เผยเหตุ "สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย" ขายหุ้นทราฟฟิก คอร์นเนอร์โฮลดิ้งส์ ถูกกดดันจากกลุ่มจุฬางกูร ผู้ถือหุ้นใหญ่ พร้อมกระแสข่าวอาร์.เอ็น.ที.เทเลวิชั่น เล็งแบ็คดอลิสติ้งขณะที่ "พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย" ปฏิเสธลั่นยังไม่มีแผนที่จะทำแบ็ดดอลิสติ้ง ชี้การเข้าไปถือหุ้นเป็นการลงทุนส่วนตัว

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาได้มีกระแสข่าวว่าสาเหตุที่นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือTRAF ได้ขายหุ้นให้กับพันตำรวจเอกรวมนคร ทับทิมธงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์.เอ็น.ที.เทเลวิชั่นจำกัด (มหาชน) จำนวน 58 ล้านหุ้น หรือ 16.92% ในราคาหุ้นละ 0.81 บาทนั้น สาเหตุที่นายสุรพงษ์ขายหุ้นนั้นนอกจากการที่เหนื่อยกับการบริหารงานแล้วได้มีกระแสข่าวว่านายสุรพงษ์ถูกกดดันจากผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มจุฬางกูรซึ่งประกอบด้วยนายณัฐพล, นายทวีฉัตร และนายชนะชัย ลีนะบรรจง ซึ่งถือหุ้นมานานแล้ว และมองว่าที่ผ่านมานายสุรพงษ์บริหารงานยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าที่ควร

ทั้งนี้จึงส่งผลทำให้นายสุรพงษ์ตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดให้กับพ.ต.อ.รวมนคร เพราะมองว่าถ้าเปลี่ยนผู้บริหารใหม่อาจจะทำให้ธุรกิจดีขึ้น เพราะพ.ต.อ.รวมนครก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจด้านสื่อวิทยุซึ่งเชื่อว่าเข้ามาช่วยพัฒนาบริษัททราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ได้ นอกจากนี้ได้มีกระแสข่าวในอนาคตอาจจะมีการนำบริษัทอาร์.เอ็น.ที.เทเลวิชั่น เข้าตลาดหลักทรัพย์ในลักษณะของการแบ็ดดอลิสติ้งในบริษัททราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดดิ้งส์ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องจับตามองต่อไป

พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อาร์.เอ็น.ที.เทเลวิชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้ามาถือหุ้นในบริษัททราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์นั้น เป็นการถือหุ้นส่วนตัวไม่ใช่นำบริษัทอาร์.เอ็น.ที.เทเลวิชั่น เข้ามาถือหุ้นและการถือหุ้นของตนเป็นการถือในสัดส่วนเพียง 16% เท่านั้น ส่วนจะมีการเข้ามาถือหุ้นเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่นั้นยังไม่สามารถบอกได้ เพราะจะต้องรอให้มีการหารือกับผู้ถือหุ้นและผู้บริหารบริษัททราฟฟิกคอร์เนอร์โฮลดิ้งส์ เสียก่อน โดยในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ คณะกรรมการบริษัททราฟฟิกคอร์เนอร์โฮลดิ้งส์จะมีการประชุม ซึ่งตนก็จะเข้าร่วมประชุมและจะได้หารือร่วมกันด้วย

ส่วนกรณีการนำบริษัทอาร์.เอ็น.ที.เทเลวิชั่นเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น พ.ต.อ.รวมนครกล่าวว่า เดิมบริษัทมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้วแต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวลงและภาวะตลาดหุ้นที่ซบเซา ส่งผลทำให้บริษัทตัดสินใจชะลอแผนการเข้าจดทะเบียนไปก่อน

สำหรับกรณีจะนำบริษัททราฟฟิก คอร์เนอร์โฮลดิ้งส์เข้ามาควบรวมกับบริษัทอาร์.เอ็น.ที.เทเลวิชั่นหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ถึงจุดนั้นจึงยังตอบไม่ได้ว่ามีแผนจะควบรวมหรือไม่ แต่การเข้าไปถือหุ้นในบริษัททราฟฟิกคอร์เนอร์โฮลดิ้งส์นั้น เพราะมองว่าบริษัทมีจุดแข็งในแง่ของฟรีทีวีซึ่งมีช่องทางที่จะเข้าไปติดต่อกับสถานีโทรทัศน์ทางช่อง 3, 7 และ 9 ได้