"บลจ.ทหารไทย" เปิดตัว The Library ห้องสมุดการเงิน ตอกย้ำกลยุทธ์ CRM ชูจุดเด่นด้านบริการ แบบฉีกประเพณีปฏิบัติของธุรกิจจัดการลงทุนทั่วๆไป เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า และขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งแต่ละปียังเติบโตได้อีกมาก ขณะที่ระบบ Call Center จะสมบูรณ์แบบและได้เห็นในช่วงปลายปี พร้อมก้าวสู่ผู้นำด้านบริการครบวงจร...

การเปิดห้องสมุดการเงิน (The Library) ชั้น 4 โซน B ภายในศูนย์สรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้เข้าไปใช้บริการได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการบริการพิเศษแก่ลูกค้าของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทหารไทย และเป็นนวัตกรรมในการบริการที่ยังไม่เคยมี บลจ.ใดเคยทำมาก่อน

ภายใน The Library จะประกอบด้วยหนังสือที่น่าสนใจทั้งด้านการเงิน การธนาคาร การลงทุน การตลาด รวมทั้งการบริหารการจัดการโดยนักเขียนชื่อดัง ตลอดจน หนังสือพิมพ์ นิตยสารการเงินต่างๆ ทั้งภาษาไทยและต่างประเทศ เพื่อให้ผู้ถือหน่วยของบริษัทได้เข้ามาใช้บริการในการค้นคว้าข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งทั้งหมดเป็นหนังสือที่บริษัทคัดสรรมาไว้เพื่อบริการพิเศษ

นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการอินเตอร์เน็ตเพื่อการค้นคว้าข้อมูล การบริการของว่างและเครื่องดื่ม และเหนือสิ่งอื่นใด ผู้ถือหน่วยยังสามารถขอคำปรึกษาในการลงทุนได้ด้วยภายใต้การดูแลจากเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการ กลต. (Single License) โดยจะเปิดให้บริการระหว่างเวลา 10.00 น. - 20.00 น. ลูกค้าสามารถนำบัตรประจำตัวผู้ถือหน่วยไปลงทะเบียนเพื่อรับบัตรเข้าใช้ห้องสมุดนี้ได้ทุกวัน

โชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บลจ. ทหารไทยมีความมั่นใจว่าการมุ่งเน้นด้านการให้บริการลักษณะนี้จะเป็นการสร้าง value added ให้ลูกค้า อำนวยความสะดวกสบายทุกๆด้านเพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ละเลยที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง (CRM) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ได้ให้ความสำคัญมาตั้งแต่ดำเนินงานมา ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ ดังนั้น นอกจากจะรักษาลูกค้าเก่าได้แล้วยังช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงอยู่ในขณะนี้

ปัจจุบัน บลจ.แต่ละแห่งไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แม้สิ่งสำคัญจะแข่งกันที่ผลตอบแทนของกองทุนที่ให้แก่ลูกค้าก็จะหนีกันไม่มาก ดังนั้นการบริการและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าจึงเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทจะให้ความสำคัญต่อเนื่อง นอกจากจะรักษาลูกค้าเก่าได้ยังช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง

ปีที่ผ่านมาบริษัทได้เร่งพัฒนารูปแบบการบริการตลอดมาเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาที่เกี่ยวกับการบริการหรือการพัฒนาทางระบบ และด้วยความตั้งใจที่จะเป็น "คู่ชีวิตการลงทุน”เพราะการทำงานของบริษัทจะมองในระยะยาว โดยจะเน้นการให้บริการที่ดี และให้ความรู้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน เพื่อให้เชื่อมั่นในการดำเนินงาน และทำการลงทุนกับบริษัทต่อไป

"ไม่ได้หวังว่าจะได้ลูกค้าใหม่โดยตรงจากการเปิดห้องสมุด แต่วัตถุประสงค์หลักคือการสร้างแบรนด์และภาพลักษณ์ที่ดีในการบริการลูกค้าให้กับ บลจ.ทหารไทย รวมทั้งสถานที่นี้ก็ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือหน่วยได้อีกด้วย เมื่อผู้ถือหน่วยพอใจกับบริการก็จะเกิดการบอกต่อกับคนอื่นๆซึ่งน่าจะช่วยให้มีคนสนใจเข้ามาถือหน่วยลงทุนของเรามากขึ้นด้วย"

นอกจากนี้ บลจ.ทหารไทย ยังได้เร่งพัฒนาเรื่องการบริการในรูปแบบต่างๆให้กับลูกค้าให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น จากก่อนหน้านี้ที่มีการให้บางบริการผ่านทางโทรศัพท์อัตโนมัติที่หมายเลข 02-6361800 แล้ว และขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ Call Center รวมถึงมีการจ้างเจ้าหน้าที่ที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจขายหน่วยลงทุน มาเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าอย่างครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบ สามารถทำรายการซื้อขายหน่วยลงทุนได้ ใช้งบลงทุนเบื้องต้นประมาณ 24 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในเดือนตุลาคม 2549 นี้

ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้าประมาณ 4 หมื่นบัญชี แบ่งเป็นกรุงเทพ 70% และต่างจังหวัด 30% และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 5 หมื่นบัญชี ตั้งเป้าส่วนแบ่งทางการตลาดว่าจะขยับจากอันดับ 4 ในปัจจุบันมาอยู่ในอันดับที่ 3 เป็นรองเพียง บลจ.กสิกรไทย, บลจ.ไทยพาณิชย์ และ บลจ.บัวหลวง และใน 5 ปีข้างหน้าก็มีเป้าหมายว่าจะมีรายได้จากช่องทางในการจำหน่ายของ 3 ทางในสัดส่วนใกล้เคียงคือ จากธนาคารทหารไทยซึ่งเป็นบริษัทแม่, ตัวแทนจำหน่าย และทางอินเทอร์เน็ต-โทรศัพท์ซึ่งถือเป็นการซื้อโดยตรง ซึ่งการซื้อ-ขายทางตรงนี้จะทำให้บลจ.มีต้นทุนที่ต่ำกว่าช่องทางอื่น เนื่องจากช่วยลดต้นทุนการจัดจำหน่ายลงได้

ด้วยนวัตกรรมการบริการอันโดดเด่นและช่องทางการจัดจำหน่ายรวมถึงการที่ผู้ถือหน่วยจะสามารถเข้าถึงอย่างสะดวกสบายในรูปแบบ Customer Touch ลูกค้าสัมผัสได้ ถือเป็นปัจจัยหลักอันแข็งแกร่งของ บลจ.ทหารไทย ในการครองใจลูกค้าเพื่อที่จะก้าวสู่การครองส่วนแบ่งการตลาดที่สูงมากขึ้น ซึ่ง บลจ.อื่นที่ยังคงอาศัยช่องทางการจัดจำหน่ายหลักผ่านธนาคารที่เป็นบริษัทแม่และครองส่วนแบ่งในอันดับต้นในปัจจุบันจะประมาทไม่ได้

ในการต่อสู้ระยะประชิด ผลตอบแทนจากการลงทุน ณ วันนี้แต่ละ บลจ.มีความแตกต่างกันไม่มากนัก ด้วยจุดเด่นด้านมูลค่าเพิ่มจากการบริการของ บลจ.หทารไทย จึงเปรียบเสมือนดาบปลายปืนที่ได้ถูกเสียบไว้แล้วที่ปากกระบอก และกำลังจ่อหลังของคู่แข่งอื่นอยู่ในขณะนี้