หุ้น BSBM วิ่งรับผลงานพุ่งกว่า 13 % หลังโชว์งบไตรมาส 2 กำไรเพิ่มกว่า 180% สวนทางกับยอดขายที่ลดลงเนื่องจากการค้าหล็กในตลาดโลกและในไทยซบเซา อันเป็นผลจากปริมาณการผลิตเหล็กแท่งออกสู่ตลาดโลกมีค่อนข้างจำกัดเหตุความล่าช้าในการตกลงการปรับีราคาขาย แต่ยังประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 10 สตางค์ กำหนดจ่าย 4 กันยายนนี้

ราคาหุ้น บริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน) ( BSBM ) วานนี้มีแรงซื้อเข้ามามากพอสมควร โดยเปิดตลาดที่ราคา 1.35 บาท ขณะที่วันก่อนปิดที่ 1.28 บาท ตลอดทั้งวันราคาหุ้นขยับขึ้นลงเล็กน้อยในช่วงแคบ โดยปรับไปสูงสุดระหว่างวันที่ราคา 1.51 บาท ต่ำสุดที่ 1.35 บาท ก่อนปิดตลาดที่ราคา 1.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.17 บาท คิดเป็น 13.28% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 66.31 ล้านบาท

นายวีระวิทย์ ดุละลัมพะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน) ( BSBM ) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 107.32 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 133.98 ล้านบาท ส่งผลให้จากเดิมที่ขาดทุนต่อหุ้น 12 สตางค์เป็นมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 9 สตางค์ หรือกำไรทะยานร้อยละ 180.10 สวนทางกับรายได้ไตรมาส 2 ปีนี้ลดลงจากเดิมที่มี 1,241.60 ล้านบาท เหลือ 980 ล้านบาท

โดยรายได้ในไตรมาสที่สองของปี 2549 บริษัทมียอดขายรวม 54,386 ตัน คิดเป็นรายได้จากการขายจำนวน 966 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21 และ ร้อยละ 22 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ เนื่องจากการค้าเหล็กโลกรวมถึงการค้าเหล็กในไทยเป็นไปอย่างซบเซา

เพราะปริมาณการผลิตเหล็กแท่งเล็ก และเหล็กแท่งแบน ออกสู่ตลาดโลกมีค่อนข้างจำกัดด้วยเหตุแห่งความล่าช้ากว่าปกติของข้อตกลงการปรับเพิ่มขึ้นของราคาสินแร่เหล็กระหว่างผู้ประกอบการเหมืองแร่รายใหญ่ของโลกกับผู้ผลิตเหล็กแท่งเล็กและเหล็กแท่งแบนในภูมิภาคที่สำคัญของโลกขณะเดียวกับที่ปริมาณความต้องการใช้เหล็กเส้นภายในประเทศเริ่มอ่อนตัวลงเนื่องจากปัจจัยภายในประเทศเองเช่น ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการลดลงและความไม่แน่นอนทางด้านการเมือง เป็นต้น

ขณะที่ค่าใช้จ่ายและกำไรพบว่า บริษัทมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายในไตรมาสที่สองของปีนี้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมาและปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนโดยมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายในรอบบัญชีนี้อยู่ที่ร้อยละ 11.2 ของรายได้ (ไตรมาสที่ 1/2549อยู่ที่ร้อยละ 7.0 และไตรมาสที่ 2/2548 อยู่ที่ร้อยละ -9.5) โดยการปรับตัวดีขึ้นมีสาเหตุสำคัญมาจากการปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาเหล็กโลกจากการมีปริมาณผลิตออกสู่ตลาดอย่างจำกัด ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบเหล็กแท่งเล็กที่สั่งซื้อล่วงหน้ามีราคาที่สามารถให้อัตรากำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างสูง ณ วันที่ผลิตเป็นเหล็กเส้นและนำออกจำหน่าย

จากอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและการมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่มีสัดส่วนลดลงเหลือเพียงร้อยละ 0.3 ของรายได้ เนื่องจากมีการพึ่งพิงเงินกู้ยืมระยะสั้นเพื่อหมุนเวียนทางการค้าในปริมาณที่ลดลงตามธุรกรรมการค้าและใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทเองเป็นส่วนใหญ่ ทำให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ สำหรับงวดไตรมาสที่ 2/2549 นี้ ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 11.0 ของรายได้ (ไตรมาสที่ 1/2549 อยู่ที่ร้อยละ 6.6และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีอัตราผลขาดทุนคิดเป็นร้อยละ -10.8 ของรายได้) โดยมีกำไรสุทธิในงวดนี้ทั้งสิ้น 107.3 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 180.1

พร้อมกันนี้ BSBM ยังแจ้งผลการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2549 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2549 ซึ่งได้ให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบชุดปัจจุบันซึ่งจะครบกำหนดการดำรงตำแหน่งตามวาระในวันที่ 25 สิงหาคม 2549 เป็นคณะกรรมการตรวจสอบอีกวาระหนึ่ง มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปีโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2549 ถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2552 โดยประกอบด้วยประธานกรรมการตรวจสอบคือ ร.ต. ชุมพล พุ่มรุกขา และกรรมการตรวจสอบคือ นายชรินทร์ หาญสืบสาย และนายยรรยง พวงราช ส่วนเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบคือนางสาววันดี ภูริวิภาค

พร้อมกับอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 แก่ผู้ถือหุ้นที่มีปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนหุ้นของบริษัท ฯณ วันที่ 23 สิงหาคม 2549 เวลา 12.00 น. ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 คิดเป็นเงินจำนวน 113,250,000 บาท

กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ในวันที่ 23 สิงหาคม 2549 เวลา 12.00 น.และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวในวันที่ 4 กันยายน 2549