ออมสินปั้นกลุ่มออมทรัพย์ฯ ลำไทร เป็นองค์กรการเงินชุมชนแห่งแรกของประเทศ ส่งเสริมการออมและมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเงินในกลุ่ม เผยสนับสนุนกลุ่มออมทรัพย์ทั่วประเทศไปแล้วกว่า 2 หมื่นกลุ่ม ทำให้เกิดเงินออมรวม 4.8 พันล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้เตรียมคัดกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต-กองทุนหมู่บ้านที่มีศักยภาพและมีความพร้อมเป็นองค์กรการเงินเพิ่มอีก 80 แห่ง

นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เป็นประธานร่วมกับ นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดองค์กรการเงินชุมชน กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตลำไทรว่า ตามที่ธนาคารออมสินได้มีนโยบายในการสร้างเศรษฐกิจชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชุมชนมีสถานที่ในการออมเงิน มีแหล่งเงินทุนใช้หมุนเวียนในการสร้างรายได้ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงขึ้นในระบบเศรษฐกิจชุมชน โดยธนาคารได้ให้การสนับสนุนในด้านความรู้และฝึกฝนทักษะในด้านต่างๆ แก่องค์กรและชุมชน ทั้งการบริหารจัดการ การทำบัญชี และด้านเงินทุน จนสามารถยกระดับขึ้นเป็นสถาบันการเงินชุมชน ธนาคารชุมชน หรือธนาคารหมู่บ้านได้นั้น

สำหรับกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตลำไทร ซึ่งมีที่ทำการ ณ หมู่ที่ 2 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของความเข้มแข็งของชุมชน ที่ธนาคารออมสินได้ทำการคัดเลือกและยกระดับขึ้นเป็นองค์กรการเงินชุมชนแห่งแรกของไทย ในลักษณะเดียวกับการยกระดับกองทุนหมู่บ้านขึ้นเป็นสถาบันการเงินชุมชน โดยกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตลำไทร ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2541 ด้วยสมาชิกเริ่มแรกจำนวน 35 คน และได้เจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ในปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 233 คน และมียอดเงินออมสะสมจำนวน 1,671,400 บาท ซึ่งที่ผ่านมานอกจากกลุ่มออมทรัพย์ฯ จะมีแหล่งเงินทุนในระบบให้กับสมาชิกแล้ว สมาชิกยังได้รับความสะดวกด้านสถานที่ในการออมเงิน ซึ่งส่งผลให้เกิดวินัยในการออมเงินตามมา รวมทั้งทำให้สมาชิกได้มี ส่วนร่วมในการบริหารจัดการทางการเงินภายในกลุ่ม และเกิดเป็นความร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารออมสินได้ให้การสนับสนุนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตทั่วประเทศทั้งสิ้น 23,365 กลุ่ม ซึ่งทำให้เกิดเงินออมรวม 4,800,000,000 บาท และธนาคารได้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มออมทรัพย์ไปแล้วกว่า 13,760,000 บาท โดยภายในปี 2549 ธนาคารยังเตรียมคัดเลือกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต และกองทุนหมู่บ้านที่มีศักยภาพและความพร้อม เพื่อยกระดับเป็นองค์กรการเงินและสถาบันการเงินชุมชนอีกรวม 80 แห่ง