ทำสถิติเป็นเกมโชว์ที่แจกเงินรางวัลสูงสุดไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับรายการ "อัจฉริยะข้ามคืน" ที่ออกอากาศในคืนวันจันทร์ทางช่อง 3 ด้วยการแจกเงินรางวัล 1 ล้านบาททุกสัปดาห์ รายการนี้เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างเคทีซีในฐานะเจ้าของเงินและเวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่เป็นเจ้าของความคิดรายการ
จุดเริ่มของรายการนี้เกิดขึ้นเมื่อนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคทีซี เกิดปิ๊งไอเดียที่จะทำการตลาดผ่านทางรายการทีวีจึงได้ติดต่อมายังเสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล ให้ช่วยคิดรูปแบบรายการทีวี ตั้งโจทย์ง่ายๆ แค่ให้เป็นรายการที่มีสาระกับไม่ต้องมีการเปิดป้ายให้รุงรัง
มีโอกาสทำรายการที่แจกรางวัลขนาดนี้ แถมยังไม่ต้องควักกระเป๋าเอง มีหรือเสี่ยปัญญาจะปฏิเสธ หลังรับโจทย์มาก็ระดมความคิดทีมงานจนเกิดเป็นรายการนี้ขึ้น แต่ก็ยังไม่วายเก็บเป็นความลับ กระทั่งผู้บริหารของสปอนเซอร์บางรายที่ร่วมสนับสนุนรายการอยู่ด้วยยังเอ่ยปากว่า เพิ่งได้ข้อมูลและรูปแบบรายการพร้อมๆ กับนักข่าวในวันแถลงข่าวนี่เอง
ด้วยรูปแบบรายการที่เป็นเรียลลิตี้ ควิซโชว์ ที่เปิดโอกาสให้ผู้แข่งขันได้ใช้ความสามารถและไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก่อนจะคัดจนเหลือผู้เล่น 2 คนสุดท้ายไปชิงตอบคำถามสุดท้ายเพื่อคว้าเงินล้านกลับบ้าน เชื่อว่ารายการนี้น่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก โดยนอกจากสปอนเซอร์ใหญ่อย่างเคทีซีแล้ว งานนี้ยังได้ชักชวนพันธมิตรเก่าและใหม่มาร่วมควักกระเป๋าอีก 7 ราย ได้แก่ ปตท., แฮปปี้, บางกอกแอร์เวย์ส, สหพัฒนพิบูล, ฟูจิ กรุ๊ป, ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์และเป๊ปซี่
เฉพาะในส่วนของเคทีซีต้องควักกระเป๋าจ่ายสำหรับรายการนี้ ที่จะออกอากาศเพียง 1 ปีเบ็ดเสร็จเป็นเงินกว่า 180 ล้านบาท เพราะนอกจากเงินรางวัลสัปดาห์ละ 1 ล้านบาท รวม 1 ปีก็ 52 ล้านบาท แล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างผลิตรายการ ค่าโฆษณา จิปาถะ เพียงแต่ตัวเลขเหล่านี้บอสใหญ่ของเคทีซี ปิดเงียบไม่ยอมแจกแจงให้ฟังสักนิด
สำหรับคำถามสำคัญที่สื่อมวลชนแทบทุกสำนักให้ความสนใจก็หนีไม่พ้นว่า จ่ายหนักขนาดนี้ผลที่ได้จะคุ้มหรือ?
นิวัตต์ตอบด้วยความมั่นใจตามสไตล์ว่า งานนี้คุ้มสุดๆ เพราะเงิน 180 ล้านบาท ที่เอามาจ่ายงานนี้ก็เป็นงบการตลาดที่เตรียมเอาไว้ จ่ายในปีนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบการทำตลาดจากวิธีเดิมๆ มาลองของใหม่ดูบ้าง เชื่อว่าจะช่วยสร้างแบรนด์เคทีซีให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้มากขึ้นกว่าเดิม
ที่สำคัญ รายการนี้ยังเปิดโอกาสให้ได้มาร่วมทำกิจกรรมกับพันธมิตรอีก 7 รายอีกด้วย โดยที่บางรายก็เป็นพันธมิตรกันอยู่แล้ว ส่วนบางรายอย่างสหพัฒนพิบูลก็ยังไม่เคยมีกิจกรรมด้วยกันมาก่อน ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ร่วมงานกันและนอกจากรายการนี้แล้วก็ยังเตรียมจะทำตลาดร่วมกันอีกในอนาคตด้วย
เพราะฉะนั้น จบงานนี้ปีหน้าค่อยมาว่ากันใหม่
|