TNH ฟุ้งผลงานไตรมาส 4 ออกมาเจ๋ง ผลจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่ม พร้อมมั่นใจรายได้ปี 49 โตสูงเกินเป้าไปอยู่ที่กว่า 20% เล็งเปิดศูนย์หัวใจเพิ่มหลังพบว่าโรคนี้คนไทยป่วยเป็นอันดับ 3 โดยจะพิจารณาจำนวนผู้ป่วยก่อนตัดสินใจ คาดได้ข้อสรุปปีหน้า พร้อมขยายคลินิกเพิ่มรองรับหลังสนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ

นางอำไพ พยัคคง รักษาการผู้อำนวยการบริหาร บริษัท โรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด (มหาชน) (TNH) กล่าวว่า TNH คาดว่ารายได้ในไตรมาสสุดท้ายสิ้นสุด 31 กรกฎาคม 49 จะมีอัตราการเติบโตมากสูงกว่า 25% จากปีก่อน เนื่องจากมีผู้ป่วยมารักษาที่โรพยาบาลจำนวนที่มากขึ้น ขณะเดียวกัน TNH ยังจะมีการรับรู้รายได้เพิ่มจากศูนย์โรคหัวใจ ซึ่งจะสามารถเก็บค่าใช้จ่ายต่อคนสูงกว่าการให้บริการในรูปแบบอื่น บวกกับศูนย์กระดูกและข้อที่เปิดอย่างเป็นสัดส่วนทำให้สามารถรองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น ซึ่งล้วนเป็นการรักษาแบบเฉพาะทางที่มีมากขึ้น ส่งผลให้มีผู้ป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นด้วย

โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 นั้น พบว่ามีจำนวนผู้ป่วยนอกเพิ่มประมาณ 10% ในขณะที่ผู้ป่วยในเพิ่มประมาณ 5% จึงส่งผลให้รายได้ในไตรมาสที่ 4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเดือนกรกฎาคมจะรายได้มีการขยายตัวถึง 35% ขณะที่ไตรมาส 4 เพียงไตรมาสเดียวบริษัทคาดว่ารายได้เติบโตประมาณ 25%

ดังนั้น TNH ยังคงมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตมากกว่าที่เคยประมาณการไว้ โดยคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตประมาณ 20-25% หรือมากกว่า 700 ล้านบาท จากเดิมคาดไว้ที่ประมาณ 12-15% ทั้งนี้ เป็นผลมาจากมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น ขณะเดียวกัน TNH ก็พยายามจะดันตัวเลขมาร์จิ้นของบริษัทให้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งปีก่อนอยู่ที่ 27% ไปอยู่ในระดับที่ 28-29% ในปีนี้ด้วยการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพให้มากขึ้น

นางอำไพ กล่าวว่าขณะนี้ TNH อยู่ระหว่างการศึกษาการเปิดศูนย์ผู้ป่วยในเพิ่ม ซึ่งอาจจะเปิดเป็นศูนย์มะเร็ง โดยศึกษาถึงรายละเอียด รวมถึงจำนวนผู้ป่วยก่อน ทั้งนี้คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปประมาณปี 2550 เนื่องจากต้องพิจารณาจากจำนวนของผู้ป่วย ซึ่งจากการสำรวจพบว่าโรคมะเร็งนั้นถือว่าเป็นโรคอันดับที่ 3 ที่คนไทยเป็นมาก รองจากโรคหัวใจและอุบัติเหตุ

นอกจากนี้ TNH ยังมีแผนจะขยายคลินิกเพิ่มจากปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับสนามบินสุวรรณภูมิที่จะเปิดอย่างเป็นทางการรวมทั้งขยายพื้นที่โรงพยาบาล และเพิ่มล่ามให้มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นล่ามของประเทศญี่ปุ่น, จีน, ฮ่องกง พร้อมกับยืนยันว่า TNH จะเป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในย่านบางนาตราดที่เป็นเอกชนและไม่รับโครงการ 30 บาทของรัฐ เพื่อต้องการให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้ป่วย ปัจจุบัน TNH มีลูกค้าที่เป็นคู่สัญญาอยู่ถึง 40% ขณะที่ผู้ป่วย 60% เป็นผู้ป่วยในและที่เหลือเป็นผู้ป่วยนอก

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุด 30 เมษายน 49 บริษัทมีกำไรสุทธิ 10.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.90 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 955.98 ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1.24 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นและรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากจำนวนผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น และมีการปรับขึ้นราคาค่ารักษาพยาบาลบางส่วนส่งผลให้รายได้จากการประกอบ