Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2537








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2537
"เอสอาร์ทีบีเอ็น ช่องทางข่าวสารใหม่ของไอเอ็นเอ็น"             
 


   
search resources

สำนักข่าวไอ เอ็น เอ็น
สหศินีมาโฮลดิ้ง
นิสิต ปาลิโพธิ
Radio




สงครามด้านข่าวสารรุนแรงขึ้นเพียงใด นั่นย่อมหมายถึงว่าพัฒนาการด้านสื่อ (MEDIA) ที่จะนำพาข่าวไปสู่สาธารณชนจะต้องรุนแรงขึ้นตามนั้นด้วย ดังนั้นวิวัฒนาการด้านสื่อจากวิทยุ โทรทัศน์ วิทยุติดตามตัว โทรสาร โทรพิมพ์ ที่จะส่งข่าวสารไปแก่ผู้อยากรู้ข้อมูลนั้น ก็มาถึงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ที่จะอาศัยเครื่องคอมพิวเตอร์ในการส่งผ่านข้อมูลไปถึงผู้รับ

เช่นเดียวกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น (INDEPENDENCE NEWS NETWORK) หนึ่งในบริษัทสหศินีมา เครือข่ายของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งหลังจากค้นหารูปแบบที่เหมาะของตัวเองอยู่นานพอสมควร โดยการก้าวมาจากการเสนอข่าวด่วนพล. 1 ในปี 2531 ต้องประสบปัญหาด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่สูงกว่ารายรับที่ได้เข้ามาอย่างมากมาย แม้ว่าในปี 2532-33 จะได้เปลี่ยนสถานีไปจัดที่ทอ. 102.5 แล้วกล้าที่จะใช้ชื่อว่า "ข่าวด่วนสหศินีมา" โดยเอาชื่อขององค์กรหลักมาเป็นจุดขายก็ตาม แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

มาเริ่มสบช่องเหมาะเอาเมื่อกลางปี 2535 เมื่อไอเอ็นเอ็นได้จับมือร่วมกับมีเดียพลัส ที่จะรังสรรค์ให้สถานีวิทยุพล. 1 ซึ่งตนเองเคยเข้ามาทำครั้งหนึ่งแล้วให้ไปถึงเป้าหมายที่ได้วางไว้ให้จงได้ แม้ว่าจะมีรายได้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็ตามแต่ก็ถือว่าเป็นก้าวย่างสำคัญที่ทำให้ไอเอ็นเอ็นได้ประสานสัมพันธ์กับพันธมิตรใหม่ ซึ่งเป็นแรงผลักดันในการเข้าไปประมูลเวลาสถานีวิทยุของกองทัพยกอีกถึง 5 สถานีในช่วงต่อมา และได้มีการจัดให้คลื่น 94.5 เมกกะเฮิร์ตซ์ เป็นสถานีวิทยุด้านข่าวแห่งแรกๆ ซึ่งต่อมาก็มีการเปิดสถานีวิทยุด้านข่าวโดยเฉพาะอีกหลายแห่ง

จากความร่วมมือของมีเดียพลัส ก็ได้นำพาไปจับมือกับกลุ่มไทยสกายทีวีในเวลาต่อมา ที่จะส่งข่าวของไอเอ็นเอ็นผ่านทางไทยสกาย แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของสยามบรอดคาสติ้ง บริษัทแม่ของไทยสกาย จึงทำให้โครงการนี้ต้องล้มไป ประจวบเหมาะกับกลุ่มสหศินีมาก็กำลังคิดจะตั้งบริษัทด้านข่าวเพื่อดำเนินการขยายสื่อด้านอื่นอยู่ด้วย จึงได้เกิดบริษัท ออนไลน์ นิวส์ ขึ้นเพื่อการนี้ และด้วยสรรพกำลังที่ลงไปส่วนหนึ่ง กับงานร่วมมือกับไทยสกาย ทำให้ไอเอ็นเอ็นมองว่า สื่อที่จะไปถึงมือผู้รับอย่างเช่น จอมอนิเตอร์ของคอมพิวเตอร์ ก็น่าจะเป็นหนทางทำตลาดได้ไม่แพ้จอโทรทัศน์แต่อย่างใด

"เราจึงได้จับมือร่วมกับสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่มีชื่อเสียงของโลกในการตั้งบริษัทใหม่ที่ให้ชื่อว่า สยามเรียลไทม์ บิสสิเนส นิวส์ หรือเอสอาร์ทีบีเอ็น เพื่อส่งข่าวสารออนไลน์ไปยังลูกค้าคอมพิวเตอร์ของผู้ขายหลายรายซึ่งกำลังติดต่อกันอยู่ในขณะนี้" นิสิต ปาลิโพธิ กรรมการผู้จัดการของสยามเรียลไทม์บิสสิเนส นิวส์ กล่าวและเปิดเผยถึงสาเหตุที่จำเป็นต้องเลือกสำนักข่าวรอยเตอร์เข้ามาเป็นพันธมิตรในการก่อตั้งบริษัทนี้ว่า เนื่องจากเนื้อหาของข่าวที่จะนำเสนอผ่านเอสอาร์ทีบีเอ็นนี้จะไม่ได้เน้นเฉพาะข่าวเศรษฐกิจ การเมืองภายในประเทศเท่านั้น แต่จะรวมถึงข่าวเศรษฐกิจและเหตุการณ์ปัจจุบันของโลกด้วย และหลังจากใช้เวลาในการดูใจ และดูความเอาจริงเอาจังของแต่ละฝ่ายอยู่ปีกว่าจึงได้เริ่มก่อตั้งบริษัทขึ้น

