Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 กรกฎาคม 2549
ช็อต!!วงการจัดสรรกำลังซื้อ3-5ล้านใกล้สูญพันธุ์             
 


   
www resources

โฮมเพจ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค

   
search resources

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค, บมจ.
ธีระชนม์ มโนมัยพิบูลย์
Real Estate




*ช็อต!! วงการบ้านจัดสรร กำลังซื้อ 3-5 ล้านหดชะงัก
*บิ๊ก“เพอร์เฟค-เอเชี่ยน”พร้อมใจทำคอนโดมิเนียมระดับกลางราคาล้านต้น ๆ เขย่าบังลังก์เจ้าตลาดแอล.พี.เอ็น.ฯสะเทือน
*จับตาขาใหญ่รายต่อไปร่วมขบวน รับมือกำลังซื้อช่วงเศรษฐกิจตก

การทำตลาดของอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นช่วงที่เหนื่อยไม่น้อยของผู้ประกอบการ เพราะนอกจากจะได้รับปัจจัยลบต่างๆ มากมายแล้ว ในฟากกำลังซื้อยังหดตัวอย่างชัดเจน ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องพลิกกลยุทธ์กันทั่วหน้า เพื่อประคององค์กรให้อยู่รอดปลอดภัย

“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคฯ”เป็นดีเวลลอปเปอร์ที่มีจุดยืนในการพัฒนาโครงการเพื่อเจาะตลาดระดับกลาง-บนมาโดยตลอด แต่ในยุคที่กำลังซื้อหดตัว เนื่องมาจากการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และราคาน้ำมันเช่นขณะนี้ ทำให้เพอร์เฟคฯ ตัดสินใจที่จะหันมาเล่นตลาดโลว์คอสต์มากขึ้น ด้วยการปรับตัวสินค้าให้เข้ากับกำลังซื้อของผู้บริโภค เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้

ลุยคอนโดตลาดล่าง

ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ. พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค หรือPF กล่าวว่า “ในยุคราคาน้ำมันแพง ทำให้เพอร์เฟค รวมทั้งดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆ พบว่าผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจกับการซื้อคอนโดมิเนียมในเมืองมากขึ้น เนื่องจากต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเพอร์เฟคฯ เองเล็งเห็นว่าการที่จะเน้นพัฒนาเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง-บนแต่เพียงอย่างเดียวคงจะไม่เหมาะสมกับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคในระดับราคา 3-5 ล้านหดตัวลงจากภาวะดังกล่าวด้วย ทำให้เพอร์เฟค ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อที่จะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ โดยการหันมาเล่นโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลาง ในโครงการ “เมโทร พาร์ค สาทร” ย่านท่าพระ ชูจุดขายด้วยทำเลใกล้ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สะพานตากสิน) มีพื้นที่เปิดโล่ง 70% และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ภายในโครงการ ในราคาเริ่มต้น 1.1 ล้านบาท”

สำหรับคอนโดมิเนียม “เมโทร พาร์ค สาทร” เปิดตัวเฟส 1 เมื่อ พ.ย. ที่ผ่านมา และสามารถปิดยอดขายมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาทได้ภายใน 8 เดือน จากเป้าเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะปิดในไตรมาส 3 และจากการตอบรับที่ดีจากตลาด ทำให้เปลี่ยนแผนการเปิดเฟส 2 ให้เร็วขึ้นมาจากเดิมที่ตั้งใจจะเปิดในไตรมาส 4 มาเป็นไตรมาส 3 แทน โดยปรับราคาเฟส 2 เพิ่มขึ้นจากเฟสแรก 10% เนื่องจากมีต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้น

