Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 สิงหาคม 2549
TFEX ชี้ 4 บล.สนใจร่วมมาร์เกตเมกเกอร์             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย)- TFEX

   
search resources

Investment
ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย), บมจ.-TFEX




ตลาดอนุพันธ์เร่งสร้างสภาพคล่องในการซื้อขาย เล็งใช้ระบบมาร์เกตเมกเกอร์ในเดือนก.ย.นี้ เผยมี 4 โบรกเกอร์แล้วที่แสดงความสนใจเข้าร่วม "เคจีไอ-ฟิลลิป-กิมเอ็ง-ภัทร" ชี้ผู้ทำหน้าที่จะต้องส่งคำสั่งซื้อขาย 5 สัญญาต่อ 1 ครั้ง และต้องรับการอนุมัติจากก.ล.ต. ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีสัญญาซื้อขายสถานคงค้างประมาณ 5,000 สัญญา จากปัจจุบันที่มี 2,967 สัญญา

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัทตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX เปิดเผยว่า ภายในสิ้นปีนี้การซื้อขายในตลาดอนุพันธ์โดยเฉลี่ยจะอยู่ในระดับกว่า 1,000 สัญญา จากการที่ในปลายสิงหาคมนี้ตลาดอนุพันธ์จะมีการเปิดซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้นักลงทุนสะดวกและรวดเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขายและในเดือนกันยายนนี้จะมีผู้ดูแลสภาพคล่องหรือมาร์เกตเมกเกอร์ ซึ่งขณะนี้ได้มีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จำนวน 4 บริษัทที่เสนอจะเป็นหน้าที่ดังกล่าว ประกอบดัวย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด, บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด, บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด, บล.ภัทร จำกัด

ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอแนวทางการดำเนินงาน และผลประโยชน์ที่ผู้ที่มาทำหน้าที่เป็นมาร์เกตเมกเกอร์จะได้รับ โดยผู้มาทำหน้าที่ดังกล่าวจะต้องมีการส่งคำสั่งซื้อขาย 5 สัญญาต่อ 1 ครั้ง รวมถึงผู้ที่จะมาทำหน้าที่ดังกล่าวจะต้องได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อน ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ภายในเดือนนี้

นางเกศรากล่าวว่า หลังจากที่มีมาร์เกตเมกเกอร์จะทำให้มีนักลงทุนเข้ามาซื้อขายมากขึ้นและสัญญาที่มีอายุยาวมากขึ้น เพราะขณะนี้นักลงทุนจะลงทุนในสัญญาที่มีอายุสั้น คือเดือนกันยายนและเดือนธันวาคม ส่วนสัญญาเดือนมีนาคม 2550 และมิถุนายน 2550 จะไม่มีการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนไม่แน่ใจทิศทางทางตลาดหุ้นในปีหน้า

จากการที่จะมีการซื้อขายอินเทอร์เน็ต และมาร์เกตเมกเกอร์ หวังว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีสัญญาซื้อขายสถานคงค้างประมาณ 5,000 สัญญา จากปัจจุบันที่มี 2,967 สัญญา ซึ่งคาดว่าสัดส่วนนักลงทุนที่เข้ามาซื้อขายอนุพันธ์จะอยู่ที่นักลงทุนรายย่อยประมาณ 60% นักลงทุนสถาบันในประเทศ 20% นักลงทุนต่างประเทศ 20% จากขณะนี้ที่มีสัดส่วนนักลงทุนรายย่อย 52% นักลงทุนสถาบันในประเทศ 31% และนักลงทุนต่างประเทศ 17%

นอกจากนี้ภายในสัปดาห์นี้ตลาดอนุพันธ์จะมีการสรุปผลการทดสอบระบบการซื้อขายของบริษัทหลักทรัพย์ 5 แห่ง คือ บล.เกียรตินาคิน,บล.นครหลวงไทย, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย), บล.ไซรัส และบล.บีที จากกที่มีการทดสอบระบบมาเป็นเวลา 12 สัปดาห์หลังจากนั้นทางสำนักงานก.ล.ต.จะมีการเข้าตรวจสอบระบบงานอีกครั้ง เพื่อที่จะให้ใบอนุญาตสามารถเปิดซื้อขายอนุพันธ์ก่อน

อย่างไรก็ตามตลาดอนุพันธ์จะมีการปรับปรุงระบบโดยให้ผู้พัฒนาระบบเชื่อมต่อกับระบบงานการชำระราคาอนุพันธ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของระบบปฏิบัติการหลังการซื้อขายของสมาชิก และการเปิดให้ผู้พัฒนาระบบงานอื่นๆ เข้าทดสอบระบบงาน

นางเกศรากล่าวต่อว่า ตลาดอนุพันธ์จะจัดงานวันตลาดนัดผู้ลงทุนไทยในวันที่ 5-6 สิงหาคมนี้ คาดว่าจะมีนักลงทุนเข้ามาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 4-5 พันคน แต่จะมีนักลงทุนเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์กับโบรกเกอร์เท่าใดนั้นยังไม่สามารถประเมินได้ แต่เชื่อว่าจะทำให้ปริมาณการซื้อขายมากขึ้น ซึ่งปริมาณซื้อขายเดือนมิถุนายนและกรกฏาคมได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเท่าตัว ขณะนี้ปริมาณซื้อขายเฉลี่ย 865 สัญญาต่อวัน

“คาดว่าการจัดงานตลาดนัดผู้ลงทุนในครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า ครั้งแรกที่มีการจัดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 4-5 พันราย แต่มีการเปิดบัญชีไม่มากนัก เนื่องจากในช่วงดังกล่าวตลาดอนุพันธ์ยังไม่ได้เปิดซื้อขายทำให้นักลงทุนยังรอความชัดเจน แต่การจัดครั้งนี้ก็คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นางเกศรากล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us