นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศไทยและอินโดจีน
เปิดเผยว่า จากมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เพิ่มคุณสมบัติของผู้ที่ทำบัตรเครดิตต้องมีรายได้เดือนละ
15,000 บาทขึ้นไปนั้น วีซ่า คาดว่าจะทำให้ยอดอัตราการขยายตัวของบัตรเครดิตในปี
2546 ลดลง โดยคาดว่าในปีนี้ยอดบัตรเครดิตวีซ่า จะมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ
20-25 ส่วนหนึ่งมาจากฐานบัตรเครดิตในปีนี้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา วีซ่า คาดว่ามีอัตราการขยายตัวของบัตรเครดิตอยู่ที่กว่าร้อยละ
50 และคาดว่าฐานบัตรเครดิตอยู่ที่ประมาณ 3.7-3.8 ล้านบัตร หากรวมยอดบัตรวีซ่าอิเลคตรอนแล้ว
จะอยู่ที่ประมาณ 7.5 ล้านบัตร ทั้งนี้ข้อมูลที่แน่นอนต้องรอสมาชิกของวีซ่าแจ้งยอดบัตรไตรมาสสี่ของปี
2545 มาให้ทราบก่อน
“แม้ว่าอัตราการขยายตัวของวีซ่า จะลดลงจากปีก่อน แต่ในด้านของส่วนแบ่งการตลาดนั้น
ในปี 2546 นี้ วีซ่าคาดว่าจะสามารถครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณร้อยละ 80 เพิ่มขึ้นจากปีทีผ่านมาที่อยู่ประมาณร้อยละ
75 โดยส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มส่วนหนึ่งมาจากการโฆษณาชุดใหม่ที่ใช้งบลงทุน 70-80
ล้านบาทต่อปี”
ด้านของการบริโภคในปีนี้ คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีเนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น
มีการอุปโภคบริโภคในประเทศมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อย 5-10 ขณะเดียวกับการใช้บัตรเครดิตจะเพิ่มขึ้นและเข้ามาทดแทนเงินสดเพิ่มขึ้น
เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคได้หันมาใช้บัตรในการซื้อสินค้าแทนการใช้เงินสดประมาณร้อยละ
4 และคาดว่าจะเพิ่มเป็นร้อยละ 4.5-4.8 ได้ในอนาคต ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ประมาณร้อยละ
7 ซึ่งโอกาสที่บัตรเครดิตจะเข้ามาทดแทนเงินสดยังมีโอกาสอีกมาก
เปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่
สำหรับนโยบายสนับสนุนด้านการตลาดนั้น นายสมบูรณ์ กล่าวว่า บริษัทได้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
และการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการตลาดของวีซ่าปี 2546 และถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการทำตลาด
เพราะเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำของวีซ่าในไทย ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก
ล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้ชื่อชุด “ตุ๊ก ตุ๊ก" โดยมุ่งเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันมานำเสนอให้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น
เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคมาใช้จ่ายในชีวิตประจำมากขึ้น
เช่น การเติมน้ำมันผ่านบัตรเครดิต โดยมีพรีเซ็นเตอร์ที่มีชื่อเสียงจากฮอลลีวูด
คือ เพียร์ซ บรอสแนน และจาง ซิ ยี่ คู่พระนางจากภาพยนตร์เรื่องเจมส์บอนด์ 007 ภาคล่าสุด
รวมทั้งนักแสดงของไทยเข้าร่วมแสดงด้วย
สำหรับภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ได้ถ่ายทำในประเทศไทย ย่านเยาวราช และบริษัทจะใช้ภาพยนตร์ในชุดเดียวกันนี้
แพร่ภาพไปทั่วเอเชีย-แปซิฟิกรวม 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ไต้หวัน
สิงคโปร์ เกาหลี อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง เป็นต้น
“วีซ่าต้องการสร้างความแตกต่างให้คนในเอเชีย-แปซิฟิก และออสเตรเลีย เพื่อให้เข้าใจถึงความเป็นอยู่อย่างธรรมดา
เพราะฉะนั้นภาพยนตร์โฆษณาจึงพยายามเลือกสรร ขนบธรรมเนียม ชีวิตความเป็นอยู่ของเอเชีย
ที่สำคัญคือ “ตุ๊กตุ๊ก” ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของไทยและเอเชีย ดังนั้นในส่วนนี้ถือเป็นความแตกต่าง
ที่ได้จากการไปสำรวจว่าผู้บริโภคต้องการสิ่งใด และพบว่าประเทศไทยในขณะนี้ขึ้นชื่อในเรื่องฝีมือในการถ่ายทำภาพยนตร์
ประเทศไทยจึงได้เป็นสถานที่ในการถ่ายทำ” นายสมบูรณ์ กล่าว
ปัจจุบันวีซ่ามีสาขามากกว่า 21,000 แห่งทั่วโลก มีจำนวนบัตรออกใช้กว่า 1,000 ล้านใบทั่วโลก
และในประเทศไทยมีร้านค้ากว่า 120,000 แห่งที่สามารถใช้บัตรวีซ่าได้ ทำให้ในปี 2545
วีซ่ามีส่วนแบ่งตลาดโรขึน 20-25% สำหรับปี 2546 ใช้งบประมาณในส่วนของการโฆษณาประชาสัมพันธ์
70-80 ล้านบาท เมื่อภาพยนตร์โฆษณาเข้าถึงผู้บริโภคและแพร่หลายกว้างขึ้น