|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ สิงหาคม 2549
|
|
ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะบริหาร บริษัททรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น หรือยูบีซี มักใช้คำว่า "convergence" ในการอธิบายให้สื่อมวลชนและผู้คนทั่วไปได้เข้าใจการเข้ามารวมกันของเทคโนโลยีต่างๆ มากขึ้น
แต่ถึงจะพูดคำดังกล่าวมานานหลายปี แต่ระหว่างงานแถลงข่าวเปิดตัว "ทรูไลฟ์ พลัส" ก็เพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่ศุภชัยถึงกับออกปากว่านี่เป็นหนแรกที่ทั้งทรูและผู้บริโภคจะได้เห็นการทำ convergence ที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุดอีกครั้งหนึ่ง
ทรูไลฟ์ พลัส เป็นคำที่ผู้บริหารใช้เรียกแคมเปญใหม่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สินค้าของทรูทั้งหมดได้รับสิทธิพิเศษอย่างอื่นเพิ่มมากขึ้น แบบเดียวกันกับก่อนหน้านี้ที่ทรูเคยเรียกชื่อแคมเปญว่า "True Together" แต่แตกต่างกันที่ว่า ทรูไลฟ์ พลัส เน้นไปที่สามผลิตภัณฑ์เด่นของทรู คือ ทรูมูฟ ทรู ยูบีซี และทรู มันนี่ ที่ดูเหมือนกำลังได้รับ การผลักดันจากทรูอย่างเต็มที่
ทรูไลฟ์ พลัส เป็นการทำการตลาดรูปแบบใหม่ของทรูโดยอาศัยศักยภาพของเทคโนโลยีหลากหลายอย่างที่มีอยู่ในมือ ทั้งเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ, เคเบิลทีวี หรือแม้แต่โทรศัพท์บ้าน ผนวกรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นทั้งการทำ convergence เทคโนโลยี และ convergence ทางด้านการตลาดอย่างปฏิเสธไม่ได้
หนึ่งในบริการของทรูไลฟ์ พลัส ก็คือ ยูบีซี ทรูมูฟ ฟรีวิว ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถรับชม 31 ช่องรายการทีวี ทั้งฟรีทีวีช่องพิเศษหรือรายการของทรู ยูบีซี โดยเสียค่าบริการรายเดือนเพียง 300 บาท ขณะที่ลูกค้าเสียค่ามัดจำเพียง 2,000 บาท ก็ได้รับจานรับสัญญาณดาวเทียม พร้อม set-top box ไปติดตั้งที่บ้าน โดยไม่เสียค่าติดตั้งและได้รับค่ามัดจำคืนเมื่อยกเลิกการใช้บริการ
ความพิเศษของยูบีซี ทรูมูฟ ฟรีวิว ไม่ใช่การที่ได้จานรับสัญญาณดาวเทียมไปติดและทำให้รายการทีวีที่บ้านชัดขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่ายังอยู่ที่ทรูได้ให้ค่าโทรศัพท์ทรูมูฟกลับคืนให้กับลูกค้าทุกเดือน เดือนละ 300 บาทอีกด้วย พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ อีก อาทิ การเปิดให้รับชมหนังแบบคิดค่าบริการเป็นดูเท่าไรจ่ายเท่านั้น หรือ pay per view หรือจ่ายก่อนดูทีหลัง ซึ่งเป็นครั้งแรกของเอเชีย ที่เปิดให้รับชมรายการทางเคเบิลได้แบบพรีเพดด้วย
อย่างไรก็ตาม การที่ทรูถือสิทธิ์ให้ลูกค้าต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนการรับชมสัญญาณภาพของตนผ่านทางบริการทรู มันนี่ หรือเติมเงินสดเข้าระบบโทรศัพท์มือถือ และให้ระบบหักเป็นค่าบริการรับชมรายเดือน ขณะที่ก็เติมเงินคืนเป็นค่าโทรออกให้กับผู้ใช้ เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นเกมการตลาดที่แยบยลไม่น้อย
นั่นหมายถึงว่าผู้ใช้ต้องใช้บริการทรูมูฟ และทรู มันนี่ รวมถึง ทรู ยูบีซี ครบทั้งสามทาง ที่สำคัญมีโอกาสไม่น้อยที่บริการแต่ละอย่าง จะได้รับการใช้งานมากขึ้นจากผู้ใช้ คือ คนจะใช้ทรู มันนี่ จับจ่ายอย่างอื่นมากขึ้น ใช้ทรูมูฟในวงเงินที่มากขึ้นและใช้ทรู ยูบีซีแพ็กเกจที่แพงกว่า 300 บาท และได้รับชมช่องทีวีเพียง 31 ช่อง ซึ่งเป็นสิ่งทรูตั้งความหวังเอาไว้เหนือสิ่งอื่นใดจากการเปิดตัวแคมเปญในครั้งนี้
"ทรู ยูบีซี ก็อยากจะขยายฐานลูกค้าของตัวเอง ทรูมูฟก็อยากจะได้ลูกค้าใหม่" ผู้บริหารของทรูทิ้งท้ายเอาไว้
|
|
|
|
|