Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2539
วีซ่าเร่งเพิ่มยอดวีซ่าโกล์ดอีกแสนใบพร้อมออก 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ปีหน้า             
 


   
search resources

วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
ริชาร์ด เค. ชาง
Credit Card




ในช่วงปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อหลายทาง และมาตรการหนึ่งในการลดการใช้จ่ายภาคเอกชนลงก็คือ การปรับกฎเกณฑ์เกี่ยวกับผู้ถือบัตรเครดิตจากผู้ที่มีรายได้ขั้นต่ำ 120,000 บาทต่อปี เป็น 240,000 บาทต่อปี ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลชัดเจนในไตรมาส 1 ปีนี้ จำนวนบัตรเครดิตในไทยมีการหดตัวลงกว่า 6,000 ใบ และเริ่มฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 2

อย่างไรก็ดี ริชาร์ด เค. ชาง ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทย สิงคโปร์ และอินโดจีน กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า "ธนาคารสมาชิก 15 แห่งในไทย ได้ร่วมกันออกบัตรให้กับวีซ่าเพิ่มขึ้นประมาณ 4.1% ในไตรมาสแรก และในไตรมาส 2 ก็สามารถขยายตัวได้อีก 4%" เป็นผลให้มีผู้ถือบัตรวีซ่าทั้งหมดในไทย ณ สิ้นไตรมาส 2 ถึง 830,000 ใบ โดยเป็นบัตรวีซ่าโกล์ดประมาณ 249,000 ใบ

สมบูรณ์ ครบธีรวงศ์ ผู้บริหารฝ่ายธนาคารสมาชิกของวีซ่าประจำประเทศไทย กล่าวเสริมว่า บัตรวีซ่าขยายตัวได้ดีมากในประเทศไทย หากเปรียบเทียบเฉพาะบัตรเครดิตต่างประเทศแล้ว วีซ่ามีส่วนแบ่งตลาดในไทยกว่า 80% เนื่องจากวีซ่าเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2522 หรือ 17 ปีมาแล้ว หากรวมทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปวิฟิกแล้ว วีซ่ามียอดส่วนแบ่งตลาดสูงสุดอยู่นั่นเอง โดยมีส่วนแบ่งในประเทศญี่ปุ่น 63% สิงคโปร์ 68% มาเลเซีย 53%

ทั้งนี้ ชางตั้งเป้าว่า ภายในสิ้นปีนี้ จะมียอดบัตรวีซ่าทั้งหมดที่ออกในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 1 ล้านใบ โดยเป็นบัตรวีซ่าโกล์ดประมาณ 35% หรือ 350,000 ใบ ดังนั้นในอีกไม่กี่เดือนที่เหลือนี้ จึงจำเป็นต้องเร่งขยายตลาดบัตรวีซ่าโกล์ดเพิ่มขึ้น โดยการออกเคมเปญโฆษณาบัตรวีซ่าโกล์ดถึง 4 แบบเพื่อโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ พร้อมกับสโลแกนที่ว่า "วีซ่าโกล์ด ผู้ครอบครองบัตรทอง ผู้กำหนดกฎเกณฑ์"

ชาง มองว่า เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงที่ขยายตัวได้ดีในอัตรากว่า 8% ทำให้ฐานกลุ่มชนชั้นกลางขยายตัวมากขึ้น ซึ่งคนกลุ่มนี้มีรายได้ในระดับปานกลางและสูง ทั้งยังมีการติดต่อธุรกิจข้ามชาติ มีการเดินทางไปต่างประเทศมาก ซึ่งบุคคลเหล่านี้ คือ กลุ่มเป้าหมายหลักของวีซ่าโกล์ด นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งจะมาจากฐานลูกค้าที่ถือบัตรวีซ่าคลาสสิกมานาน และมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะมาถือบัตรวีซ่าโกล์ดได้

โดยผู้ถือบัตรดังกล่าว จะได้รับมอบสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น สามารถเบิกเงินสดล่วงหน้าจากสำนักงานสาขาของธนาคารสมาชิกกว่า 305,600 แห่งและจากเครื่องเอทีเอ็มกว่า 289,000 เครื่องทั่วโลก บริการออกบัตรทดแทนกรณีฉุกเฉิน บริการชำระเงินทดแทนกรณีฉุกเฉิน และบริการให้ความช่วยเหลือในระหว่างการเดินทาง เช่น บริษัทให้คำแนะนำด้านการรักษาพยาบาล หรือกรณีกระเป๋าสูญหาย เป็นต้น และหากธนาคารสมาชิกจะมีบริการเสริมให้แก่ลูกค้าของตนก็สามารถเพิ่มเติมเข้าไปเป็นกรณีพิเศษได้อีก

