|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“อินเด็กซ์”เดินหน้ารักษาฐานลูกค้า-ส่วนแบ่งการตลาด ยอมเฉือนกำไรลง 3-5% ลดราคาสินค้าทันที หลังวิจัยพบว่า ลูกค้ารอช่วงเทศกาลลดราคาสินค้าจึงจะเลือกซื้อสินค้า ส่งกลยุทธ์ “Enjoy Customer Strategy”สยบคู่แข่ง
ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มีการแข่งขันรุนแรงไม่แพ้ธุรกิจอื่นๆ ซึ่งกลยุทธ์ที่นำมาห่ำหั่นกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราคา เพื่อสร้างยอดขายและแย่งส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างดุเดือน
เห็นได้จากผลการวิจัยที่พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไปนิยมซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ราคาถูกลง โดยไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพมากนัก และภาพดังกล่าวจะเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
ทำให้ผู้นำตลาดเฟอร์นิเจอร์อย่างอินเด็กซ์ต้องออกมาปรับกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ เพื่อรักษายอดขายและฐานลูกค้าไว้อย่างเหนียวแน่น โดยจะใช้ทุกกลยุทธ์เพื่อรักษาฐานลูกค้าและมาร์เก็ตแชร์ ด้วยการลดผลกำไร
โดยนำกลยุทธ์ ที่เรียกว่า Enjoy Customer Strategy หรือ ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางใช้ เพราะจากการนำผลการวิจัยพฤติกรรมและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคมาเป็นตัวชี้วัด พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับราคาในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มากที่สุด
“Enjoy Customer Strategy ”ประกอบด้วย 4 Joy ด้วยกัน อาทิ Joy Price Joy Quality Joy Design และ Joy Service เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าที่มีความคงทนและราคาไม่แพง
กิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด ในเครืออินเด็กซ์อินเตอร์เฟิร์น กล่าวถึงการนำกลยุทธ์ด้านราคามาใช้ในการแข่งขันในช่วงครึ่งปีหลังว่า เป็นเพราะภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูงและสภาพเศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว ประกอบกับผู้บริโภคเริ่มชะลอการใช้จ่ายลง ดังนั้น บริษัทจึงต้องกระตุ้นกำลังซื้อ เพื่อสร้างยอดขายให้ได้ตามเป้า ด้วยการนำ“Enjoy Customer Strategy ”มาใช้ในการสร้างยอดขาย และรักษาฐานลูกค้าในช่วงที่ยอดขายชะลอตัว
กลยุทธ์ดังกล่าว สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าในราคาถูก แต่มีคุณภาพ รวมถึงดีไซน์ทันสมัยและการบริการที่ดีรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นช่องทางให้บริษัทได้เริ่มทำการตลาด ด้วยการประกาศใช้ราคาเดียวโดยไม่ต้องรอลดราคา ซึ่งสินค้าจะมีราคาถูกลงกว่าเดิมประมาณ 20-30%และถ้าเทียบกับคู่แข่งจะถูกลงกว่า 50-70%
“เหตุผลที่เราจัดทำแคมเปญนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า แต่ยอมรับว่ากำไรที่ได้จากยอดขายจะลดลงประมาณ 3-5% อย่างไรก็ตาม จะเป็นผลดีต่อบริษัท เพราะจะมียอดขายเพิ่มมากขึ้นและเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นด้วย โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ซื้อบ้านใหม่ที่ต้องการตกแต่งบ้านเอง” กิจจากล่าว
ส่วนประมาณการณ์ยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% และคาดว่าสิ้นปีนี้ จะมียอดขายประมาณ 6,000 ล้านบาท หรือมีอัตราเติบโตจากปีก่อน 5-10% โดบปัจจุบันอินเด็กซ์มีสัดส่วนการขายในประเทศและส่งออกในสัดส่วนเท่ากันคือราว 50% โดยตลาดในประเทศจะขายเข้าโครงการ ขายปลีกและตัวแทนจำหน่าย และมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แบรนด์วินเนอร์ ประมาณ 25% เฟอร์นิเจอร์ออฟฟิต 25% และอินเด็กซ์ 50 %
|
|
|
|
|