Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2539
สถานีกรุงเทพฯ งานใหม่ ที่ท้าทายของเลื่อน กฤษณกรี             
 


   
search resources

ซันเอสเตท
เลื่อน กฤษณกรี
Real Estate




ออกจากตำแหน่งผู้ว่าการการปิโตจรเลียมแห่งประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2538 เลื่อน กฤษณกรี ก็มารับงานใหญ่ที่ท้าทาย ในบริษัทซันเอสเตทซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งในเครือทานตะวันต่อทันทีในตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร

งานใหญ่ที่ว่า คือ การก่อสร้างและบริหารโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ในที่ราชพัสดุบริเวณสถานีขนส่งหมอชิต เนื้อที่ 63 ไร่ มูลค่าสูงถึง 17,000 ล้านบาทหรือโครงการ "สถานีกรุงเทพฯ" ซึ่งบริษัทซันเอสเตท ประมูลได้จากกรมธนารักษ์ เมื่อประมาณต้นปี 2538

งานนี้จะทำให้สภาพของพื้นที่บริเวณขนส่งหมอชิตที่จอแจแออัด เพราะได้ทำหน้าที่เป็นสถานีรถยนต์โดยสารต่างจังหวัดของบริษัทขนส่ง จำกัด มานานนับกว่า 36 ปีแล้ว เปลี่ยนแปลงมีรูปโฉมใหม่เป็นสถานีศูนย์กลางการคมนาคม และขนส่งมวลชนที่ทันสมัยสมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย ด้วยแนวความคิดสำคัญ คือ การจัดระบบรถ และการจัดระบบคนให้เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

ส่วนประกอบของโครงการนี้ จะประกอบไปด้วยศูนย์กลางการคมนาคม และศูนย์อำนวยความสะดวก 280,000 ตารางเมตร และอาคารสำนักงานอีก 53,000 ตารางเมตร เป็นอาคารสูง 2 อาคาร

ในเรื่องของการจัดระบบรถโครงการนี้ จะต้องเตรียมรองรับโครงการพื้นฐานด้านการคมนาคม และขนส่งที่สำคัญกว่า 9 ประเภท คือ BTSC, BUS, บขส., MRTA, โฮปเวลล์, รถยนต์ส่วนบุคคล, แท็กซี่ และ MONORAIL

สำหรับแนวความคิดในการออกแบบระบบการจราจรนั้น มีการออกแบบในระบบสถานีปิด คือ รถทุกคันไม่มีการจอดรอ สามารถจอดรถเพื่อการรับ-ส่งเท่านั้น โดยจัดที่จอดรถสำหรับ บขส. แยกต่างหากจากตัวสถานี ใช้พื้นที่ถนนกำแพงเพชร 2 พร้อมทั้งวางแผนจัดทำถนน 3 ชั้น คือ 1. ระบบถนนยกระดับ และทางเชื่อมลอยฟ้า สำหรับรถ บขส. และรถยนต์ ซึ่งวิ่งเข้าวิ่งออก โดยใช้ RAMP ไม่มีการวิ่งในระบบพื้นดิน ดังนั้นในการจราจรระดับพื้นดิน จะใช้เฉพาะรถโดยสารประจำทางเท่านั้น

ด้วยระบบดังกล่าว เลื่อนมั่นใจว่า เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะไม่ทำให้การจราจรภาคพื้นดินบนถนนพหลโยธินมีปัญหาแน่นอน

ส่วนการจัดพื้นที่สำหรับสถานีขนส่ง บขส. นั้น ทำเป็น 3 ชั้น มีพื้นที่ประมาณ 100,000 ตารางเมตร แยกตัวสถานีรถขาเข้ารถขาออกอย่างชัดเจน

และที่สำคัญได้จัดสรรที่จอดรถที่สะดวกทันสมัยและปลอดภัยกว่า 8,000 คัน เพื่อทำโครงการ PARK & RIDE

"ตอนนี้งานสำคัญของเราอยู่ที่การเร่งทำแบบโครงการโดยละเอียด พร้อม ๆ กับหาที่ชั่วคราวให้กับทาง บขส. ย้ายออก ซึ่งตอนนี้ได้เตรียมไว้ 2 แห่งซึ่งในต้นปีหน้าก็คาดว่าจะเริ่มงานก่อสร้างได้ทันที"

เมื่อได้ที่ดินแล้วทางบริษัทจะต้องย้ายสถานีขนส่งหมอชิตให้เรียบร้อยภายใน 3 เดือน หลังจากนั้นก็จะได้เริ่มงานเข็มเจาะและเปิดประมูลหาผู้รับเหมา ทั้งโครงการจะต้องเสร็จภายในระยะเวลา 48 เดือน นับจากวันที่ร่วมลงนามสัญญาก่อสร้างเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2539

ตัวรายได้หลักของซันเอสเตท 90% ที่จะได้ก็คือ ได้จากค่าเช่าพื้นที่ในศูนย์อำนวยความสะดวก และในพื้นที่อาคารสำนักงาน และในพื้นที่ของที่จอดรถในระบบจอดแล้วจร ซึ่งแน่นอนว่า ตรงนี้เป็นปัญหาของทางบริษัทเหมือนกันที่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของคนกรุงเทพฯ ที่มาจอดรถทิ้งไว้เพื่อไปใช้บริการของระบบขนส่งมวลชน

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน บริษัทซันเอสเตทคาดการณ์ไว้ว่า จะใช้เวลาประมาณ 7-8 ปีก็จะถึงจุดคุ้มทุน

ซันเอสเตทมีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท เป็นบริษัทในเครือทานตะวัน ซึ่งเป็นบริษัทเก่าแก่ที่ได้ก่อตั้งไปเมื่อ 21 กันยายน 2521 ประกอบกิจกรรมหลักในอุตสาหกรรมแปรรูปพลาสติกและอสังหาริมทรัพย์

วันนี้เลื่อนคงต้องให้ความสำคัญในโครงการนี้มากเป็นที่สุด เพราะเป็นโครงการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีลูกค้าแล้วแน่นอน เพียงแต่งานหลักคือบริหารงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนเท่านั้น

เลื่อน เคยเล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟังว่า สาเหตุที่มารับงานที่นี่ ทั้ง ๆ ที่มีเพื่อนฝูงหลายคนชักชวนไปนั่งเก้าอี้ต่าง ๆ หลายบริษัทนั้น เป็นเพราะมองว่า ถึงเวลาแล้วที่บ้านเราควรที่จะเอาความคิดใหม่ ๆ มาใช้ในการบริหารงานจราจรเสียที

ส่วนงานทางด้านอสังหาริมทรัพย์ตัวอื่น ๆ ของบริษัทซันเอสเตทนั้น ไม่ว่าจะเป็นตะวันนาเรสซิเด้นท์ ศรีสวัสดิ์คอนโดมิเนียม และโครงการบ้านจัดสรรอื่น ๆ ก็ยังดำเนินการต่อไปเพียงแต่จะทุ่มเทกำลังมายังโครงการสถานีกรุงเทพฯ เป็นพิเศษเท่านั้น

เลื่อนอาจจะไม่ใช่เป็นผู้เริ่มต้นโครงการนี้ เพราะเขาเข้ามาร่วมงานกับบริษัทซันเอสเตทหลังจากที่ประมูลที่ดินได้จากกรมธนารักษ์แล้วประมาณ 5 เดือน แต่เขาจะต้องเป็นผู้สานงานต่อคนสำคัญ !

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us