พร้อมกันนี้ วีซ่ายังเตรียมออกอีก 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทยอีกในต้นปีที่จะถึง คือ บัตรวีซ่า ทราเวิล มันนี่ (Visa Travel Money) การค้าอิเลคทรอนิกส์ (Electronic Commerce) และบัตรธุรกิจ (Commercial Card)

"บัตรวีซ่า ทราเวิล มันนี่ หรือบัตรเพื่อการเดินทางนี้ จะเป็นเสมือนบัตร ATM โดยที่ไม่ต้องเปิดบัญชีกับธนาคาร เพียงแต่ในขั้นตอนที่ไปขอบัตรนี้ เราก็จ่ายเงินล่วงหน้าให้ที่ธนาคาร แล้วก็จะสามารถนำบัตรนี้ไปถอนเงินจากตู้ ATM ในเครือข่ายวีซ่า และที่มีเครื่องหมายพลัสได้ทั่วโลก ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 แสนเครื่อง" ชาง อธิบาย

บัตรดังกล่าวดีกว่าการใช้เช็คเงินสดในแง่ที่ว่า การถือเช็คเงินสด จำเป็นต้องไปฝาก ถอน โอน ย้าย ซึ่งยุ่งยาก ขณะที่บัตรนี้สามารถเบิกเงินสดจากตู้ ATM ได้เลย สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยกว่าหากมีการสูญหายเนื่องจากมีระบบป้องกันแบบเลขรหัสประจำตัว (PIN) และใช้เทคโนโลยีแถบแม่เหล็ก !

บัตรวีซ่า ทราเวิล มันนี่ เพิ่งเปิดตัวในไต้หวันเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ชางวางแผนจะเปิดตัวในไทยเป็นประเทศที่ 2 โดยจะเริ่มในต้นปีหน้า

ในส่วนของการค้าอิเลกทรอนิกส์นั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ร่วมมือกันระหว่างธนาคารกับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เนื่องจากต้องมีมาตรการควบคุมป้องกัน และรับรองร่วมกันบนบัตรเครดิต และการใช้จ่ายบัตรเครดิตบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทั้งนี้ วีซ่าได้มีการร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ด ไมโครซอฟท์ เน็ทสเคป และผู้ให้บริการอื่น ๆ ในการพัฒนาระบบมาตรฐานความปลอดภัยขึ้นมาใหม่ในชื่อว่า ระบบเอสอีที (Secure Electronic Transaction)

ขณะนี้ วีซ่ากำลังศึกษาและปรับเปลี่ยนข้อกฎหมายเกี่ยวกับภาระภาษีระหว่างประเทศ คาดว่า จะเรียบร้อยและสามารถให้บริการแก่ธนาคารสมาชิกในประเทศไทยได้ภายในปีหน้า ปัจจุบันวีซ่าได้มีการให้บริการเหล่านี้แก่ธนาคารสมาชิกในญี่ปุ่น ไต้หวัน และสิงคโปร์แล้ว

สำหรับบัตรธุรกิจ วีซ่าจะให้บริการใน 3 ประเภท คือ บัตรวีซ่า เพอร์เชสซิ่ง (Visa Purchase Card) ซึ่งสามารถลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์สำนักงานที่มีมูลค่าไม่สูงมาก บัตรวีซ่า คอร์ปอเรท (Visa Corporate Card) เพื่อช่วยบริหารค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางและการรับรองแขกให้กับบริษัท และบัตรวีซ่า บิสซิเนส (Visa Business Card) ซึ่งเหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็ก และบุคคลที่อยู่ในสายอาชีพต่าง ๆ เช่น แพทย์ ทนายความ เป็นต้น

ปัจจุบัน บัตรวีซ่าที่ให้บริการแก่ธนาคารสมาชิกในไทยมีอยู่ 3 ประเภท คือ วีซ่าคลาสสิก วีซ่าโกล์ด และอินเตอร์ลิงค์ หรือบริการเบิกเงินสดล่วงหน้าผ่านเครือข่าย ATM ที่มีเครื่องหมายพลัสโดยธนาคารสมาชิกของวีซ่าในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 15 แห่ง เป็นธนาคารต่างประเทศ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารฮ่องกง, ธนาคารสแตนดาร์ด, ธนาคารแห่งอเมริกา และซิตี้แบงก์ และธนาคารไทย 11 แห่ง ยกเว้นธนาคารแหลมทอง, เอเชีย, ธนาคารไทยทนุ และนครธน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us