Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 สิงหาคม 2549
กบข.รับช่วงต้นปีขายหุ้นทำกำไรเผย4เดือนหลังมีสิทธิ์ปรับพอร์ต             
 


   
www resources

โฮมเพจ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

   
search resources

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ - กบข
Investment




เปิดพอร์ตกบข.ครึ่งปีแรกปรับพอร์ตลงทุนในตลาดหุ้นเหลือแค่ 11% จากสิ้นปีที่ผ่านมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยกว่า 14% ของพอร์ต “วิสิฐ”รับในช่วงต้นปีหลังดัชนีตลาดหุ้นทะยานทยอยขายหุ้นทำกำไร แถมยังโยกเงินลงทุนตราสารหนี้เพิ่มจาก 67.85% เมื่อสิ้นปีก่อนเป็น 72.07% ในครึ่งปีแรก ส่วนแนวโน้มการลงทุนใน 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เชื่อตลาดหุ้นยังแกว่งตัว ยืนยันยังถือเงินสดเตรียมเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นได้อีก แต่ถ้าสถานการณ์ไม่เอื้อก็พร้อมลดน้ำหนักลงทุนบวก-ลบ 1% ของพอร์ตลงทุนหุ้น ขณะที่ความคืบหน้าการจัดตั้งบลจ. คาดภายในสิ้นปีได้เห็นการเข้าถือหุ้นในบลจ.ของกบข.เพื่อเป็นพันธมิตรการทำธุรกิจ มุ่งสู่การเป็นสถาบันการออมเพื่อวัยเกษียณ

นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของกบข.ในครึ่งปีแรกต้องยอมรับว่าในช่วงต้นปีได้มีการปรับพอร์ตการลงทุน โดยให้น้ำหนักกับการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น โดยในส่วนของการลงทุนในตลาดหุ้นได้มีการขายหุ้นออกบางส่วนเพื่อทำกำไร ซึ่งถือเป็นนโยบายการลงทุนปกติที่ต้องปรับสัดส่วนลงทุนในหุ้นบางตัวที่ราคาสูง และย้ายไปลงทุนในหุ้นตัวอื่น โดยในครึ่งปีแรกสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นลดลงเหลือประมาณ 11% ของพอร์ตเมื่อเทียบกับในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาที่มีการลงทุนในตลาดหุ้นราว 14%

สำหรับนโยบายลงทุนของกบข.ในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ นายวิสิฐ ให้ความเห็นว่า การลงทุนในตลาดหุ้นอาจจะปรับลดน้ำหนัก หรือเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นได้อีก 1% ของพอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นในปัจจุบันที่เหลือประมาณ 11% ของพอร์ต เนื่องจากได้มีการกันเม็ดเงินบางส่วนเพื่อลงทุนในตลาดหุ้น แม้การเมืองจะมีความชัดเจนมากกว่าในช่วงปลายปีทีผ่านมา แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายวิสิฐกล่าวว่า การลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนกบข.ยังคงให้น้ำหนักกับหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากกลุ่มพลังงานได้รับปัจจัยบวกโดยตรงจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่ม ขณะที่หลักทรัพย์บางกลุ่มแนวโน้มผลการดำเนินงานปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมัน และดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่ม

สำหรับนโยบายการลงทุนของกบข.ในช่วงครึ่งปีแรกได้มีการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตราสารหนี้เพิ่ม ขณะเดียวกันยังเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันกบข.ลงทุนในต่างประเทศประมาณ 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นลงทุนเองประมาณ 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และลงทุนผ่านผู้จัดการกองทุนในประเทศ ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้และตลาดหุ้นแบ่งเป็น 50 ต่อ 50

ทั้งนี้ พอร์ตการลงทุนของกบข. ล่าสุด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2549 มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิจำนวนทั้งสิ้น 305,766 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 72.07% ตราสารทุน 10.53% อสังหาริมทรัพย์ 2.96% การลงทุนทางเลือก 4.99% การลงทุนต่างประเทศ 9.45%

ขณะที่ในช่วงสิ้นปี 2548 กบข.ลงทุนในตราสารหนี้ 67.85% ตราสารทุน 13.68% อสังหาริมทรัพย์ 3.09% การลงทุนทางเลือก 5.93% และลงทุนในต่างประเทศ 9.45%

นายวิสิฐ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าในการขยายเพดานการลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศ และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยกบข.ขอขยายเพดานการลงทุนในตลาดหุ้นจาก 20% เป็น 30% ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ ขอขยายเพดานการลงทุนจาก 10% เป็น 20% ซึ่งหากได้รับการอนุมัติจะทำให้การลงทุนของกบข.ในอนาคตมีความคล่องตัวมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนในระยะยาว

ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นายวิสิฐ กล่าววา รูปแบบในเบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ โดยแนวทางจะเป็นการเข้าไปร่วมทุนกับบลจ.ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยแผนการดำเนินงานของบลจ.ที่ร่วมทุนจะให้น้ำหนักกับการเป็นสถาบันการออมแห่งชาติ เพื่อรองรับการออมในวัยเกษียณในอนาคต

นอกจากนี้ ในส่วนของการลงทุนในต่างประเทศ หลังจากที่กบข.ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สามารถนำเงินไปลงทุนต่างประเทศได้ จากที่ก่อนหน้ามีเงินลงทุนต่างประเทศบางส่วนที่กบข.ต้องลงทุนผ่าน กองทุนรวมลงทุนต่างประเทศ (FIF) ซึ่งคิดเป็นวงเงินราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้กบข.ได้ยกเลิกสัญญาเรียบร้อยแล้ว และนำเงินดังกล่าวมาบริหารเอง ซึ่งทำให้การบริหารมีความคล่องตัวมากขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 5-6% ต่อปี

นอกจากนี้ กบข.ยังมีนโยบายเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงเฉลี่ยประมาณ 8-10% ต่อปี ซึ่งผู้จัดการกองทุนที่ดูแลอยู่ระหว่างคัดเลือกประเภทสินทรัพย์ลงทุน และยังสามารถขยายการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้อีก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us