โซนท่าพระระอุ

ขณะนี้ในย่านท่าพระที่เพอร์เฟคฯ ได้พัฒนาโครงการอยู่ พบว่ามีคู่แข่งมาร่วมแชร์ตลาดด้วยเช่นเดียวกัน ได้แก่ โครงการลุมพินี รัชดา-ท่าพระ ของแอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ และLife@Tha-Phra ของ เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ หรือ เอพี ซึ่งแม่เหล็กที่ดึงดูดให้โซนนี้กลายเป็นทำเลที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง เนื่องจากอยู่ในแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าของ กทม. ที่มีความเป็นไปได้ในการเปิดใช้งานมากที่สุด และสามารถเดินทางเข้าสู่กลางเมืองได้สะดวกอีกด้วย ซึ่ง ดร.ธีระชน มีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากอยู่ในแนวรถไฟฟ้า และในทำเลดังกล่าวยังมีดีมานด์ของลูกค้ารอเป็นอยู่จำนวนมาก ซึ่งโครงการนี้ เพอร์เฟคฯ จะทยอยพัฒนาเป็น 8 เฟส รวม 6,000 ยูนิต จะรองรับดีมานด์ดังกล่าวได้ โดยใช้เวลา 2-3 ปี

รุกทาวน์เฮาส์ราคาถูก

นอกจากโครงการคอนโดมิเนียมแล้ว สินค้าอีกอย่างหนึ่งที่เพอร์เฟคฯเห็นว่าจะต้องทำเพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ คือ ทาวน์เฮาส์ โดยเพอร์เฟคฯ เตรียมเข็นโครงการประเภททาวน์เฮาส์ในแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ป้อนสู่ตลาด ซึ่ง ดร.ธีระชน กล่าวว่า “เดิม เพอร์เฟคฯ มีแผนที่จะพัฒนาที่ดินในย่านพัฒนาการเป็นทาวน์เฮาส์ แต่ขณะนี้มีการชะลอโครงการออกไปก่อน เพื่อรอให้การดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้าของรัฐบาลมีความชัดเจนขึ้น”

ดร.ธีระชน กล่าวว่า จะมีการเปิดตัวทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาทให้เห็นในไตรมาส 4 โดยจะเป็นการพัฒนาบนที่ดินผืนใหม่อยู่ในแนวรถไฟฟ้าเช่นเดียวกัน แต่อยู่ในเส้นทางที่รัฐบาลกำลังรอการประมูลโครงการจากภาคเอกชน

ใช้ “พรีแฟบ” ลดต้นทุน

เนื่องจากโครงการทาวน์เฮาส์ที่ เพอร์เฟคฯ จะทำเป็นโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงต้องมีการบริหารจัดการเรื่องต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง ดร.ธีระชน กล่าวเสริมว่า “จะใช้เงินลงทุน 20 ล้าน เพื่อนำเทคโนโลยีพรีแฟบมาใช้ในการก่อสร้าง ที่มีการวิจัยและพัฒนาร่วมกับทางญี่ปุ่นสามารถแก้ปัญหารอยรั่วและเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ดีกว่าระบบเดิม และช่วยประหยัดเวลาในการก่อสร้าง ทำให้สามารถสร้างได้เร็วขึ้น จำนวนมากขึ้น และจะช่วยให้เกิดการประหยัดต้นทุน ในแง่ของ Economy of scale ด้วย”

เปลี่ยนโมเดลพัฒนาโครงการ

แม้ว่าที่ดินในโครงการทาวน์เฮาส์ดังกล่าวจะเป็นที่ดินขนาดใหญ่ แต่เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพอร์เฟคฯ จึงเลือกที่จะพัฒนาโครงการเป็นเฟสๆ แล้วทยอยขาย ดร.ธีระชน อธิบายถึงแนวคิดดังกล่าวว่า “เพื่อให้ได้เงินทุนมาหมุนเวียนในธุรกิจ และนำไปพัฒนาเฟสต่อไป ต่างจากเดิมที่จะเป็นการขายโครงการให้หมดภายในเวลาเดียว แล้วจึงมีการก่อสร้างให้เสร็จพร้อมกันทั้งโครงการ ซึ่งอาจทำให้ดีเวลลอปเปอร์ต้องเสี่ยงกับการรับภาระดอกเบี้ยที่สูงเกินไป สร้างเสร็จไม่ทันเวลา จึงไม่สามารถโอนให้ลูกบ้านได้ ทำให้อาจจะมีเงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ

