Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 สิงหาคม 2549
มีเดียฯล้างขาดทุนทีแชแนลเห็นกำไรรอบ 3 ปี 85 ล้านบาท             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

มีเดีย ออฟ มีเดียส์, บมจ.
TV Program




มีเดีย ออฟ มีเดียส์ ยิ้มร่า หลังปรับโครงสร้างธุรกิจ มีกำไรในรอบ 3 ปี มูลค่ากว่า 85.25 ล้านบาท โตขึ้น 62.44% จากการลดต้นทุน ปรับผังรายการที-แชแนลใหม่ และเปลี่ยนสัมปทานจากลาวไปเขมรแทน ล่าสุดจับมือลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม ดันรายการที-แชแนล สร้างรายได้เพิ่มไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมเร่งเครื่องเดินหน้าดันรายการเพิ่มอีก 10 รายการปีนี้ ป้อนวิกหมอชิต มั่นใจสิ้นปีมีรายได้ ไม่ต่ำกว่า 62%

นางชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างการทำงานตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้มีรายการที่บริหารเวลาเอง 1 รายการ คือ ชิงร้อยชิงล้าน และการเป็นผู้บริหารเจ้าของสถานีโทรทัศน์เคเบิ้ลบันเทิงแนวลูกทุ่ง 24 ชั่วโมง ที-แชแนลนั้น ปรากฏว่าครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 85.25 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมากว่า 62.44%

โดยกำไรที่เกิดขึ้นนั้น มาจากการที่บริษัทฯให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนในด้านต่างๆ ลง เช่น มีการเปลี่ยนสัมปทานจากลาวไปเขมรแทน โดยสามารถลดต้นทุนได้ประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน รวมไปถึงการปรับการผลิตรายการที – แชแนล จาก 12 ชั่วโมง รัน 2 รอบ มาเป็นเป็น 8 ชั่วโมง รัน 3 รอบใน 1 วันแทน ส่งผลให้ในไตรมาสสอง บริษัทฯมีกำไรเพิ่มขึ้น 30% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 42.9 ล้านบาท

ในขณะที่ที-แชแนลเองนั้น บริษัทฯได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรกับสถานีวิทยุลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม นำโดยนายวิทยา ศุภพรโอภาส โดยความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่การปรับปรุงรูปแบบและการนำเสนอรายการที่มีความหลากหลาย พร้อมเพิ่มฐานผู้ชมได้อีกทางหนึ่ง รวมไปถึงสามารถสร้างรายได้ให้ที-แชแนลเพิ่มขึ้นอีก 20% ในปีนี้ จากการที่จะมีการทำอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้งมากขึ้น จากการที่สปอนเซอร์และสินค้าต่างๆ จะเข้ามาซื้อโฆษณาของที-ชาแนล นั้นเอง

สำหรับทิศทางการแข่งขันตลาดโฆษณาในปีนี้ มองว่าอย่างเก่งน่าจะโตเพียง 5% เท่านั้น โดยในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สามารถระดับการเติบโตไป 5% ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ครึ่งปีหลังมองการแข่งขันจะสูงขึ้น รวมทั้งลูกค้าที่จะลงโฆษณาเองนั้น ก็จะต้องเลือกสื่อที่ดีมีคุณภาพที่สุด ดังนั้นตัวผู้ผลิตเองจะต้องมีการพัฒนาแพกเก็จราคาโฆษณาที่ทำให้เจ้าของสินค้าได้รับประโยชน์สูงที่สุด ในขณะที่ทางบริษัทฯ เองก็ได้มีการพัฒนาประโยชน์ที่จะเกิดแก่ลูกค้าเช่นเดียวกัน โดยเป็นการหาพันธมิตรร่วมดำเนินธุรกิจอย่างการจับมือกับลูกทุ่งเอฟเอ็ม เพื่อทำให้ที-ชาแนลมีความแข่งแกร่งขึ้น

อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทฯ จะมีการเพิ่มรายการอีกประมาณ 10 รายการ สำหรับป้อนให้กับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 แบ่งได้เป็น 1. สารคดีสั้น 1 นาที 4 รายการ 2.รายการเด็ก 2 รายการ ชื่อ พริกไทยไข่กวน และ คิดดีคิดสนุก 3.การ์ตูน 2 รายการ เช่น พิภพมัจจุราช และ 4. รายการเพลงช่วงดึก คือ รายการห้องซน อีก 1 รายการ ในขณะที่มี 2 รายการที่ออกอากาศมาตั้งแต่เดือนกันยายน และที่เหลือจะเริ่มออกอากาศในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป

นางชาลอต กล่าวอีกว่า รายการใหม่ที่เพิ่มขึ้นนั้น ถือได้ว่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา 9 รายการ แต่คาดว่าปีนี้รายการทุกรายการที่เสนอไปจะทำกำไรให้ทุกรายการ โดยคาดว่าทั้งปีบริษัทฯ จะมีรายได้ตามที่ประมาณการณ์ไว้ หรือไม่ต่ำกว่า 62% ของครึ่งปีแรกออย่างแน่นอน

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้มีการนำเสนอรายการอื่นๆไปทางสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ อีกด้วย เฉลี่ย 2-3 รายการที่เสนอไปแต่ละช่อง แต่จะได้ออกอากาศหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับสถานีช่องนั้นๆ โดยรายที่นำเสนอไป บริษัทฯจะไม่นำรายการเดิมกลับมาทำอีกอย่างแน่นอน เช่น ช่อง 9 จะเป็นการนำเสนอรายการในแบบอุดมปัญญา ช่อง 5 ก็จะมีความหลายหลาย รวมไปถึงช่อง 7 ที่ต้องการให้บริษัทฯ ทำละครซิทคอมป้อนให้สถานีอีกด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us