|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“โมโตโรล่า” ตอกย้ำความสำเร็จขึ้นแท่นเบอร์สองตลาดมือถือไทย เปิดตัว “โมโตชอป” แห่งที่ 4 ในโลก ดันกลยุทธ์ประสบการณ์มือถือ หวังเก็บข้อมูลผู้บริโภคโดยตรง เชื่อภาวะเศรษฐกิจมีผลไม่มากอานิสงส์โปรโมชั่นโอเปอเรเตอร์แรงกระตุ้นตลาดบริโภคมือถือไม่ตก
นักการตลาดได้มีการประเมินขนาดตลาดเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยในปี 2549 น่าจะอยู่ถึง 8 ล้านเครื่องต้นๆ เติบโตขึ้นมาจากปีที่ผ่านมาที่มีประมาณ 7 ล้านเครื่องเกือบๆ 8 ล้านเครื่อง จึงเป็นอีกตลาดหนึ่งที่ทางค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างหมายมั่นปั้นมือที่จะเข้ามามีส่วนแบ่งตลาด โดยมีการนำกลยุทธ์ทุกรูปแบบเข้ามาแบ่งเค้กก้อนนี้กันอย่างเต็มที่
“โนเกีย” เป็นผู้นำตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไทยมานานหลายปี ส่วนผู้นำอันดับสองยังไม่มีใครสามารถครอบครองพื้นที่ในส่วนนี้ได้อย่างแท้จริง มีการสลับเปลี่ยนไปมาตามความแรงการตลาดที่ใส่เข้ามาสู่ตลาด ล่าสุด “โม.โตโรล่า” ได้ออกมาประกาศตัวเองว่า วันนี้ โมโตโรล่าสามารถครองส่วนแบ่งตลาดอันดับสองได้แล้ว แต่จะมีส่วนแบ่งตลาดเท่าไรนั้น ทางโมโตโรล่าขอเก็บเป็นปริศนาเอาไว้
เมื่อดูถึงส่วนแบ่งตลาดในระดับโลก วันนี้ โนเกียมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 32% ขณะที่โมโตโรล่า 21.7% ซึ่งในประเทศไทย ตัวเลขของโนเกียมีการประเมินว่า น่าจะสูงถึง 40-50% ขณะที่เบอร์สองในตลาดนั้นทางผู้บริหารของโมโตโรล่าที่ดูแลในส่วนนี้ จงรักษ์ สกุลภักดี ผู้จัดการประจำประเทศไทย (กลุ่มอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่) บริษัท โมโตโรล่า (ประเทศไทย) จำกัดบอกว่า มีตัวเลขสูงกว่าตัวเลขในระดับโลก
การก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์สองในตลาดของโมโตโรล่าในครั้งนี้ หลังจากที่โมโตโรล่าเคยครองความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคที่เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยยังเป็นแบบอนาล็อกอยู่ อันเป็นผลมาจากที่ทางโมโตโรล่าได้ทุ่มเทกิจกรรมการตลาด ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสร้างแบรนด์อย่างหนักหน่วงในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
เพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในตลาดของโมโตโรล่าในตลาดเมืองไทย ทางโมโตโรล่าได้นำกลยุทธ์การตลาดเชิงประสบการณ์เข้ามาใช้ในประเทศไทยอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัว “โมโตชอป” ร้านต้นแบบที่เป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์และบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของโมโตโรล่าแต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นชอปแห่งที่สี่ในโลกที่โมโตโรล่าเริ่มทยอยเปิดตามส่วนต่างๆ ของโลก ประเทศที่เปิดตัวไปแล้วมีที่สหรัฐอเมริกา รัสเชียและจีน และเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“โมโตชอปเป็นความตั้งใจตั้งแต่ต้นปีที่จะให้ผู้บริโภคคนไทยได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์จริงกับโทรศัพท์มือถือ “ จงรักษ์ สกุลภักดี ผู้บริหารโมโตโรล่าท้าวความถึงความตั้งใจที่จะเปิดโมโตชอปในประเทศไทยให้ฟัง
จงรักษ์ยังบอกอีกว่า โมโตโรล่าได้มีการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคมากว่า 2 ปีแล้วจึงได้คอนเซ็ปต์โมโตชอปออกมา ซึ่งจะเป็นคอนเซ็ปต์ที่ใช้เหมือนกันทั่วโลก ไม่ว่าจะอยู่ประเทศนั้นก็จะได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกัน
“โมโตช็อป” เป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ และบริการโทรศัพท์มือถือโมโตโรล่าเต็มรูปแบบที่ได้รับการออกแบบในรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวเทรนดี้ เน้นลูกเล่นแบบอินเตอร์แอกทีฟสุดทันสมัยเริ่มตั้งแต่พื้นทางเข้าที่มีภาพเคลื่อนไหวเปลี่ยนตามการสัมผัสหรืออินเตอร์แอกทีฟ ฟลอร์ กระจกพูดได้ที่ทักทายผู้คนที่ผ่านไปมารวมถึงการสัมผัสประสบการณ์โมโตโรล่าที่ลูกค้าจะได้รับอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทดลองใช้งานผลิตภัณฑ์ทุกรูปแบบของโมโตโรล่า ทั้งโทรศัพท์มือถือรุ่นต่างๆ ที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบัน และที่กำลังจะเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ สำหรับโทรศัพท์มือถือ
