|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ รุกงานต่างประเทศเต็มตัว หวังเพิ่มช่องทางหารายได้โตตามเป้าหมาย คาดรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีหน้า พร้อมมั่นใจปีหน้าโตไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากมีงานต่อเนื่องตลอดปี ขณะที่ผลงานไตรมาส 2 ปีนี้โชว์กำไรทะยาน 370% พร้อมประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 20 สตางค์ คาดสิ้นปีมีจ่ายอีก เนื่องจากผลงานช่วงครึ่งปีหลังยังโต
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO กล่าวว่าหลังจากผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของบริษัทที่พบว่าเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นที่ประชุมคณะกรรมการจึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท จำนวน 150 ล้านหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 30 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งมีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2549 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 สิงหาคม 2549
ขณะที่เมื่อปีที่ผ่านมานั้น บริษัทจ่ายปันผลงวดสิ้นปีงวดเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ในงวดสิ้นปี 49 มีแนวโน้มที่บริษัทจะจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อาจเท่ากับหรือสูงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องพิจารณาจากผลการดำเนินงานของบริษัทในงวดครึ่งปีหลังก่อน โดยปี 48 บริษัทจ่ายปันผลหุ้นละ 16 สตางค์ และเป็นการงวดปีเท่านั้น และครึ่งปีหลัง CMO จะรับรู้รายได้จากงาน ICT EXPO 50 ล้านบาท จังซีลอน งานราชพฤกษ์ และงานแก๊สเทค ที่ทำให้กับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยจัดที่สหรัฐอาหรับเอมิเรท อีกทั้งงานต่างประเทศอย่าง อังกอร์ เนชั่นแนล มิวเซียม ที่กัมพูชา จะรับรู้รายได้ไตรมาส 4 ปีนี้ และไตรมาสแรกปี 50
นายเสริมคุณกล่าวว่า งานที่กัมพูชานั้นเป็นแผนการรุกงานในต่างประเทศครั้งแรก โดยเฉพาะตลาดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาท่องเที่ยวและตลาด Meeting Intensive Convention and Exhibition หรือ MICE เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ และเพิ่มฐานลูกค้า โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้มีการรับงานโครงการอังกอ เนชั่นแนล มิวเซียม มูลค่า 60 ล้านบาท ที่ประเทศกัมพูชา โดยงานดังกล่าวถือเป็นโครงการแรกที่รุกไปทำยังต่างประเทศ
"เราเตรียมจัดตั้งทีมงานเพื่อดูแลด้านต่างประเทศโดยเฉพาะเพื่อให้เกิดการลงทุนการบริหารต้นทุนให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุด และคาดว่าจะมีรายได้จากต่างประเทศเข้ามาอย่างชัดเจน ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีหน้า โครงการที่กัมพูชานี้ถือเป็นโปรเจ็กเริ่มต้นของการทำงานต่างประเทศโดยเราจะหันรุกงานเพิ่มทั้งในส่วนของที่เป็นแขนขาของอีเว้นท์อื่นซึ่งทำอยู่แล้ว รวมถึงการทำออกาไนเซอร์มืออาชีพ ให้กับท้องถิ่นประเทศนั้นๆ อย่างแท้จริง ซึ่งจากการสำรวจตลาดพบว่าคู่แข่งมีไม่มาก" นายเสริมคุณกล่าว
ทั้งนี้ การรุกงานต่างประเทศเพิ่มขึ้นทำให้ต้องใช้งบประมาณในการลงทุนอุปกรณ์เพื่อเสริมสร้างให้เป็นธุรกิจครบวงจรซึ่งอาจต้องมีการเพิ่มทุนในอนาคต และย้ำว่าหากเพิ่มทุนก็ไม่ใช่เป้าหมายเพื่อเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะเป้าหมายหลักคือเพื่อใช้ลงทุนขยายงานในต่างประเทศเท่านั้น และโอกาสในการก่อหนี้ของบริษัทถือว่ายังสามารถทำได้ เนื่องจากปัจจุบัน CMO มีหนี้สินต่อทุน (D/E RATIO) อยู่ที่ 0.6 เท่าต่อ 1 เท่า
สำหรับผลประกอบการปี 50 CMO ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 10% จากปีนี้ โดยปี 49 คาดว่าจะมีรายได้ 610 - 620 ล้านบาท การเติบโตของรายได้ที่สามารถคาดการณ์ได้นั้น เป็นผลจากมีการวางแผนการรับงานต่อเนื่องล่วงหน้าถึงสิ้นปี 50 ซึ่งแต่ละไตรมาสของปีดังกล่าวบริษัทมีงานต่อเนื่องตลอดทุกไตรมาส และการคาดการณ์นี้ยังไม่รวมงานที่อาจจะได้จากเม็ดเงินการส่งเสริมการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่อาจมีการใช้จ่ายงบประมาณออกมาด้วย
ปัจจุบัน CMO มีสัดส่วนการรับงานภาคเอกชน 70% และสัดส่วนงานภาครัฐ 30% และคาดว่าครึ่งปีหลังยังคงรักษาสัดส่วนการรับงานเท่าเดิมซึ่งแม้ภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มชะลอตัวมีผลทำให้ธุรกิจภาคเอกชนลดงบประมาณในการจัดอีเว้นท์ลง แต่บริษัทฯ ก็รับมือด้วยการรับงานล่วงหน้าในระยะยาวเพื่อลดความเสี่ยง ขณะที่กรอสมาร์จิ้นของบริษัทอยู่ที่ 25% ขณะที่กรอสมาร์จิ้นรวม 38% และคาดกำไรสุทธิโตจากปีก่อน 15% โดยเฉพาะงบเดี่ยวบริษัทจะเพิ่มจาก 5-6% เป็น 7-8%
"ในครึ่งปีหลังบริษัทฯ จะมีงานที่เซ็นสัญญาและเตรียมรับรู้รายได้ มูลค่า 200-300 ล้านบาท อาทิ งานศูนย์การค้าจังซีลอน ภูเก็ต งาน Bangkok International ICT Expo 2006 งานมหกรรมพืชสวนโลกราชพฤกษ์ 49 แต่การรับรู้รายได้ขึ้นอยู่กับการส่งมอบงานซึ่งมั่นใจว่าจะมีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายได้" นายเสริมคุณกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 49 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 45.29 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.30 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 20.28 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.14 บาท ขณะที่งวด 6 เดือน กำไรสุทธิ 55.01 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.37 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน กำไรสุทธิ 11.71 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.08 บาท หรือเพิ่มขึ้น 369.77%
เนื่องจากกลุ่มบริษัทมีรายได้จากการให้บริการจำนวน 226.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 59% หรือ 83.95 ล้านบาท สืบเนื่องมาจากบริษัทได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จัดงานที่มีมูลค่าสูงหลายๆ งาน บวกกับผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัทย่อย อย่าง PM CENTER ที่ทำกำไรเข้าสู่บริษัทแม่ถึง 19 ล้านบาท จากการที่บริษัทย่อยดังกล่าวมีความพร้อมทางด้านอุปกรณ์ประกอบการจัดงานแสดงต่างๆ
|
|
|
|
|