Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 สิงหาคม 2549
หลากปัจจัยลบทำเพชรไทยอับแสงเร่งแก้ปัญหาส่งออกคาดโต20%เท่าเดิม             
 


   
search resources

Jewelry and Gold




อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย เจอหางเลขพิษเศรษฐกิจ ราคาทองผันผวนเป็นเหตุ แต่ยังมีการเติบโตของการส่งออก 20% เท่าปีที่ผ่านมาอยู่ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้าน

นายสุทธิพงษ์ ดำรงค์สกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ.จี.เอส. จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมอัญธานี เปิดเผยว่า ปัญหาทางเศรษฐกิจ การเมืองและราคาทองในตลาดโลกนั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย ได้รับผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะราคาทองในตลาดโลกที่มีการผันผวนใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้การส่งออกมีปัญหาบ้าง แต่ก็สามารถเจรจากับคู่ค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมาที่ 20% มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท เนื่องจากตลาดยังให้ความมั่นใจในฝีมือและคุณภาพสินค้าอยู่ โดยมีประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปเป็นตลาดสำคัญในการส่งออก

ในขณะที่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอัญธานีเองนั้น สามารถสร้างรายได้จากการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% จากตัวเลขการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ 1 แสนล้านบาท จากจำนวนผู้ประกอบการที่มีอยู่กว่า 80 บริษัท คิดเป็นจำนวนแรงงานประมาณ 12,000 ราย โดยกว่า 80 % เป็นบริษัทจากต่างประเทศ และที่เหลือเป็นผู้ประกอบการที่เป็นคนไทยในลักษณะการดำเนินธุรกิจแบบเอสเอ็มอีทั้งหมด ทั้งนี้คาดว่าภายในสิ้นปีจะมีผุ้ประกอบการเพิ่มขึ้นอีก 20 บริษัท

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ตลาดอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในระดับโลก ที่กำลังเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของไทยในขณะนี้ คือ จีน อินเดีย และเวียดนาม เนื่องจากเป็นประเทศที่มีแรงงานมากและมีค่าแรงที่ถูกกว่า ในขณะที่ทางภาครัฐเองก็กำลังสนับสนุนอุตสาหกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ส่วนไทยนั้นมีเสียเปรียบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของภาษีเงินได้นิติบุคคลที่มีระยะเวลาเพียง 8 ปี ให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามา แต่บางประเทศที่เป็นคู่แข่งให้มากกว่าถึง 15 ปี รวมไปถึงภาวะการแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านการขนส่ง ทำให้การเติบโตของการส่งออกไม่สูงนัก

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อใดที่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ จะช่วยให้ต้นทุนของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมอัญธานีลดลงอีกประมาณ 5 % จาก 15-18% เหลือเพียง 12% แต่หากต้องการแข่งขันกับตลาดโลกได้ ด้านการขนส่งจะต้องไม่เกินตัวเลข 2 หลัก หรือต่ำกว่า 10%

ปัจจุบันภาพรวมอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมีแรงงานประมาณ 1.2 ล้านคน แต่ยังขาดแรงงานอยู่อีกประมาณ 20% โดยเฉพาะแรงงานที่มีมีฝีมือ และส่วนของผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเป็นระดับ เอสเอ็มอีกว่า 70% และการลงทุนจากต่างประเทศ 30% โดยผู้ประกอบการคนไทยนั้นที่ได้มีการลงทะเบียนไว้มีประมาณ 2,000 ราย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us