Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2543
Living on the Fault Line             
 





2. คุณประเมินหรือวัดความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างไร?

เขาเริ่มต้นด้วยการตอบคำถาม ที่สองก่อนว่า ต้องไปดู ที่เรื่องมูลค่าของผู้ถือหุ้น โดยชี้ว่าการที่ราคาหุ้นสูงขึ้นสะท้อนให้เห็นว่ายุทธศาสตร์ขององค์กรประสบผลสำเร็จ เพราะมูลค่าของผู้ถือหุ้นไม่ได้สะท้อนเฉพาะผลประกอบการที่ผ่านมา แต่เป็นการบอกึงความสามารถ ที่จะรักษาผลประกอบการต่อไปในอนาคต

มัวร์กล่าวว่าความได้เปรียบเชิงแข่งขันประกอบด้วยสองด้านคือ ช่องว่างของความได้เปรียบเชิงแข่งขัน ซึ่งเป็นความหมายเชิงเปรียบเทียบถึงระยะห่างระหว่างสินค้าของคุณกับสินค้าของคู่แข่ง (GAP) และระยะเวลาของความได้เปรียบเชิงแข่งขัน ซึ่งหมายถึงระยะเวลา ที่คุณสามารถรักษาความได้เปรียบให้อยู่เหนือคู่แข่ง (CAP) ยิ่งระยะห่าง GAP มากหรือ ยิ่งระยะเวลา CAP ยิ่งนาน มูลค่าผู้ถือหุ้นก็จะยิ่งเพิ่ม ดังนั้น การที่มูลค่าผู้ถือหุ้นเพิ่มจึงหมายความว่าคุณกำลังเดินไปถูกทางแล้ว

ปัญหาก็คือ คุณจะทำอย่างไรให้เดินถูกทาง บริษัทจะเพิ่มความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างไร มัวร์เสนอว่าความได้เปรียบเชิงแข่งขันประกอบด้วย 5 ขั้นตอนด้วยกัน ซึ่งจะช่วยทำให้คุณขยับห่างจากคู่แข่งทีละน้อย

ขั้นตอนแรกคือ การไล่ให้ทันกระแสเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีเป็นแสงนำทางไปสู่การสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขัน แต่ทั้งนี้ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีลำพัง คุณต้องรู้ถึงการแปลงเทคโนโลยีให้ใช้ได้กับสินค้าหรือบริการของคุณด้วย เพื่อสนองความต้องการของลูกค้า นั่นก็คือ การสร้างสายโซ่แห่งมูลค่า (value chain) โดยต้องเลือกว่าจะเข้าสู่สายโซ่ใหม่ ที่เป็นทางไปสู่ชัยชนะหรือสู้กับคู่แข่ง เพื่อให้เป็นผู้นำในสายโซ่เดิม ทั้งนี้อย่าลืมว่า หลังจากอำนาจของเทคโนโลยีตามด้วยอำนาจของสายโซ่แห่งมูลค่าแล้ว อำนาจของตลาดจะเป็นตัวกำหนดความได้เปรียบเชิงแข่งขัน

บริษัท ที่ต้องการเป็นผู้นำต้องแยกแยะตัวเอง และสินค้าออกจากคู่แข่งให้ได้ โดยต้องเน้นไป ที่สามเรื่องหลักคือ การสร้างภาวะผู้นำทางด้านสินค้า ความใกล้ชิดกับลูกค้า และความเป็นเลิศในด้านการดำเนินงาน (หารายละเอียดในเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ในหนังสือ The Disciplines of Market Leaders ของไมเคิล เทรซี และเฟรด เวียร์ซีมา)

ในส่วนหลังของหนังสือ มัวร์นำเอาแนวความคิดเร่องการสร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขันโดยเน้น ที่มูลค่าของผู้ถือหุ้นเข้ากับวงจรการรับเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้อ่านรู้ถึงระยะห่าง และจังหวะเวลาในการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นผู้นำ

อ่านง่าย และสนุก เพราะผู้เขียนนำเสนอแนวคิดอย่างชัดเจน เป็นคู่มือเชิงยุทธศาสตร์อีกเล่มในยุคอินเตอร์เน็ต

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us