Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์7 สิงหาคม 2549
แพลทินั่ม:"ไฮโซเทียม"หรือ"ผู้ดีแท้" พรีเมี่ยมเซ็กเม้นท์ที่แบงก์ไม่เคยวางตา             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกสิกรไทย

   
search resources

ธนาคารกสิกรไทย, บมจ.
Credit Card
ขัตติยา อินทรวิชัย




สมัยก่อนถ้าใครถือ "บัตรเครดิตสีดำ" อยู่ในมือ บุคคลนั้นจะถูกจัดชั้นให้อยู่ในกลุ่ม "อภิคหบดี" เป็นที่นับหน้าถือตา บ่งบอกถึงสถานภาพทางสังคม...แต่วันนี้เจ้าของ "บัตรแพลทินั่ม"ไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมือง ผู้ลากมากดี นามสกุลดัง มีสกุลรุนชาติ แค่มีรายได้ระดับสูง ก็เพียงพอจะเอื้อมถึง "การ์ดสีดำ"ได้ ขณะที่แบงก์ต่างๆจะเอาอกเอาใจประหนึ่ง"ราชา"... "แพลทินั่ม"ในความหมายใหม่ ในเซ็กเม้นท์ไฮ-เอนด์ จึงแยกไม่ออกว่า แท้จริงแล้วเจ้าของบัตรถูกจัดอยู่ในกลุ่มไหนระหว่าง "ไฮโซเทียม" หรือ "ผู้ดีแท้" เพราะเวลานี้การได้ครอบครองบัตรสีดำเกือบจะไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเหมือนในอดีต....

" สมัยก่อน การเป็นเจ้าของบัตรแพลทินั่มทำได้ยากมาก ถ้าเป็นแต่ก่อนต้องถือบัตรอเมริกันเอ็กซเพลส จึงจะดูหรูหรา แต่สมัยนี้คนที่ถือบัตรจะมีมากขึ้น" ...

ขัตติยา อินทรวิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(เคแบงก์) อธิบายถึงการครอบครองบัตรสีดำ นับจากอดีตถึงปัจจุบันได้ค่อนข้างชัดเจน

เคแบงก์ เป็นหนึ่งใน 7 สถาบันการเงินที่ให้บริการครอบคลุมไปถึงลูกค้าในตลาดบน หรือ พรีเมี่ยมเซ็กเตอร์ ที่จัดเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีอำนาจซื้อมหาศาล แต่แพลทินั่มของเคแบงก์ก็จำกัดวงเริ่มต้นรายได้ขั้นต่ำ 250,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปเท่านั้น

บัตรแพลทินั่มของค่ายนี้จึงมีฐานที่ค่อนข้างแคบคือ มีเพียง 5 พันกว่าบัตร โดยคะเนว่าสิ้นปีนี้จะไต่ขึ้นมาอีก 2 พันบัตร รวมกับบัตรเครดิตอื่น ก็จะมีปริมาณ 1 ล้านบัตร ขณะที่ปัจจุบันมีฐานบัตรเครดิตราว 9 แสนบัตร

ขัตติยา บอกว่า กลุ่มนี้ฐานไม่กว้างแต่ยอดใช้จ่ายต่อบัตรค่อนข้างสูง เพราะลูกค้าเป็นกลุ่มที่ต้องการความหรูหรา มีระดับ อย่างไรก็ตามระยะหลังการให้นิยามคำว่าแพลทินั่มเปลี่ยนไป ไม่ใช่กลุ่มสังคมชั้นสูงเพียงไม่กี่รายเหมือนเมื่อก่อน แบงก์แทบทุกแห่งเริ่มขยับขยายฐานให้กว้างขึ้น โดยกำหนดรายได้ต่ำลง

จากนั้นกลุ่มตลาดไฮ-เอนด์ ก็แยกออกเป็น 2 กลุ่มคือ "แมส แพลทินั่ม" และ "พรีเมี่ยม แพลทินั่ม" โดยฝ่ายแรกเลือกจะเริ่มต้นรายได้ขั้นต่ำประมาณ 50,000 หรือ 70,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ไม่นานนักตลาดที่เคยแยกตัวเองออกจากสังคมทั่วไปก็ขยายวงกว้างขึ้น

แบงก์แทบทุกแห่งไม่ว่า กรุงศรี-จีอี ไทยพาณิชย์ ซิตี้แบงก์ เคทีซีหรือแม้แต่แคปปิตอลโอเค ต่างก็หันมาจับที่กลุ่มแมส แพลทินั่มมากขึ้น จากนั้นแพลทินั่มก็ไม่ใช่ตัวบ่งชี้สถานภาพทางสังคมอีกต่อไป

ขัตติยา บอกว่า เคแบงก์กำลังจะเลื่อนมาจับตลาด แมส แพลทินั่ม โดยกำหนดรายได้ขั้นต่ำ 1 แสนบาทขึ้นไป แต่ลูกค้าต้องยอมรับเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ที่ไม่เท่าเทียมกัน

