฯ จะมีรายได้ตามที่ประมาณการณ์ไว้ หรือไม่ต่ำกว่า 62% ของครึ่งปีแรกออย่างแน่นอน
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้มีการนำเสนอรายการอื่นๆไปทางสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ อีกด้วย เฉลี่ย 2-3 รายการที่เสนอไปแต่ละช่อง แต่จะได้ออกอากาศหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับสถานีช่องนั้นๆ โดยรายที่นำเสนอไป บริษัทฯจะไม่นำรายการเดิมกลับมาทำอีกอย่างแน่นอน เช่น ช่อง 9 จะเป็นการนำเสนอรายการในแบบอุดมปัญญา ช่อง 5 ก็จะมีความหลายหลาย รวมไปถึงช่อง 7 ที่ต้องการให้บริษัทฯ ทำละครซิทคอมป้อนให้สถานีอีกด้วย
|
|
|
|
|