|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ก.ล.ต.ตามบี้บิ๊กไออีซี หลังปรากฎข่าวเล็งซื้อหุ้น BLISS เพิ่มหวังถือ 40% ด้านบริษัทครวญหน่วยงานที่ดูแลมีอคติในการทำงาน เผยเหตุเร่งให้ชี้แจงข่าวหวังสั่งให้ทำเทรนเดอร์ออฟเฟอร์ในทันที ขณะที่โบรกฯเชื่อข่าวลือที่เกิดขึ้นจริง ระบุผู้ถือหุ้นใหญ่ควรถือเกิน 35% หากต้องการรักษาอำนาจ
นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้มีหนังสือแจ้งมายังบริษัทเพื่อขอให้ชี้แจงข้อมูลตามที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 3-4 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่าบริษัทมีแผนที่จะเข้าไปซื้อหุ้นของบริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS จากผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทเพิ่มเติมจาก 24.35% เป็น 40% ซึ่งทำให้เข้าข่ายเป็นการประกาศต่อสาธารณชนว่าจะเข้าถือหลักทรัพย์ของบริษัท บลิส-เทล เพื่อครอบงำกิจการตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ตามหลักเกณฑ์ของประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้จากข่าวปรากฎขึ้นตนและผู้บริหารของปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ให้ข่าวดังกล่าว และไม่ทราบว่าข่าวดังกล่าวมาจากแหล่งใด ซึ่งข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว คือบริษัทฯ ได้มีการติดต่อเจรจาที่จะซื้อหุ้นกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ของบริษัทบลิส-เทลหลายราย จนอาจมีความเข้าใจไปว่า บริษัทฯ ต้องการซื้อหุ้นในจำนวนที่เป็นข่าว แต่ในที่สุดมีผู้เสนอขายหุ้นให้แก่บริษัทฯ รวม 4 ราย จำนวนหุ้นรวม 56 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 24.35% ของทุนชำระแล้วของบริษัทดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้นำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2549 และคณะกรรมการบริษัทก็ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสมในเชิงธุรกิจและการลงทุน จึงอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของบริษัทบลิส-เทล ตามจำนวนที่มีผู้เสนอขายมาดังกล่าวข้างต้นได้
แหล่งข่าวจากบริษัทอินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตการเข้ามาตรวจสอบของหุ้นของบริษัทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตลาดหลักทรัพย์และสำนักงานก.ล.ต.จะค่อนข้างละเอียดมากกว่าการตรวจสอบในหุ้นบริษัทอื่นๆ ขณะนี้สำนักงานก.ล.ต.ซึ่งเคยได้รับเรื่องกล่าวโทษบริษัทจากตลาดหลักทรัพย์กรณีระบุว่ามีบุคคลจำนวน 33 รายเข้ามาสร้างราคาหุ้นนี้เวลาผ่านไปก็นานแล้วทำไมยังไม่มีผลการตรวจสอบออกมาอีกว่าเป็นอย่างไร
ในส่วนของเรื่องราคาหุ้นที่ขึ้นลงค่อนข้างหวือหวาและมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างสูงน่าจะเป็นเพราะบริษัทเป็นบริษัทที่เก่าแก่มีอายุถึง 84 ปีซึ่งคนหลายกลุ่มหลายช่วงอายุที่รู้จักบริษัทมาค่อนข้างนาน เมื่อมีการปรับเปลี่ยนหรือการเข้ามาของนักลงทุนจึงทำให้กลุ่มที่เคยรู้จักพร้อมใจกันกลับเข้ามาเหมือนกัน
"เค้าทำงานกันเหมือนเค้ามีอคติกับเรา คอยกลั่นแกล้งกันโดยตลอดมีบางบริษัทที่มีการประมาณการกำไรกันอย่างชัดเจน แต่เป็นบริษัทที่ใหญ่มากเค้าไม่เคยเข้าไปทำอะไรเลยสอบถามซักครั้งก็ไม่มี ส่วนเรื่องชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับข่าวที่บริษัทจะเข้าไปถือบริษัทบลิสเทลจำนวน 40% เพราะเค้าต้องการให้เราทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์หรือเทนเดอร์ออฟเฟอร์" แหล่งข่าวกล่าว
ด้านแหล่งจากนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ข่าวลือที่ปรากฎขึ้นตามสื่อในช่วงที่ผ่านมาหลายเรื่องและกินระยะเวลาค่อนข้างนานของบริษัทไออีซีส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลังโดยตลอด ซึ่งในกรณีดังกล่าวก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดขึ้นจริง เนื่องจากการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทใดบริษัทหนึ่งในปัจจุบันสัดส่วนที่ผู้ถือหุ้นใหญ่จะพิจารณาถือครองมักจะมากกว่า 35%
ทั้งนี้ ปัจจุบันการถือครองหุ้นของบริษัทไออีซี ในหุ้นบริษัทบลิสเทล ยังมีสัดส่วนเพียง 24.3% เท่านั้นซึ่งบริษัทอาจจะมีความพยายามที่ซื้อหุ้นเพิ่มและทางที่ง่ายที่สุดคือการซื้อจากผู้ถือหุ้นที่มีหุ้นที่ถือครองค่อนข้างมาก ซึ่งจากข้อมูลผู้ถือหุ้นก็มีเพียงผู้ถือหุ้นอเมริการายเดียวที่มีสัดส่วนการถือครองหุ้นค่อนข้างสูง ด้านความเคลื่อนไหวราคาหุ้น IEC วานนี้ (10 ส.ค.) ราคาปิดที่
|
|
|
|
|