นายสมชัย นิธิเสถียรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขายภายในประเทศ บริษัท อังกฤษตรางู (แอลพี) จำกัด ผู้ผลิตแป้งเย็นตรางู เปิดเผยว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่สินค้าแป้งลงสู่ตลาดภายในปีหน้า โดยอาจจะเป็นตลาดแป้งที่บริษัทฯมีความเชี่ยวชาญ แต่จะเป็นการเปิดตัวลงในเซกเมนต์ใหม่มากกว่า โดยเฉพาะตลาดแป้งหอมมูลค่า 540 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับอีก 2 ตลาด โดยมีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก หรือการเปิดตัวแบรนด์ใหม่อาจจะเป็นการข้ามแคธิกอรี่อื่นๆ นอกเหนือจากตลาดแป้งก็เป็นได้ ซึ่งยังไม่เป็นที่สรุป อย่างไรก็ตามในช่วงนี้บริษัทคงมุ่งเน้นสร้างแป้งเย็นตรางูให้มีความแข็งแกร่งก่อน จากนั้นถึงจะรุกปั้นแบรนด์ใหม่อย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับแผนการตลาดแป้งเย็นตรางู เพื่อทวงตำแหน่งผู้นำตลาดแป้งเย็นกลับมาภายใน 2-3 ปี ด้วยการครองส่วนแบ่ง 28% นั้นหลังจากที่บริษัทฯได้วางรากฐาน Brand Modernization 2 ปีเต็ม โดยทำให้แบรนด์มีความทันสมัยมากขึ้น ปีนี้จะเป็นแห่งการต่อยอดหลังจากที่บริษัทฯได้ฐานกลุ่มลูกค้าอายุ 15-30 ปี เพิ่มขึ้นในสัดส่วนถึง 20% ส่วนกลุ่มอายุมากกว่า 30 ปี สัดส่วน 80% ซึ่งใน 2-3 ปีนี้บริษัทฯต้องการเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้า 15-30 ปี เป็น 30% และกลุ่มอายุมากกว่า 30 ปี เหลือเป็น 70% รวมทั้งขยายฐานกลุ่มเป้าหมายในตลาดต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น ซึ่งในตลาดนี้บริษัทฯยังมีจุดอ่อนด้านการกระจายสินค้าที่ยังไม่ทั่วถึง

โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯทุ่มงบ 40 ล้านบาท จากงบทั้งปีใช้กว่า 100 ล้านบาท ดำเนินกิจกรรมการตลาดในเชิงรุก ประเดิมด้วยการเปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น แป้งเย็นตรางู "Dan & Beam Special Collection" จำนวน 6 หมื่นเซ็ต ราคา 79 บาท จำหน่ายในร้านวัตสันช่องทางเดียวทั่วประเทศ 145 สาขา และร่วมจัดโปรโมชั่นลด 10% เมื่อซื้อบัตรคอนเสิร์ตแดน-บีม พร้อมกันนี้แป้งเย็นตรางูยังได้สนับสนุนคอนเสิร์ตแดน-บีม ที่จัดขึ้นกรุงเทพฯ 5 แห่ง และ 4จังหวัด เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมายในตลาดต่างจังหวัด

"ปีนี้บริษัทฯเปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ดเร็วขึ้นจากเมื่อปีที่แล้วเปิดตัวในไตรมาสสี่ นอกจากนี้ยังเพิ่มปริมาณมากขึ้นจากปีที่แล้วมีเพียง 1 หมื่นเซ็ต แต่ปีนี้มีถึง 6 หมื่นเซ็ต การเปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ดที่เร็วขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ส่วนแบ่งการตลาดที่ได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากต้องการเพิ่ม 2-3% เป็นเพียง 1% หรือเพิ่มจาก 22% เป็น 23% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้าที่จำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน มีไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ทั้งนี้คาดว่าสินค้ารุ่นลิมิเต็ดจะช่วยกระตุ้นตลาด รวมทั้งขยายกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นให้มากขึ้น โดยเฉพาะสร้างการรับรู้ว่าแป้งเย็นตรางูมีกลิ่นที่ไม่แรง เช่น ลาเวนเดอร์ เป็นต้น"

สำหรับปีนี้นับเป็นแรกที่บริษัทฯหันมาสร้างพฤติกรรมการใช้แป้งเย็น ให้ผู้บริโภคใช้สินค้านอกฤดูกาลขายอย่างจริงจังผ่านการกระตุ้นด้วยสินค้ารุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น จากเดิมการใช้แป้งเย็นจะเป็นอยู่ในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ทำให้ช่วงดังกล่าวตลาดโตถึง 10% แต่ภาพรวมตลาดทั้งปีกลับมีอัตราการเติบโตเพียง 1-2% เท่านั้น โดยบริษัทฯได้วางแผนการเปิดตัวสินค้ารุ่นลิมิเต็ดปีละครั้งเท่านั้น

ผลจากการที่บริษัทฯดำเนินกิจกรรมในเชิงรุก คาดว่าในสิ้นปีมีรายได้ 420 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 22% ขณะที่ส่วนแบ่งเพิ่มจาก 23% เป็น 26% ไล่ผู้นำตลาดโพรเทคส์มีส่วนแบ่ง 27% ขณะที่อันดับสามมีส่วนแบ่งไล่เลี่ย ได้แก่ ทเวลพลัส, ชาวเวอร์ ทู ชาวเวอร์ และเภสัช 14%