แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ ทุ่มงบ 775 ล้านบาท จ่ายเงินปันผลครึ่งปีแรกคืนให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท หลังผลงานงวด 6 เดือน กำไรสุทธิรวมกว่า 943 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% พร้อมอนุมัติให้บริษัทย่อยลงทุนเพิ่มในบริษัทสิงคโปร์ ด้วยเงินลงทุน 41 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนงานวัยและพัฒนาคอมพิวเตอร์
นายฟาง ซิ เซง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและการตลาด บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CCET กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 5/2549 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2549 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท เป็นจำนวน 3,879,729,045 หุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 775,945,809 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อ ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2549 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 6 กันยายนนี้
พร้อมกันนี้ ยังได้อนุมัติให้บริษัท Logistar International Holding Company Limited บริษัทย่อยที่ CCET ถือหุ้น 100% เข้าลงทุนในบริษัท Cal-Comp Electronics (Singapore) Pte Ltd. ซึ่งตั้งอยู่ ณ ประเทศสิงคโปร์ จำนวนเงิน 1,744,000 เหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 41,803,680 บาท เพื่อสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์ รวมถึงเพิ่มช่องทางในการเพิ่มยอดขายของบริษัท
สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 นั้น บริษัทมีกำไรสุทธิ 594.79 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.16 บาท เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนกำไรสุทธิ 508.62 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.14 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 16.94% ขณะที่งวด 6 เดือนกำไรสุทธิรวม 943.96 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.26 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไรสุทธิ 817.93 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.23 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 15.41%
ทั้งนี้ ไตรมาส 2 ปี บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า 19,380.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 36.30% กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 15.08 ล้านบาท รายได้อื่น 34.58 ล้านบาท ทำให้มียอดรายได้รวมทั้งสิ้น 19,430.64 ล้านบาท ขณะที่งวด 6 เดือนแรกของปี มีรายได้จากการขายสินค้า 33,023.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21.15% รายได้อื่น 67.93 ล้านบาท ทำให้รายได้รวม 6 เดือนรวมเท่ากับ 33,091.00 ล้านบาท
"รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น เกิดจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์และแผงวงจร PCB ทั้งจากกลุ่มลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิมของบริษัท"
ด้านต้นทุนขายในไตรมาสที่ 2 บริษัทมีต้นทุนขาย 18,463.25 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 95.26% ของรายได้จากการขาย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีต้นทุนขายอยู่ที่ 93.92% ขณะที่อัตราส่วนกำไรขั้นต้นลดลงจากปีก่อนที่อยู่ 6.08% เหลือ 4.74% ส่วนงวด 6 เดือน ต้นทุนขายอยู่ที่ 31,368.13 ล้านบาท คิดเป็น 94.99% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 94.55% และอัตราส่วนกำไรขั้นต้น 5.01% ลดลงจากปีก่อนที่ 5.57% โดยต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นสืบเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสินค้าแผงวงจร PCB
ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารไตรมาส 2 รวม 244.86 ล้านบาท หรือ 1.26% ของรายได้จากการขาย ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 2.14% ขณะที่งวด 6 เดือน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 546.88 ล้านบาท หรือ 1.66% ของรายได้จากการขาย ลดลงจากปีก่อนที่ 2.10%
นอกจากนี้ บริษัทยังมีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีการกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานและขยายกิจการ บวกกันอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น โดยไตรมาส 2 มีภาระดิกเบี้ยจ่าย 105.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย 61.08 ล้านบาท และงวด 6 เดือน รวม 178.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเพียง 112.04 ล้านบาท
|