เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ ชี้ครึ่งปีหลัง-ต้นปี 50 ลดราคาขายสินค้าทองแดงให้ลูกค้า จูงใจให้ลูกค้าส่งออเดอร์สินค้าโลหะเพิ่มกระตุ้นยอดขายโต คาดปีนี้รายได้รวมเพิ่มขึ้น 40-45% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.2 พันล้านบาท เล็งปี 51 นำ เอส เอ็น ซี ไพยองซานฯ เข้าตลท.

นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือSNC เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทจากนี้ถึงต้นปีหน้าว่าบริษัทจะลดราคาขายสินค้าที่เป็นชิ้นส่วนทองแดงให้กับลูกค้า เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบของทองแดงมีราคาสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 7,600 ล้านเหรียญสหรัฐต่อตัน ทำให้ลูกค้าประสบปัญหาจำหน่ายสินค้าลดลง ซึ่งบริษัทได้ตกลงกับลูกค้าว่าจะยอมลดราคาให้แต่จะรับงานเพิ่มในชิ้นส่วนโลหะแผ่น ซึ่งจะทำให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น แต่ด้านอัตราการเติบโตกำไรจะลดลงจากปีก่อนที่อัตรากำไรเติบโตประมาณ 9%

ทั้งนี้บริษัทคาดว่ารายได้ปี 49 จะเพิ่มขึ้น 40-45 % จากปี 48 ที่มีรายได้ 1,277 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากชิ้นส่วนแอร์บ้านที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 45-50% จากปี 48 ที่มีรายได้ 759 ล้านบาท ชิ้นส่วนรถยนต์ เพิ่มขึ้น 10-15% จากปี 48 ที่มีรายได้ 335 ล้านบาท และโลหะแผ่นเพิ่มขึ้น 500-550% จากปี 48 มีรายได้ 32 ล้านบาท ในขณะที่ยอดขาย COMPRESSOR ราคายังทรงตัวในระดับปีก่อนที่มีรายได้ 151 ล้านบาท และคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3/49 จะเพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาส2/49 ที่มีรายได้ 522 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้จากบริษัท เอส เอ็น ซี ไพยองซาน อีโวลูชั่น จำกัด ปีนี้ จำนวน 200 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทดังกล่าวจะรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้มากขึ้น และคาดว่าปี 2550 จะเพิ่มขึ้น 100%จากปี 49 ซึ่งขณะนี้ได้การเจรจากับผู้ผลิตแอร์จำนวน 3 แบรน ซึ่งจะมีการส่งคำสั่งสินค้าให้มีการผลิตประมาณ 20% ของกำลังการผลิตของบริษัทที่มี 300,000 ชุด ต่อปี และได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI)

นายสมชัยกล่าวว่า ใน ปี2551 บริษัทจะนำบริษัท เอส เอ็น ซี ไพยองซาน อีโวลูชั่น จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจาก ต้องรอให้ เอส เอ็น ซี ไพยองซาน มีรายได้ต่อปีมากว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน ซึ่งก่อนที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทจะมีการเพิ่มทุนใน เอส เอ็น ซี ไพยองซานเพิ่มเป็น 200 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ 150 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปจำนวน 100 ล้านหุ้น ทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 300 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนได้ประมาณ 50% ของกำไรสุทธิ จากครึ่งปีแรกบริษัทได้มีการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนในอัตราหุ้นละ 0.20 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่านโยบายของบริษัทที่จะมีการปันผลไม่ต่ำกว่า 50% แม้ว่าบริษัทจะต้องมีการลงทุนเพิ่มในการก่อสร้างโรงงาน และเครื่องจักร