Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 กรกฎาคม 2549
แอลจีควบบริษัทหนีวิกฤติต้นทุน             
 


   
www resources

โฮมเพจ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย)

   
search resources

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย), บจก.
แอลจี มิตร อีเลคทรอนิคส์, บจก.
Electric




แอลจี แก้เกมหนีวิกฤติเศรษฐกิจทำต้นทุนพุ่งสูงขึ้น ปรับทัพควบรวม 2 บริษัทระหว่าง แอลจีมิตร อีเลคทรอนิคส์ และโรงงาน รวมร่างเป็นทัพเดียว หวังช่วยลดคอร์ส พร้อมขนทัพสินค้าโฮมยูสครบเซ็ท เปิดศึกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนครึ่งปีหลัง ขยับเล่นตลาดล่าง งัดสินค้าพรีเมี่ยมลงแข่ง พร้อมปรับราคาสินค้าลง 10% มั่นใจสิ้นปีมีรายได้รวมพุ่งขึ้น 30%

นาย มิน ปาร์ค ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ปัญหาทางเศรษฐกิจส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าเม็ดพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบหลักในหมวดสินค้าเอชเอ รวมไปถึงค่าขนส่งที่ขยับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทฯ มีแผนที่จะลดปัญหาควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มากที่สุด เพื่อที่จะไม่ต้องมีการปรับราคาสินค้าแต่อย่างไร

ล่าสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท แอลจี มิตร อิเล็คทรอนิกส์ จำกัด ได้ควบรวมกับโรงงานแอลจีที่ตั้งอยู่ในไทย รวมเป็นบริษัทเดียวกัน ภายใต้ชื่อ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้เกิดการบริหารการจัดการภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้บางส่วน รวมทั้งช่วยกระชับการทำงาน เช่น จากเดิมที่ต้องเช่าพื้นที่แวร์เฮ้าส์ สามารถใช้พื้นที่ภายในโรงงานจัดเป็นพื้นที่แวร์เฮ้าส์แทนได้

นอกจากนี้ทางบริษัทแม่ยังมีนโยบายบริหารการจัดการต้นทุน ด้วยระบบ โกลบอล ซอสซิ่ง คือ การรวมออเดอร์ในหลายประเทศเข้าไว้เป็นออเดอร์เดียวกันแล้วจึงสั่งซื้อ ทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่ำลง รวมไปถึงแผนคอร์สอินโนเวชั่น โดยจะมีหน่วยงานหนึ่งจัดตั้งขึ้นมาเพื่อปรับปรุงการดีไซน์สินค้า เพื่อควบคุมและลดต้นทุนสินค้าได้ทางหนึ่ง เช่น การนำเอา ทีดีอาร์ โปรเจกต์ (Tear Down and Redesine Project) คือ การพัฒนาฟังก์ชั่นการทำงานของสินค้าให้ดีขึ้น ในขณะที่โครงสร้างภายในของสินค้ายังคงเดิม

แผนดำเนินธุรกิจปีนี้ต้องมีการปรับราคาสินค้าลงประมาณ 10% จำนวน 2-3 ครั้งที่ผ่านมา หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากพบว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง การที่ยังจะตรึงราคาคงเดิม จะทำให้ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้ ทำให้ช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ จะเน้นนำผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีและดีไซน์ระดับไฮเอนด์มาวางจำหน่ายแทนที่ผลิตภัณฑ์ระดับล่างมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมั่นใจว่าทั้งปีบริษัทฯจะมีรายได้จากกลุ่มเอชเอเพิ่มขึ้นกว่า 30 %

ขนทัพเครื่องใช้ไฟฟ้าเปิดสมรภูมิรบ

นายประภาส ประสิทธิยาพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ ดูแลสินค้าหมวดเอชเอ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าหมวดเอชเอในปีนี้ เชื่อว่าจะมีการเติบโตไม่มากนัก หรืออาจะเทียบเท่าปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าประมาณ 35,000-38,000 ล้านบาท เนื่องจากจะเน้นการแข่งขันทางด้านราคาเป็นหลัก รวมไปถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

ส่วนพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปตามรสนิยมและรูปแบบการใช้ชีวิตที่ทันสมัยมากขึ้น รวมถึงการแข่งขันสูงของสถาบันทางการเงิน ที่มีการจัดโปรโมชั่นการผ่อนชำระต่างๆ ทำให้พบว่านอกจากตลาดบนจะมีการเติบโตที่สูงขึ้นแล้ว ผู้บริโภคในระดับล่างยังมีแนวโน้มหันมาซื้อสินค้าในระดับกลางมากขึ้น ดังนั้นบริษัทฯ ได้จัดงบการตลาดกว่า 500 ล้านบาท สำหรับการนำผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีและดีไซน์ระดับไฮเอนด์มาวางจำหน่ายแทนที่ผลิตภัณฑ์ระดับล่างมากขึ้น