" กลุ่มนี้อาจจะมีไม่มากราย แต่การใช้จ่ายต่อรายสูงถึง 1 ล้านบาทต่อเดือนก็มี"

มาริอาโน เรซิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสาร ธนาคาร เอชเอสบีซี (HSBC)ไทย บอกว่า สำหรับ เอชเอสบีซี จะใช้ชื่อว่าบัตรพรีเมียร์ ที่มีความหมายเอ็กคลูซีฟกว่า ขณะที่แบงก์อื่นจะใช้แพลทินั่มกันหมด

กลุ่มลูกค้า เอชเอสบีซี จะไม่กำหนดรายได้ขั้นต่ำ แต่จะนับจากลูกค้าที่มีเงินฝากกับธนาคารตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป และลูกค้าที่มีการลงทุนกับธนาคาร 3 ล้านบาทขึ้นไปเช่นกัน ซึ่งเป็นนโยบายเอชเอสบีซีทั่วโลก

ลูกค้ากลุ่มนี้จึงมักจะได้รับการดูแลราวกับ "ราชา" นั่นคือนอกจากไม่คิดค่าธรรมเนียมทุกประเภทตลอดชีพแล้ว ก็จะได้สิทธิประโยชน์รวมถึงการให้บริการที่เหนือกว่าบัตรทั่วไป

" ลูกค้ามีรายได้สูง ใช้เงินไปกับการท่องเที่ยว และใช้จ่ายสูง ส่วนใหญ่จึงไม่อยากเสียดอกเบี้ย มักจะจ่ายเต็มจำนวน"

มาริอาโน ยอมรับว่า การเริ่มมาจับตลาดนี้ไม่ได้รุกแรงเหมือนค่ายอื่น แต่ถ้าวันหนึ่งพร้อมก็จะตัดสินใจบุกอย่างเต็มตัว อย่างไรก็ตามเนื่องจากตลาดมีขนาดเล็ก แต่ก็มีโอกาสโตเร็ว ดังนั้นระยะแรกเอชเอสบีซีจึงมีการให้บริการทั้งเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ ด้านการลงทุน และดูแลสิทธิประโยชน์ให้เป็นการส่วนตัว

วรรวิมล กนกธนาพร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บัตรกรุงศรีอยุธยา ยอมรับว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมีทีมงานรองรับ เพราะส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้บริหารระดับสูง มีอำนาจการซื้อสูง ความต้องการจึงหลากหลาย ซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ

นับจากเริ่มทำตลาดเมื่อต้นปีนี้ บัตรกรุงศรี-จีอี ก็มีฐานลูกค้ามากถึง 55,000 ราย โดยมีฐานรายได้ตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป มียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 20,000 บาทต่อเดือน โดยเชื่อว่าสิ้นปีจำนวนบัตรจะขึ้นมาที่ 60,000 ใบ

" การขยายตลาดบัตรเครดิต รวมถึงบัตรแพลทินั่มจะอาศัยเครือข่ายสาขาแบงก์กรุงศรีฯเป็นช่องทางเจาะเข้าถึงลูกค้า โดยที่ผ่านมามีการเติบโตที่ค่อนข้างสูง"

ธีรพจน์ โชคอนันตัง ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจบัตรเครดิต บมจ.บัตรกรุงไทย บอกว่า ตลาดแพลทินั่มขยายตัวเร็วมาก เพราะมีศักยภาพสูง ส่วนหนึ่งการขยายฐานที่กว้างขึ้นเป็นผลจากลูกค้าที่ถือบัตรเงินและบัตรทองเริ่มมีศักยภาพสูง ก็จะขยับมาที่ตลาดแพลทินั่ม ในขณะที่สมัยก่อนตลาดกลุ่มนี้จะมีค่อนข้างน้อย

ปัจจุบัน เคทีซี มีบัตรแพลทินั่ม 50,000 ใบ โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะขยับมาถึง 1 แสนใบ โดยกำหนดรายได้ขั้นต่ำที่ 70,000 บาทขึ้นไป มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือน 15,000-20,000 บาท ซึ่งในอนาคตมีโอกาสจะขึ้นมาแตะ 30,000 บาท

" กลุ่มนี้จะผ่อนน้อย แต่ใช้จ่ายเยอะ เราจึงต้องใช้โปรโมชั่นที่ค่อนข้างไลฟ์สไตล์ตามคอนเซ็ปท์ของเรา คือเปิดกว้างขยายพันธมิตร เพื่อเพิ่มความสะดวก สบายให้กับลูกค้า"

การหันมาจับตลาดพรีเมี่ยมของทุกแบงก์ จึงเลี่ยงไม่พ้นการเปิดกว้างกับพันธมิตรทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความสะดวกของลูกค้าระดับบน ทำให้สนามแข่งขันในระยะหลังหันมาเชือดฉือนกันที่สิทธิประโยชน์ที่เหนือชั้นอย่างต่อเนื่องในลักษณะพันธมิตรมากกว่าศัตรู เพียงแต่ใครที่เดินได้เร็วและไกลกว่า คนนั้นก็จะเป็นผู้นำตลาด....   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us