CCET ให้บริษัทลูกลงทุนใน CCSG ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 100% ช่วยหนุนงานวิจัยและพัฒนาสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มช่องทางการทำยอดขายให้สูงขึ้น และรายการดังกล่าวเป็นรายการเกี่ยวโยงกัน
นายฟาง ซิ เซง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและการตลาด บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (CCET) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัท Logistar International Holding Company Limited (LGT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้นโดย CCET ร้อยละ 100 ลงทุนในบริษัท Cal-Comp Electronics (Singapore) Pte Ltd. (CCSG) ซึ่งดำเนินธุรกิจประเภท เทรดดิ้ง ตั้งกิจการ ณ ประเทศสิงคโปร์ ตามมูลค่าตามบัญชีเป็นจำนวนเงิน 1,744,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 41,803,680 บาท ซึ่ง CCSG มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็นจำนวน 400,000 เหรียญสิงคโปร์
หลังจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะทำให้ LGT ถือหุ้นใน CCSG 100% และคาดว่าจะลงทุนเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 3 ปี 49 โดยการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์และเพื่อเพิ่มช่องทางในการเพิ่มยอดขายของบริษัท
โดยคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัท ได้พิจารณาถึงรายการที่เกี่ยวโยงกันก่อนที่ CCET จะทำการลงทุนในครั้งนี้ บุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกันคือ นายเจียง เสี่ยว ชิน ซึ่งเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นของ CCET และ CCSG โดยนายเจียงเสี่ยวชินได้ถือหุ้น CCET และ CCSG 0.26% และ 65% ตามลำดับ ทั้งนี้กรรมการและผู้ถือหุ้นที่เหลือมิได้เป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวโยงกับบริษัทแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบอนุมัติการทำรายการดังกล่าวด้วยเหตุผลว่า CCSG มีความสามารถที่จะช่วยสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์และเพื่อเพิ่มช่องทางในการเพิ่มยอดขายของบริษัทอีกทั้งราคาที่ตกลงกันเป็นราคามูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 48 ซึ่งเหมาะสมและยุติธรรมต่อทั้งสองฝ่าย และบริษัทได้พิจารณาขนาดรายการตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และการเปิดเผยรายการที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียนแล้ว พบว่าขนาดรายการดังกล่าว มิได้มีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดของบริษัท และตามงบการเงินของ CCSG ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชีพบว่าไม่มีภาระผูกพันใด ๆ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 48
สำหรับรายการสำคัญของงบการเงินของ CCSG ณ วันที่ 31 ธันวาคม 48 มีดังต่อไปนี้คือตัวเลขยอดขาย 24,629,047 เหรียญสิงคโปร์ หรือ 590,358,257 บาท มีกำไรสุทธิ 737,719 เหรียญสิงคโปร์ หรือ 17,683,124 บาท ขณะที่สินทรัพย์รวม 7,798,673 เหรียญสิงคโปร์ หรือ 186,934,192 บาท และหนี้สินรวม 6,057,310 เหรียญสิงคโปร์ หรือ 145,193,721 บาท รวมทั้งหนี้สินและส่วนของเจ้าของ 7,798,673 เหรียญสิงคโปร์ หรือ 186,934,192 บาท
|