Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 สิงหาคม 2549
STARยันเป้าปีนี้ขยายตัวกว่า 20%เมินปัจจัยการเมือง-เน้นรุกงานระดับพรีเมียม             
 


   
www resources

โฮมเพจ สตาร์ ซานิทารี่แวร์

   
search resources

Sanitary Wares
สตาร์ ซานิทารี่แวร์, บมจ.




สตาร์ ซานิทารีแวร์ ยังคงเป้าการเติบโตปีนี้ 20% ชี้ปัญหาการเมืองไม่กระทบการดำเนินงาน เพราะส่วนใหญ่ส่งออก และเน้นงานระดับบนเป็นหลัก จากก่อนหน้าเน้นตลาดกลางและบน เผยผลงานไตรมาส 2 ยังคงเติบโตได้ตามคาด

นายสมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด(มหาชน) (STAR) เปิดเผยว่าแนวน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 จะออกมาดีต่อเนื่อง แม้ว่าโดยปกติของการดำเนินงานที่พบว่าครึ่งปีแรกจะไม่โดดเด่นเหมือนกับครึ่งปีหลังก็ตาม

แม้ว่าปัญหาการเมืองในประเทศที่คลุมเครือและยืดเยื้อมานาน จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของหลาย ๆ บริษัท แต่ในส่วนของ STAR ก็ได้รับผลกระทบแต่ไม่มาก เพราะตลาดสำคัญของบริษัทคือตลาดในต่างประเทศ

โดยฉพาะผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง ที่มั่นใจว่าจะเติบโตเหมือนทุกปี หลังจากที่บริษัทหันไปเน้นการผลิตสินค้า HI-END มากขึ้นจากก่อนหน้าที่เน้นทั้งสินค้าระดับกลางและบนควบคู่กัน หลังจากนี้จะหันไปเน้นสินค้าที่ระดับบนและเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่ม (VALLUE ADDED ) ซึ่งเป็นการปรับแผนการดำเนินงาน เพื่อรองรับภาวะที่ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มตลอดจนค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น เพราะสินค้ามูลค่าเพิ่ม จะทำให้ส่วนต่างระหว่างรายได้และต้นทุนการดำเนินงานไม่ต่างกันมาก

นายสมชัยกล่าวว่าออร์เดอร์สินค้าตัวเก่าจะค่อย ๆ หมดไป ขณะที่ออร์เดอร์สินค้าใหม่ก็จะมีเข้ามาเรื่อย ๆ จนทดแทนของเดิม หลังจากนั้นสินค้ามูลค่าเพิ่มก็จะพัฒนาด้วยการออกสินค้าตัวใหม่เรื่อย ๆ ด้วย ซึ่งบริษัทปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อรองรับการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มต่อเนื่อง ล่าสุดใส่เงิน 20 ล้านบาท ปรับปรุงเครื่องจักรให้ทันสมัย

สำหรับการปรับแผนการผลิตของ STAR เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 48 ด้วยการเน้นทำวิจัยและพัฒนาออกแบบสินค้าเพื่อให้เห็นผลในปีนี้ โดยพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากปัญหาการเมืองที่อึมครึมต่อเนื่อง ส่งผลให้การผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มดำเนินการได้ในกลางปีนี้ ซึ่งบริษัทเริ่มผลิตเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนี้

จากก่อนหน้าที่การขายสินค้าของบริษัทถูกล็อกด้วยราคา แต่หลังจากที่พัฒนาให้เป็นสินค้าที่เพิ่มมูลค่า ทำให้ราคาขายสินค้าปรับเปลี่ยนไปตามมูลค่าการผลิต ประกอบกับที่บริษัทเน้นการส่งออกเป็นหลัก ดังนั้นผลกระทบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศจึงไม่ได้รับมากเหมือนกับบริษัทอื่น

นายสมชัยกล่าวต่อว่า ขณะนี้ STAR มีแผนที่จะลุยงานสุขภัณฑ์ในห้องน้ำให้ครบวงจร ด้วยการให้ผู้ผลิตสินค้าในหลาย ๆ อย่าง แล้วใช้แบรนด์ของบริษัท เพื่อขายให้กับลูกค้า เป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ขณะเดียวกันบริษัทก็ไม่จำเป็นต้องผลิตสินค้าทุกชนิด แต่เน้นการซื้อมาแล้วขายให้ตามออร์เดอร์ลูกค้าที่สั่งเข้ามา

“เราจะจ้างคนอื่นผลิตให้สำหรับสินค้าที่ไม่ใช่เซรามิก ขณะที่เซรามิกเราจะผลิต เพื่อที่เราจะควบคุมการผลิตได้และเป็นสินค้าเกรดดี และเป็นสิ่งที่ถนัด ส่วน นอนเซรามิก เราต้องอาศัยคนอื่นผลิตให้ จุดนี้เราจะซื้อมาขายไป แต่เราก็ต้องควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานของเรา เพื่อลดความเสี่ยงที่เราไม่ต้องขายเซรามิกอย่างเดียว ” นายสมชัยกล่าว

สำหรับแผนงานที่ปรับใหม่นั้น จะส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 และ 4 ที่เหลือก็น่าจะเป็นไปได้ตามเป้า ดังนั้น ปีนี้ STAR จึงยังคงเป้าการเติบโตของบริษัทไว้ที่ระดับ 20% จากปีก่อน ประกอบกับตลาดในประเทศนั้น บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านช่องทางร้านขายวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสให้กับบริษัทด้วย

นอกจากนี้ STAR ยังมีแผนที่จะลดตัวเลขอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E RATIO) ของบริษัท จากปัจจุบันที่มีอยู่ 0.8 ต่อ 1 เท่า ให้ลดลงอยู่ในระดับ 0.5-0.6 ต่อ 1 เท่า เพราะไม่ต้องการให้ตัวเลขหนี้สินมีเกินจำเป็น คาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าใน 2-3 ปีนี้

“ค่าเงินไม่ได้มีนัยต่อเรามาก เพราะเราต้องพัฒนาสินค้าของเราให้เพิ่มมูลค่าต่อไปเรื่อย ๆ ของเก่าก็จะหมดไป ลูกค้าเราจะสั่งของใหม่มา แต่ของเก่าก็จะหมดลง เป็นธรรมดาของการผลิตสินค้าและการซื้อขาย ” นายสมชัยกล่าว

โดยลูกค้าของ STAR เป็นลูกค้าเดิมที่มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกันและติดต่อซื้อขายกันมานาน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่อยู่ในญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งตลาดเหล่านี้ต้องการใช้สุขภัณฑ์ในห้องน้ำมีมากขึ้น และแต่ละตลาดก็ต้องการสินค้าที่แตกต่างกันออกไป ส่งผลให้บริษัทต้องพัฒนาและผลิตสินค้าใหม่ ๆ ตลอดเวลา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us