|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ลอรีอัล เบรกแผนออกสินค้าใหม่แบบเหวี่ยงแห รับพิษเศรษฐกิจหดตัว-การเมืองอึมครึม เปิดเกมรบเลือกปั้นนวัตกรรมใหญ่ลุยตลาดพร้อมอัดฉีดเม็ดเงินแจ้งเกิด ชู “การ์นิเย่” สินค้าเรือธงสร้างรายได้หลัก โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรกโต 12% มากกว่าตลาด มั่นใจสิ้นปีโตเป็นตัวเลขสองหลัก ระบุตลาดดูแลผิวไทยมีศักยภาพที่โตได้อีกมาก
นายฌอง-ฟิลิปป์ ชาริเย่ร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้ลอรีอัล,การ์นิเย่ และไบโอเธิร์ม ฯลฯ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปรับนโยบายการออกสินค้าใหม่ เลือกแต่นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไทยและกำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงในการทำตลาดเท่านั้น และใช้งบสนับสนุนอย่างเต็มที่ จากเดิมการออกผลิตภัณฑ์ใหม่จะทำในลักษณะเหวี่ยงแห หรือออกผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในไทยชะลอตัวลง และจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่ความชัดเจนตั้งแต่เมื่อปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามปัจจัยลบดังกล่าวคงเป็นเพียงแค่ระยะสั้นเท่านั้น และไม่ได้สร้างผลกระทบต่อตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาตลาดมีอัตราการเติบโตถึง 11% ทั้งนี้เชื่อว่าหากสถานการณ์ประเทศไทยกลับสู่ภาวะปกติ ชนชั้นกลางมีรายได้เพิ่มขึ้นและกลายเป็นฐานที่ใหญ่ในโครงสร้างประชากร คาดว่าปี 2550-2551 ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น จากการพัฒนานวัตกรรมใหม่จากผู้ประกอบการอีกมาก เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า 2-3 ชิ้นต่อคนต่อวัน เมื่อเทียบกับประเทศเกาหลีมีอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว 11 ชิ้นต่อคนต่อวัน
แนวทางตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิว บริษัทฯ จะเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับแมส ภายใต้แบรนด์ “การ์นิเย่” เป็นหัวหอกหลักในการทำตลาดธุรกิจ เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ที่สุด โดยพบว่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับแมสมีทิศทางที่ดี เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับเคาน์เตอร์หรือจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า เช่น ไบโอเธิร์ม ลังโคม เป็นต้น มีอัตราการเติบโตน้อย ส่วนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจำหน่ายผ่านช่องทางโรงพยาบาลโดยผ่านการแนะนำของแพทย์ผิวหนัง เช่น ลาโรช โพเซย์ และช่องทางร้านเสริมสวย ได้แก่ ลอรีอัล โปรเฟสชันแนลไม่ได้รับผลกระทบในช่วงเศรษฐกิจ
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 12% ส่วนลอรีอัลทั่วโลกมีอัตราการเติบโต 8.7% การเติบโตมากกว่าตลาดเป็นเพราะมีผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคคนไทย รวมถึงการใช้พรีเซ็นเตอร์คนไทย โดยมี 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สร้างการเติบโต ได้แก่ กลุ่มแรกผลิตภัณฑ์ดูแลผิว มีด้วยกัน 2 แบรนด์หลัก ได้แก่ ลอรีอัล เดอร์โม เอ็กซเพอร์ทิส โต 16% และการ์นิเย่ สกิน แนชเชอรัล โต 34%
ส่วนกลุ่มสอง คือ ผลิตภัณฑ์ผู้ชายในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวเป็นสองเท่าหรือโต 113% จากการเปิดตัวลอรีอัล เม็น เอ็กซเพิร์ท เจาะตลาดแมสซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นอันดับสองของตลาด และผลิตภัณฑ์ไบโอเธิร์ม อ็อม ในส่วนของเคาน์เตอร์มีอัตราการเติบโต 30% ส่วนตลาดน้ำหอมปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้นำตลาด โดยครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโต 33% ในขณะที่ตลาดโต 7% อย่างไรก็ตามแนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 100% ทุกปี ซึ่งปัจจุบันรายได้ในตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายคิดเป็น 10% ของรายได้รวม
กลุ่มสุดท้าย คือ ตลาดเปลี่ยนสีผมซึ่งบริษัทฯ มีอัตราการเติบโต 2% ในขณะที่ตลาดผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีอัตราการเติบโต ส่งผลให้ลอรีอัลยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดทั้งในตลาดแมสและร้านเสริมสวย โดยผลิตภัณฑ์ลอรีอัล เอ็กซเซลเล็นซ์ในตลาดแมส มีอัตราการเติบโต 13% และผลิตภัณฑ์ลอรีอัล โปรเฟสชันแนลในตลาดร้านเสริมสวย โต 26% สำหรับผลประกอบการสิ้นปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก
|
|
|
|
|