ภายในโมโตชอปจะมีการสาธิตการใช้งานผลิตภัณฑ์โมโตโรล่า และอุปกรณ์เสริมต่างๆ แบบครบวงจร ภายใต้คอนเซ็ปต์การสื่อสารไร้รอยต่อหรือซีมเลส โมบิลิตี้ เป็นวิสัยทัศน์หลักของโมโตโรล่าที่จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ความสนุกในโลกของการสื่อสารแบบไร้สายในปัจจุบัน อาทิ การสั่งพรินต์รูปภาพจากเครื่องพรินต์เตอร์ผ่านโทรศัพท์มือถือ การเชื่อมต่อหูฟังสเตริโอบูลทูธ ลำโพงไร้สายเข้ากับโทรศัพท์มือถือ เครื่องเสียง โดยมีพนักงานที่ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี มีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์โมโตโรล่าอย่างลึกซึ้ง และเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภค คอยให้คำแนะนำที่ถูกต้อง ชัดเจน และวางใจได้ รวมถึงบริการตรวจเช็คสภาพเครื่องโทรศัพท์มือถือ และอัพเกรดซอฟท์แวร์ใหม่ล่าสุดฟรี โดยช่างเทคนิคผู้เชี่ยวชาญของโมโตโรล่าโดยเฉพาะ
“โมโตชอปถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์โมโตโรล่าอย่างเต็มรูปแบบ ให้ลูกค้าได้มีโอกาสเห็น สัมผัส และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์โมโตโรล่าด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด รวมถึงการให้บริการแบบวันสต็อบเซอร์วิสจากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี จะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคชาวไทย และจะทำให้แบรนด์โมโตโรล่าใกล้ชิด และขึ้นเป็นแบรนด์ในใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น”
จงรักษ์ยังบอกอีกว่า ผู้บริโภคยุคนี้มีความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจนและแตกต่างกัน การมีโอกาสได้รับข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้องชัดเจน และการได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้านั้น จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และทำให้การตัดสินใจซื้อสินค้าทำได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเรามั่นใจว่าการเน้นกลยุทธ์การตลาดเชิงประสบการณ์ของโมโตโรล่า โดยเฉพาะการเปิดตัวโมโตชอปจะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี และยังจะช่วยให้เราได้ใกล้ชิด ได้รับทราบข้อมูล และความต้องการได้โดยตรง
เมื่อถามถึงแนวทางการขยายโมโตชอปในปีนี้ จงรักษ์บอกว่า จำนวนเท่าไรไม่ขอบอกในตอนนี้ ส่วนรูปแบบจะเหมือนกับชอปที่เปิด ณ ชั้น 3 ศูนย์สรรพสินค้า “พารากอน” หรือไม่นั้น ทางผู้บริหารตอบว่า คงจะต้องดูความเหมาะสมว่า จะเป็นในรูปของชอปหรือศูนย์บริการ แต่ที่แน่ๆ ประเทศไทยมีกี่ภาค เอาง่ายๆ ว่า โมโตโรล่าจะมีทุกภาคก็แล้วกัน
จงรักษ์ได้กล่าวถึงแผนการตลาดทางด้านผลิตภัณฑ์ให้ฟังว่า ในช่วงครึ่งปีหลังโมโตโรล่าจะมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ออกทำตลาดประมาณ 6 รุ่น ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบกับตลาดโทรศัพท์มือถือบ้างโดยทำให้การเปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ช้าลง แต่การที่โอเปอเรเตอร์แข่งขันกันออกโปรโมชั่นและการขยายเน็ตเวิร์กออกต่างจังหวัด ก็เป็นแรงกระตุ้นและส่งผลดีให้ซัปพลายเออร์ในการขายเครื่องได้ดีขึ้น
“แม้เศรษฐกิจของไทยจะชะลอตัวด้วยปัจจัยหลายอย่าง แต่คาดว่ายอดขายเครื่องโทรศัพท์มือถือจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์มือถือแข่งขันกันทำโปรโมชั่น จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นการจำหน่ายตัวเครื่องด้วย แต่เศรษฐกิจเช่นนี้อาจจะมีผลให้โทรศัพท์มือถือราคาต่ำมียอดขายดี รองลงมาคือมือถือประเภทแฟชั่น”
|
|
|
|
|