ในขณะที่แผนการเปิดตัวสินค้าใหม่กลุ่มเครื่องซักผ้าอีก 3 โมเดล ในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ราคาตั้งแต่ 20,000-25,000 บาท จับตลาดแมสเป็นหลัก โดยจะเป็นรุ่นฝาหน้าถังเดี่ยว ขนาด 8-14 กิโลกรัม จากที่ผ่านมามีเครื่องซักผ้าวางจำหน่ายอยู่แล้ว 4 โมเดลเน้นจับกลุ่มตลาดพรีเมี่ยมเป็นหลัก โดยแนวโน้มเครื่องซักผ้าถังเดี่ยวคาดว่าจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากการที่ผู้บริโภคจะนิยมความสะดวกสบายมากขึ้น และเครื่องซักผ้าถังเดี่ยวในปัจจุบันสามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้ ด้วยฟังก์ชั่นการทำงานที่ไม่ซับซ้อน ด้วยระบบออโต้ ตั้งเวลาการทำงานแต่ละชนิดได้

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมงบการตลาดอีกกว่า 50 ล้านบาท สำหรับทำตลาดเครื่องซักผ้าในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้ เน้นบิโลว์เดอะไลน์ จัดกิจกรรม ณ จุดขายกว่า 70% และอะโบพเดอะไลน์ 30% มั่นใจว่าจะทำให้ครองความเป็นผู้นำด้วยแชร์ไม่ต่ำกว่า 25% เติบโตขึ้น 2-3% เป็นอย่างน้อย จากยอดขายเครื่องซักผ้าฝาบน 94% และฝาหน้า 6% ในขณะที่มูลค่าของตลาดรวมจะเติบโตขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่า 9,000 ล้านบาท จำนวน 1.1 ล้านเครื่อง จากเดิมในปีที่ผ่านมาตลาดมีมูลค่า 8,000 ล้านบาท จากจำนวน 9 แสนเครื่อง ในขณะที่สัดส่วนสินค้าของตลาดเครื่องซักผ้าแบ่งได้เป็น ถังคู่ฝาบน 50% ถังเดี่ยวฝาบน 45 % และฝาหน้า 5%

สำหรับสินค้าในกลุ่มตู้เย็นนั้นจะมีการเปิดตัวใหม่อีก 2 รุ่น ในตระกูล ไซด์ บาย ไซด์ และตู้เย็นสองประตูพร้อมเทคโนโลยีไวตามินพลัส สำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง โดยราคาที่วางจำหน่ายนั้นจะสูงกว่าราคาปกติประมาณ 5% เนื่องจากสินค้าตู้เย็นจะเป็นการนำเข้าทั้งหมด โดยตระกูล ไซด์ บาย ไซด์ จะนำเข้าเกาหลี ส่วน 2 ประตูจะนำเข้าจากอินโดนีเซีย ในขณะที่ปีที่ผ่านมาบริษัทฯเป็นผู้นำตู้เย็นแบบไซด์ บาย ไซด์ มีมาร์เก็ตแชร์กว่า 30% ส่วนมูลค่าตลาดตู้เย็นโดยรวมในปีนี้คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นประตูเดียว 60% ประตูคู่ 35 % และไซด์ บาย ไซด์ 3-5% ในขณะที่ตู้เย็นแบบประตูเดียวโตเพียง 1% แต่ไซด์ บาย ไซด์มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 18%

ส่วนผลิตภัณฑ์เตาอบไมโครเวฟนั้น ปีนี้คาดว่าจะออกเพิ่มอีก 10 รุ่น จากเดิมที่มีวางจำหน่ายอยู่แล้ว 6-7 รุ่น โดยรุ่นที่จะออกวางจำหน่ายนั้น จะเน้นเป็นไลน์อุ่นอย่างเดียว 6 รุ่น และไลน์อุ่นพร้อมกับย่าง 4 รุ่น ยังคงเป็นการเจาะตลาดแมสเป็นหลัก เนื่องจากพบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยยังใช้ไมโครเวฟส่วนใหญ่ในการอุ่นอาหารมากกว่าจะนำมาประกอบอาหารอย่างในยุโรป ดังนั้นฟังก์ชั่นการทำงานจึงไม่ซับซ้อน ทั้งนี้คาดว่าบริษัทฯ จะยังคงครองแชมป์อีกครั้ง ด้วยมาร์เก็ตแชร์ 43% จากเดิมในปีที่ผ่านมามีเพียง 33% ในขณะที่ตลาดรวมคาดว่าจะเติบโตขึ้น 11% คิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านบาท จากจำนวน 5 แสนเครื่อง

สุดท้ายผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่น จะมีออกใหม่ประมาณ 8 รุ่น เน้นขนาดเล็กเทคโนโลยีไม่ซับซ้อน เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคยังไม่ค่อยนิยมใช้ คาดว่าสิ้นปีจะมีแชร์ไม่ต่ำกว่า 18% ตามหลังชาร์ปที่เป็นผู้นำอยู่ไม่เกิน 2-3% ขณะที่ตลาดรวมคาดว่าจะโตเพียง 1% มูลค่าประมาณ 850 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนกว่า 3 แสนเครื่อง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us