|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้บริหาร "บางสะพานบาร์มิล" คาดการณ์ราคาเหล็กครึ่งปีหลังยังทรงตัว และส่งผลดีให้ผลงานปีนี้พลิกฟื้นมีกำไร เหตุความต้องการเหล็กในตลาดโลกยังสูง แย้มอาจมีการประกาศจ่ายเงินปันผล พร้อมให้ความมั่นใจ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่ทิ้งหุ้นหลังครบกำหนดไซเลนต์พีเรียด
นายวีระวิทย์ ดุละลัมพะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน) หรือ BSBM กล่าวถึงภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กว่า แนวโน้มราคาเหล็กในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 จะยังคงทรงตัวหรืออาจจะมีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลกยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ขณะที่ไตรมาส 4 เองจะยังคงได้รับปัจจัยบวกจากโครงการก่อสร้างต่างๆ ที่ยังคงมีอยู่
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ BSBM ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการจัดทำงบการเงิน และอาจจะขัดกับหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
"ไตรมาสแรกปี 2549 BSBM มีผลงานออกมาค่อนข้างดี ดังนั้นไตรมาส 2 เองก็คงไม่แตกต่างกันนัก และคาดว่าปีนี้ทั้งปีน่าจะพลิกกลับมามีกำไร เนื่องจากบริษัทไม่ต้องตั้งสำรองสต๊อกคงค้าง รวมทั้งยังมีแผนที่จะขยายตลาดออกไปต่างประเทศให้มากขึ้นอีกด้วย ขณะเดียวกันบริษัทได้มีการปรับแผนการผลิต ด้วยการผลิตสินค้าเพียงพอเฉพาะเท่าที่จะขายให้กับตัวแทนจำนวน ไม่มีการผลิตเผื่อไว้ ตรงนี้จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับบริษัทได้อีกทางหนึ่ง"
นายวีระวิทย์ กล่าวต่อว่า บริษัทไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการแข่งขัน เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพของบริษัทฯ นอกจากนี้บริษัทจะอยู่ในเครือของ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI ซึ่งทำให้มีฐานลูกค้าจาก SSI ด้วย
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นในระยะนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของบริษัททางอ้อม แต่ถ้าปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบมากขึ้นในอนาคตบริษัทอาจจะหันมาใช้วิธีการขนส่งทางเรือแทน เพื่อลดต้นทุนค่าน้ำมัน
อย่างไรก็ตามในปีนี้ยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากกำลังการผลิตที่ใช้ในปัจจุบันเพียงพอกับความต้องการใช้เหล็กในตลาดโลกแล้ว โดยในปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 20,000 ตัน/วัน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 60,000 ตัน/วัน
"ปีนี้บริษัทไม่ต้องตั้งสำรองสินค้าคงเหลือในสต๊อกเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงนี้ราคาเหล็กในตลาดโลกปรับตัวดีขึ้น ทำให้สินค้าขายได้หมดตามสต๊อกที่ผลิต ดังนั้นในปีนี้คาดว่าอาจจะมีการพิจารณาจ่ายเงินปันผล โดยบริษัทมีนโยบายในการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 60 % ของกำไรสุทธิ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีแนวโน้มชะลอลงคาดว่าคงไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการสร้างรายได้ในปี้ของบริษัท เนื่องจากที่ผ่านมามีการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าให้มากขึ้น รวมทั้งยังลดความเสี่ยงโดยการผลิตสินค้าตามความต้องการของตลาด ดังนั้นในปีนี้จึงมั่นใจว่าจะสามารถรักษา Gross Profit Margin ไว้ที่ 10% ได้
ส่วนกรณีที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะขายหุ้นออกมาหลังจากครบกำหนดไซเลนต์พีเรียด ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คงจะไม่ขายหุ้นของ BSBM ออกมาแน่ เพราะในอนาคตบริษัทยังคงมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีปัจจัยบวกจากปัจจัยต่างๆ ข้างต้น
"บริษัทมั่นใจว่าไม่น่าจะมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทิ้งหุ้นออกมา เพราะที่ผ่านมาก็ไม่มีใครขายหุ้น และบริษัทยังคงมีแผนที่จะขยายธุรกิจอีกในอนาคต รวมทั้งการผลิตเหล็กของเรายังครบวงจรอีกด้วย"
|
|
|
|
|