นอกจากนี้การพัฒนาโครงการไปทีละเฟสจะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของสินค้าให้เข้ากับสถานการณ์ได้ โดยสัดส่วนการทำธุรกิจของ เพอร์เฟคฯ ต่อจากนี้จะเป็นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 60% คอนโดมิเนียม 20% และทาวน์เฮาส์ 20%”

APยอมเสียแบรนด์ทำคอนโดราคาถูก

นอกจากเพอร์เฟคฯที่หันมาจับตลาดระดับกลางมากขึ้นแล้ว บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือAP ที่เน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยหรูหราระดับกลางถึงบนในเขตกลางเมือง ยังหันมาทำคอนโดมิเนียมระดับกลาง ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองด้วย เพื่อรับกำลังซื้อที่ชะลอตัวลง จากปัจจัยลบมากมาย

การทำตลาดของเอเชี่ยนฯในช่วงที่ผ่านมาจะเน้นพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ระดับพรีเมี่ยม ภายใต้แบรนด์“บ้านกลางกรุง” , “บ้านกลางเมือง” , “ซิตี้ สมาร์ท คอนโด”และ“เดอะ ซิตี้”

แต่เนื่องจากสถานการณ์ของตลาดบ้านจัดสรร อยู่ในช่วงขาลง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดระดับบน ทำให้เอเชี่ยนฯต้องหันมาทบทวนแผนใหม่ ซึ่งจะหันมาทำโครงการระดับกลางมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มความหลากหลายของโปรดักส์

วิษณุ สุชาติล้ำพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เอเชี่ยนฯกล่าวว่า โครงการของเอเชี่ยนฯ ส่วนใหญ่จะเน้นระดับกลางถึงบน อาทิ บ้านกลางกรุง สาทร-ถนนจันทน์ ราคา 7.69 ล้านบาทขึ้นไป ,บ้านกลางเมือง พระราม 9 ศรีนครินทร์ เป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ราคา 2.85 ล้านบาท ,คอนโดมิเนียม Vogue๑ สยาม ซึ่งเป็นคอนโดฯราคา 70,000-90,000 บาทต่อตารางเมตร หรือราคาขาย 3-4 ล้านบาท เป็นต้น แต่ขณะนี้ต้องปรับเปลี่ยนโปรดักส์ เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อที่ชะลอลง

ชูจุดขายห่าง BTS 300 เมตร

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการนั้น วิษณุ กล่าวว่า คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ คือโครงการ “LIFE@BTS ท่าพระ” เป็นคอนโดมิเนียมระดับกลางราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 4-4.5 หมื่นบาท สูง17 ชั้น จำนวน 672 ยูนิต ราคา 1.2 ล้านบาทขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 30-55 ตารางเมตร มูลค่า 1,100 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่ เน้นกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง-ล่าง

“มองว่ากลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีกำลังซื้อและความต้องการอีกมาก ที่สำคัญเป็นโครงการที่อยู่ห่างสถานีรถไฟฟ้า BTS เพียง 300 เมตรเท่านั้น และกำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆนี้ น่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย”

วิษณุ กล่าวว่า บริษัทยังมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 8 แห่ง เป็นทาวน์เฮาส์และคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์บ้านกลางกรุง รัชวิภา 329 ยูนิต ราคา 5 ล้านบาท บ้านกลางเมือง ศรีนครินทร์ 238 ยูนิต ราคา 3.6 ล้านบาท บ้านกลางเมือง เกษตร-นวมินทร์ 320 ยูนิต ราคา 3.4 ล้านบาท และบ้านกลางเมือง กรุงเทพกีฑา 299 ยูนิต ราคา 2.5 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ มูลค่ารวมกว่า 4,000ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us