ผู้บริหารแผนฟื้นฟูฯ "เซ็นทรัลอุตสาหกรรมกระดาษ" เดินหน้าหาผู้ร่วมทุนใหม่ หวังแก้ปัญหาสภาพคล่องและพลิกฟื้นสถานการณ์อีกรอบ พร้อมเตรียมเสนอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง หลังล้มเหลวกับแผนเดิมที่ไม่สามารถชำระหนี้ให้กับบสท. ได้ตามกำหนด ขณะเดียวกัน เร่งเคลียร์ปัญหากับปตท. ที่หยุดขายก๊าซ จนต้องประกาศหยุดการผลิตและปลดพนักงานเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ผลงานครึ่งปีแรกยังเจอปัญหาขาดทุนสุทธิกว่า 30 ล้านบาท

นายเกรียงไกร สุทธิวีระวัฒน์ ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท เซ็นทรัลอุตสาหกรรมกระดาษ จำกัด (มหาชน) หรือ CPICO กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 9.72 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.16 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 0.44 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท

ขณะที่งวด 6 เดือน ขาดทุนสุทธิ 30.42 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.51 บาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากงวดครึ่งแรกของปี 2548 ที่ขาดทุนสุทธิ 29.28 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.49 บาท

โดยสาเหตุที่ทำให้ไตรมาส 2 บริษัทประสบปัญหาการขาดทุน สืบเนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายสุทธิลดลงจากปี 2548 จำนวน 55.77 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23.60% ขณะที่ต้นทุนขายลดลง 47.01 ล้านบาท หรือ 21.13% รวมทั้งได้บันทึกดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 0.72 ล้านบาท รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 1.33 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม งบการเงินที่เสนอต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ ผู้สอบบัญชีไม่ได้แสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าว เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่องจากการขาดทุนติดต่อกัน และไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้ยืมให้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ได้ตามที่ระบุไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2549 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้หยุดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้แก่บริษัท มีผลทำให้ต้องหยุดการผลิตทั้งหมด

นายเกรียงไกร กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บริหารแผนได้ดำเนินการเพื่อขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการครั้งที่ 1 ต่อศาลล้มละลายกลางและบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับบสท. รวมถึงการเจรจาเพื่อหาข้อยุติกับปตท. ซึ่งยังหาข้อยุติไม่ได้ในระยะสั้น ทำให้บริษัทได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานส่วนใหญ่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2549 โดยจะจ่ายชดเชยพนักงานตามกฎหมายแรงงาน แต่จะคงเหลือพนักงานส่วนหนึ่งไว้เพื่อบำรุงรักษาเครื่องจักรและอาคารโรงงานให้คงสภาพดีเหมือนก่อนหยุดการผลิต

ขณะเดียวกัน บริษัทได้พยายามเจรจาหานักลงทุนรายใหม่ เพื่อร่วมทุนในการแก้ปัญหาสภาพคล่องและทำให้บริษัทสามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติ

พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ได้แจ้งให้ผู้ถือหุ้นนักลงทุนทราบและพิจารณาความเห็นของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงิน บริษัท เซ็นทรัลอุตสาหกรรมกระดาษ จำกัด (มหาชน) หรือ CPICO อย่างระมัดระวัง หลังจากผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงิน ทำให้ตัวเลขผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของบริษัท