นายมารุต มฤคทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP (ปตท. สผ.) กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 7,277.10 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.22 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนของปีก่อนกำไรสุทธิ 5,480.11 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.68 บาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,796.99 ล้านบาท หรือ 32.79%

โดยบริษัทมีรายได้รวม 23,688 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 8,892 ล้านบาท หรือ 60% และค่าใช้จ่ายรวม 10,534 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,854 ล้านบาท หรือ 85% และมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (Return on shareholders' equity) อยู่ที่ 36.30%

สำหรับสาเหตุที่รายได้เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 37.61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 28.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ และปริมาณการขายเพิ่มขึ้นจาก 139,035 เป็น 171,662 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน

ขณะที่งวดสะสม 6 เดือน กำไรสุทธิ 15,116.16 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.62 บาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 9,734.50 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.98 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5,381.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 55.28% โดยมีรายได้รวม 46,381 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายรวม 19,773 ล้านบาท

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่อาจมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของ ปตท.สผ. นั้น นายมารุต กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงแรก คือสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทย ที่สำนักต่างๆ ได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2549 เป็น 4.0 - 5.0% ปัจจัยลบต่างๆ อาทิ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อ และปัญหาการเมืองภายในประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจไทยในปีต่อไป

ปัจจัยที่สอง คือ ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบที่มีผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของปตท.สผ. จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง น่าจะส่งผลกระทบในทางบวกต่อการดำเนินธุรกิจของ ปตท.สผ. จากราคาของผลิตภัณฑ์หลักที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ปตท.สผ. ยังได้พิจารณาศึกษาปัจจัยเสี่ยงในด้านต่างๆ เช่น ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวกับเทคนิคและขีดความสามารถหลักในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ปัจจัยเสี่ยงที่แฝงอยู่ในการดำเนินธุรกิจ (Inherent Risk) และปัจจัยเสี่ยงในด้านการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับบริหารงานให้ได้อย่างเหมาะสม

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. สผ. ครั้งที่ 8/2549/252 อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากเงินได้ปิโตรเลียมสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2549 ในอัตราหุ้นละ 1.71 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 สิงหาคม 2549

สำหรับบรรยากาศการซื้อขายหุ้น PTTEP วานนี้ (31 ก.ค.) ราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ ใกล้เคียงราคาปิดครั้งก่อน โดยมีราคาสูงสุดที่ 119 บาท ต่ำสุดที่ 116 บาท และปิดการซื้อขายที่ 117 บาท ลดลงจากวันก่อน 1.00 บาท หรือ 0.85% มูลค่าการซื้อขายรวม 370.91 ล้านบาท