|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธุรกิจคอมพิวเตอร์หมดยุคเฟื่องฟู เข้าสู่ภาวะอิ่มตัว ผู้ประกอบการหาสารพัดกลยุทธ์ผยุงธุรกิจฟันฝ่ามรสุมด้วยหลากหลายกลยุทธ์ทางการตลาด ทั้งการเพิ่มผลิตภัณฑ์สู่ตลาด ลดราคาแบบถล่มทลาย สร้างไลน์สินค้าใหม่ และการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย
"ธุรกิจคอมพิวเตอร์ไม่ได้อยู่ในยุคเฟื่องฟู ธุรกิจนี้อิ่มตัวหรือกึ่งอิ่มตัว และน่าที่จะหยุดนิ่งอีก 2-3 ปี" เป็นคำกล่าวของนิธิพัฒน์ ลิ่มวานิชรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเทค คอมพิวเตอร์ จำกัด ที่สะท้อนให้เห็นถึงสภาพตลาดคอมพิวเตอร์ไทยในปัจจุบันที่ผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์ทุกค่ายกำลังประสบอยู่ และต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้องค์กรธุรกิจอยู่รอดต่อไป
ในส่วนของเอเทคได้มีการชะลอธุรกิจตนเองตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมา และพยายามที่จะปรับเปลี่ยนไปตามภาวะความต้องการของตลาดให้ได้มากที่สุด
นิธิพัฒน์ บอกว่าการที่เอเทคนิ่งตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เอเทคสามารถผยุงธุรกิจให้ก้าวพ้นภาวะวิกฤตมาได้ เนื่องจากการที่เอเทคนิ่งแทนที่จะโหมกระหน่ำทางธุรกิจ ทำให้ไม่ต้องเสียเลือดและเกิดบาดแผลจากการลงทุนในปีที่ผ่านมา เหมือนกับที่ค่ายคอมพิวเตอร์อื่นๆ ประสบอยู่ในขณะนี้
กลยุทธ์ของเอเทคในภาวะหยุดนิ่งนั้น เอเทคได้กำหนดโพสิชั่นนิ่งของผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งโน้ตบุ๊กที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังสามารถทำตลาดได้ ว่าโน้ตบุ๊กของเอเทคต้องมีน้ำหนักเบาไม่เกิน 2 กิโลกรัม รูปทรงบาง ขนาดเล็กกะทัดรัด หน้าจอ 12.1 นิ้ว ดีไซน์สวยทันสมัยแต่ประสิทธิภาพครบครันในเครื่องเดียว
"เราเลือกทำตลาดโน้ตบุ๊กในเซกเมนต์ที่แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่เลือกโน้ตบุ๊กที่ใช้งานคล่องตัว พกพาไปที่ไหนก็ได้"
อย่างไรก็ตามในภาวะที่ธุรกิจคอมพิวเตอร์ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น เอเทคได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อีกครั้งในปีนี้ และจะเริ่มโฟกัสอย่างจริงจังในช่วงครึ่งปีหลังนี้ โดยเอเทคตัดสินใจนำ ATEC Vegus 725 โน้ตบุ๊กรุ่นใหญ่ 17 รุ่น ออกสู่ตลาดอีกครั้ง เนื่องจากเล็งเห็นความต้องการลูกค้ากลุ่มที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่มีความสามารถเทียบเท่าคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป เหมาะกับกลุ่มนักออกแบบ กราฟิกดีไซน์ระดับมืออาชีพ และกลุ่มอาชีพที่ต้องใช้โปรแกรมที่มีความยุ่งยาก ซับซ้อน รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจ และผู้บริหาร
นอกจากนี้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ที่ถือเป็นตลาดที่มีการชะลอตัวทางด้านกำลังซื้ออย่างมาก เอเทคได้อาศัยกลยุทธ์การปรับลดราคาคอมพิวเตอร์โต๊ะลงรุ่นละประมาณ 2,000-5,000 บาท เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ยังมีความสนใจในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อทดแทนเครื่องที่มีอยู่เดิม และยังเป็นการกระตุ้นตลาด คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะของเอเทคจึงมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 8,900 บาทเท่านั้น
เอเทคยังได้มีการเพิ่มไลน์สินค้าใหม่อีก 1 กลุ่ม ได้แก่ ชุดอัพเกรดคอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าที่ต้องการปรับปรุงสภาพเครื่องให้มีสมรรถนะที่ดีกว่าเดิม แต่อยู่ในงบประมาณที่กำหนดไว้ โดยชุดอัพเกรดจะประกอบด้วย แผงวงจรหลัก หน่วยประมวลผลกลาง และตัวระบายความร้อน ทั้งนี้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์เอเทค ก็สามารถนำชุดอัพเกรดนี้ไปในกับคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ได้
ช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เอเทคมีการปรับเปลี่ยน จากเดิมที่มีอยู่ 2 ช่องทาง ได้แก่ไดเร็คเซลล์และชอปโชว์รูม/ดีลเลอร์ เอเทคมองว่าปัจจุบันระบบอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาท จึงได้ขยายเพิ่มอีกทางหนึ่งด้วยการเปิดบริการซื้อ-ขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตหรืออี-คอมเมิร์ซ ด้วยขั้นตอนหลักง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน คือ 1.เลือกรายการสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ 2.สั่งซื้อและชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ที่ผู้บริโภคสะดวกและมั่นใจ และ 3.รับสินค้า
"ระบบอินเทอร์เน็ตนี้ทำให้เกิดความสะดวกสำหรับลูกค้าที่มีเวลาจำกัด อีกทั้งการซื้อบนระบบนี้ลูกค้ายังได้ราคาพิเศษกว่าการสั่งซื้อผ่านระบบปกติอีกด้วย"
สำหรับรูปแบบการชำระเงินสามารถเลือกช่องทางที่สะดวกได้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร การชำระเงินผ่านระบบ ATM และการชำระเงินผ่านระบบอี-แบงก์กิ้ง
นิธิพัฒน์ เชื่อว่าการปรับเปลี่ยนของเอเทคในวันนี้จะรองรับความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้นได้อีกระดับ และในอนาคตอันใกล้นี้ เอเทคจะมีการเปิดบริการอื่นๆ เพื่อให้สินค้าและบริการของเอเทคสามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้อย่างครบวงจร
|
|
|
|
|