แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ โชว์ผลงานไตรมาส 2 กำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 157% ขณะที่งวด 6 เดือน ยังเจอปัญหาขาดทุนอยู่ 27 ล้านบาท ด้านโบรกเกอร์แนะนักลงทุนขายหุ้นทิ้ง แม้จะได้รับปัจจัยบวกจากข่าวการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ให้กับดุสิตธานี เหตุราคาบนกระดานสูงกว่าราคาเหมาะสมที่ 4.42 บาทแล้ว

นายเถาถวัลย์ ศุภวานิช กรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PA กล่าวถึง ผลการดำเนินงานประจำปีไตรมาส 2 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 52.72 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.16 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 92.20 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.28 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 157.18%

ขณะที่ผลการดำเนินงานสะสมงวด 6 เดือน ขาดทุนสุทธิ 27.93 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 008 บาท ลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 95.35 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.29 บาท หรือขาดทุนสุทธิลดลง 70.71%

ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 บริษัทมียอดสินทรัพย์รวม 3,911 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2548 ที่มียอดสินทรัพย์รวม 4,124 ล้านบาท ลดลงจำนวน 213 ล้านบาท สืบเนื่องจากการนำเงินไปชำระหนี้เงินกู้ที่ถึงกำหนดกับสถาบันการเงิน ชำระหนี้ค่าซ่อมแซมและคืนเงินประกันที่ได้หักไว้ในไตรมาสที่ 4 ปี 2548

ส่วนหนี้สินรวมลดลงจาก 1,380 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 เหลือ 1,196 ล้านบาท หรือลดลง 184 ล้านบาท หลังจากบริษัทได้ชำระหนี้เจ้าหนี้ค่าก่อสร้างที่ถึงกำหนดและปรับรายการสำรองหนี้สินจากข้อพิพาทถนนสาธารณะ ส่งผลให้ D/E Ratio ลดลงจาก 0.50 เท่า เหลือ 0.44 เท่า

ด้านผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนนั้น บริษัทมียอดรายได้รวม 212 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2548 ซึ่งมียอดรายได้รวม 193 ล้านบาท และมีผลประกอบการของบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมเชดีเชียงใหม่ดีขึ้นเป็นลำดับ หลังจากที่เริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่ปลายไตรมาสที่ 1 เป็นต้นมา ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมลดลงจาก 266 ล้านบาทของไตรมาสที่ 2 ปี 2548 เหลือ 140 ล้านบาท เป็นผลจากบริษัทได้ปรับโครงสร้างทางธุรกิจ ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านกิจการเช่าของอสังหาริมทรัพย์และค่าใช้จ่ายของกิจการโรงแรมลดลง

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินฐานะการเงินและความน่าสนใจของ PA ว่า ขณะนี้ผู้ถือหุ้น PA ที่มีบริษัท แนเชอรัลพาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ N-PARK เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 63% กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขายหุ้นให้กับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะส่งผลดีแก่ทั้ง 2 บริษัท

โดยบริษัท N-PARK เอง หากเสนอขายหุ้น PA ให้กับ DTC คาดว่าจะได้รับเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 2 พันล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายหนี้ ขณะที่ PA ที่ได้ DTC มาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จะได้ประโยชน์จากการเป็น Synergy Partner เนื่องจาก DTC เองมีความเชี่ยวชาญในการบริหารโรงแรมอยู่แล้ว รวมทั้ง DTC อาจเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สามารถเข้ามาช่วยให้ PA มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า PA จะได้รับปัจจัยบวกจากการเข้ามาถือหุ้นใหญ่ของ DTC แต่ขณะนี้ราคาได้ปรับตัวเต็มมูลค่า โดยราคาเหมาะสมในปี 2549 อยู่ที่หุ้นละ 4.42 บาท ดังนั้นจึงได้แนะนำให้ขายหุ้น เนื่องจากราคาบนกระดานขณะนี้สูงกว่า 7.20 บาทแล้ว