ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ อยู่ระหว่างเจรจาหาพันธมิตรต่างประเทศเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า เหตุเล็งบุกตลาดตะวันออกลางจากความต้องการสูง ผู้บริหารเผย หวังรายได้ส่งออก 5% จากรายได้ปี 49 ที่คาดว่า 1,500 ล้านบาท งงราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเหตุใด
สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของ บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUCC วันที่ 28 ก.ค.49 ปิดที่ 6.05 บาท ปรับตัวลดลง 0.05 บาท หรือลดลง 0.82% มูลค่า111.95 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับต้นเดือนมิ.ย.49 ราคาอยู่ที่ 3.82 บาท ซึ่งรับตัวเพิ่มขึ้น 2.23 บาท หรือเพิ่มขึ้น 58.37%
นายทรงชัย ลีลวินิจกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUCC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้จากการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศคิดเป็น 5% จากรายได้ปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท ซึ่งตลาดส่งออกของบริษัทจะเป็นในประเทศแถบตะวันออกกลาง เนื่องจากมีความต้องการสูงที่จะนำไปก่อสร้าง โดยประเทศแถบดังกล่าวนิยมที่จะใช้สแตนเลส เพราะมีความคงทนดูและง่ายและมีความสวยงาม และจากการที่กำลังการผลิตของบริษัทมากขึ้นทำให้มีความสามารถที่จะส่งออกไปต่างประเทศได้
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรากับพันธมิตรต่างประเทศเพื่อที่จะเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับบริษัทในต่างประเทศ โดยจะเป็นพันธมิตรลักษณะคู่ค้า ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการสรุป จากการที่อยู่ระหว่างการเลือก ซึ่งได้รับความร่วมมือกับแอ็กซิมแบงค์ในการให้ข้อมูล นอกจากนี้บริษัทก็จะมีการรุกทำการตลาดสแตนเลสในต่างจังหวัดเช่นกัน
ทั้งนี้บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่รายได้รวม 1,200 ล้านบาท แม้ราคาสแตนเลสมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นก็เป็นไปตามตลาดโลกซึ่งปัจจุบันราคาขายใช้สแตนเลส อยู่ที่ 3,400 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากต้นปีที่ผ่านมาที่ราคาสแตนเลสในตลาดโลกอยู่ที่ 2,200-2,300 เหรียญสหรัฐต่อตัน
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/49 ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงการตรวจสอบงบอยู่ซึ่งคาดว่าจะประกาศได้ในช่วงกลางเดือนหน้า นายทรงชัย กล่าวว่า จากกราคาหุ้นของบริษัทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมานั้น ส่วนตัวก็รู้สึกงงเหมือนกันว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากเหตุผลใด และการที่บริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการ (บอร์ด) ของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมภายหลังจากที่งบการเงินไตรมาส 2/49 ได้มีการประกาศออกมา
|