วิธีการส่งข่าวผ่านจอคอมพิวเตอร์ของเอสอาร์ทีบีเอ็นนี้ ในขั้นต้นได้มีการติดต่อผ่านไปยังบริษัทผู้ขายเครื่องคอมพิวเตอร์หลายรายและรายแรกที่ตอบตกลงจะให้บิรการร่วมกันคือยูนิเท็คซ์ ซึ่งจะมีลูกค้าใช้บริการในช่วงแรกประมาณ 100-150 ราย และหาสามารถติดต่อบริษัทผู้ขายเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ประมาณ 3-4 รายในช่วง 2 ปีก่อนจะถึงจุดคุ้มทุนแล้ว ก็จะทำให้มีลูกค้าไม่น้อยกว่า 500 รายในช่วงแรกของการดำเนินการนี้

และจาก 500 รายในขั้นเริ่มต้นนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นอันจะนำมาซึ่งลูกค้าผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์อีกนับจำนวนแสนในท้องตลาด ที่ใฝ่หาข่าวและข้อมูลทางการเมืองและธุรกิจที่ถูกต้อง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเอาจริงเอาจังของไอเอ็นเอ็นในฐานะผู้บุกเบิกสื่อทางด้านนี้ว่าจะสามารถอาศัยความได้เปรียบในจุดนี้ เจาะเข้าไปในช่องว่าตลาดอันนี้ได้มากน้อยเพียงใด

"แต่แม้ว่ากำไรจากผลประกอบการจะเป็นเรื่องใหญ่แต่ก็ยังเป็นรองเรื่องความถูกต้องและฉับไวของข่าว ที่เราสามารถทำเช่นนี้ได้ และมีจุดคุ้มทุนได้เร็วนั้น เป็นเพราะต้นทุนดำเนินการขั้นต้นของเราค่อนข้างต่ำมากเพียง 5 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้เราสามารถจัดเก็บค่าบริการจากสมาชิกได้ปีละ 20,000-30,000 บาท หรือประมาณเดือนละ 2,300-2,500 บาทเท่านั้น ไม่แตกต่างมากนักจากสื่อประเภทอื่นที่จัดเก็บอยู่"

และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับงานใหม่ทางด้านข่าวของสหศินีมานี้ ทางกลุ่มสหศินีมาโฮลดิ้ง ซึ่งประกอบด้วยบริษัทศินีมา ที่รับงานด้านประชาสัมพันธ์ และบริษัทในเครือไอเอ็นเอ็น ก็ได้เตรียมการจะขยับขยายองค์กรของตัวเองไปอยู่ ณ สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่อาคารหรินธรภายในปีนี้ พร้อมกันนั้นทางด้านบุคลากร ทางไอเอ็นเอ็นก็ยังคงพนักงานทางด้านข่าวของตนไว้ในอัตรา 150 คนเท่าเดิม ไม่มีการลดหรือเพิ่มแต่อย่างใดเพราะตระหนักดีว่าปัญหาที่ผ่านมาในการดำเนินการข่าวตามสถานีวิทยุต่างๆ นั้น เป็นเพราะไม่ได้เน้นทางด้านคุณภาพเพื่อให้ได้สัดส่วนกับปริมาณพนักงานที่มีเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการขยายเครือข่ายออกมาทางด้านข่าวสารเพื่อรองรับลูกค้าที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่งานหลักที่เคยทำให้อดีตคืองานด้านวิทยุนั้น ทางไอเอ็นเอ็นก็ยังไม่ได้ละทิ้งแต่ประการใด การร่วมมือกับมีเดียพลัสเพื่อส่งข่าวป้อนให้กับสถานีวิทยุในทุกช่วงของแต่ละวันโดยเฉพาะทางคลื่น 102.5 เม็กกะเฮิร์ตซ์นั้น ยังถือว่าเป็นหน้าเป็นตาอย่างหนึ่งของไอเอ็นเอ็นวันนี้

"เรายังต่อยอมรับอยู่ว่ารายได้จากเอสอาร์ทีบีเอ็นนั้น จะคุ้มทุนและสร้างผลประกอบการอันมหาศาลในระยะยาวให้กับเรา แต่ในวันนี้เรายังต้องการรายได้จากทางวิทยุมาช่วยเจือจานการดำเนินการที่ยังขาดทุนในช่วงแรกของธุรกิจตัวใหม่นี้อยู่บ้างพอสมควร ซึ่งในอนาคตเราก็มีโครงการเช่นกันที่จะเข้าไปลงทุนในการทำรายการข่าวทางสถานีวิทยุให้มากกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่ คือป้อนโฆษณาเข้ามาให้รายการอยู่ได้ ไม่ใช่ผลิตข่าวเพียงอย่างเดียวอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ แต่ในส่วนของเอสอาร์ทีบีเอ็นนี้ ทางสหศินีมาได้มีนโยบายออกมาแล้วว่าจะทุ่มตัวอย่างเต็มที่โดยจะให้ผมเข้ามาดูแลในส่วนนี้อย่างเต็มตัว ไม่ต้องจับงานอื่นเพื่อจะได้สร้างสรรค์ให้เป็นรายได้หลักส่วนหนึ่งของสหศินีมาในอนาคตให้จงได้"

ดังนั้น ณ วันนี้ ที่สงครามข่าวได้ก้าวขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ซึ่งจะพยายามขยายของเขตของสื่อออกไปด้วยเครื่องมือไฮเทคทุกอย่างเท่าที่มีอยู่ และไอเอ็นเอ็นได้ฝากความหวังไว้กับเอสอาร์ทีบีเอ็น ข่าวสารผ่านจอคอมพิวเตอร์ไว้ค่อนข้างสูง ก็เป็นเดิมพันสำคัญว่าก้าวย่างสำคัญอันนี้จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us