|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โคเซ่เผยตลาดรวมเครื่องสำอางปีนี้อาการน่าเป็นห่วง เชื่อตลาดเติบโตลดลง 20% หลังเจอสารพัดปัจจัยลบทั้งเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันและความไม่แน่นอนทางการเมือง แนะทุกแบรนด์เร่งทำการบ้านหนักรับมือภาวะกำลังซื้อหด ด้านโคเซ่เน้นเปิดตัวสินค้าใหม่ ทำกิฟท์เซ็ท และจัดกิจกรรมที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมโฟกัสเครื่องสำอางฟาซิโนซึ่งเป็นแบรนด์วัยรุ่นมากขึ้น หลังพบว่ากำลังซื้อวัยรุ่นยังดีอยู่ ล่าสุดจัดกิจกรรมประกวดเต้นคืนกำไรให้วัยรุ่นและดันยอดขายเพิ่ม 50% ประกาศกร้าวขึ้นแท่นเบอร์ 4 แทนซีเอในปีหน้า
นายโชคชัย รัตนวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โคเซ่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องสำอางโคเซ่ และฟาซิโอจากญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดเครื่องสำอางในปีนี้มองว่าตลาดจะมีการเติบโตที่ลดลง 20% เนื่องจากได้รับผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ราคาน้ำมันขึ้นราคา และหลายสิ่งที่ยังไม่แน่นอนสำหรับนักธุรกิจ ซึ่งภาพรวมการแข่งของตลาดครึ่งปีหลังนี้มองว่าทุกแบรนด์จะต้องทำการบ้านหนักขึ้น เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคต่อเครื่องสำอางชะลอตัวลง ถึงแม้เครื่องสำอางจะเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อผู้หญิงก็ตาม
ในส่วนของบริษัทโคเซ่ฯ ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาพบว่ายอดรายได้มีอัตราการเติบโตลดลง 7% ขณะที่ยอดรายได้ทั้งปีบริษัทฯ คาดหวังการเติบโต 5-7% จากเป้าเดิมตั้งไว้15% เนื่องจากสภาพตลาดมีปัจจัยลบมาก ดังนั้นกลยุทธ์ในการทำตลาดครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯ จะพยายามออกสินค้าใหม่ในส่วนของแบรนด์โคเซ่ทุกเดือน และการทำกิฟท์เซ็ทให้กับเครื่องสำอางมากขึ้น เนื่องจากพบว่าลูกค้านิยมซื้อเพราะมีความรู้สึกว่ามีความคุ้มค่า รวมถึงการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรูปแบบการจัดงานจะเล็กลงแต่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
ฟาซิโอโตสวนทางเศรษฐกิจเหตุวัยรุ่นยังมีกำลังซื้อ
นางสาวนิศวร์ชญา เวิศเศวตพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและขาย บริษัทโคเซ่ฯ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไม่กระทบต่อแบรนด์เครื่องสำอางฟาซิโอ เนื่องจากแบรนด์นี้เจาะกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15 ปีขึ้นไปเป็นหลัก ซึ่งในแง่กำลังซื้อของลูกค้าวัยรุ่นพบว่ากำลังซื้อยังดีอยู่ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากนัก ซึ่งหากเทียบกับกลุ่มผู้ใหญ่พบว่ามีการชะลอการซื้อเครื่องสำอางลงเพราะมีรายจ่ายมาก โดยยอดค่าใช้จ่ายของลูกค้าต่อคนพบว่ามีประมาณ 500 บาทต่อบิล ซึ่งถือว่าเพิ่มหากเทียบกับปีที่แล้วที่มีคนละ 300 บาทต่อบิล อีกทั้งราคาสินค้าฟาซิโอก็ไม่แพงเฉลี่ยประมาณ 85-450 บาท จึงทำให้กลุ่มวัยรุ่นสามารถซื้อสินค้าได้อยู่ ทั้งนี้ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาพบว่ายอดขายเติบโต 53% สำหรับยอดรายได้ฟาซิโอสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 48 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วที่ปิดยอดไป 39.7 ล้านบาท
ด้านแผนการขยายสาขาฟาซิโอปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดให้ครบ 130 สาขา จากปัจจุบันมี 107 สาขา ภายใต้งบลงทุนสาขาละ 1.5-2 แสนบาท ซึ่งช่องทางการขยายสาขาของฟาซิโอจะเน้นไปในร้านวัตสัน ขณะนี้มี 67 สาขา, โรบินสัน, เซ็นทรัล และเดอะมอลล์ เป็นต้น ส่วนด้านผลิตภัณฑ์ฟาซิโอขณะนี้มีกว่า 160 เอสเคยู สิ้นปีตั้งเป้าเปิดตัวสินค้าใหม่ให้ครบ 180 เอสเคยู ล่าสุดบริษัทฯ เพิ่งเปิดตัวกลุ่มสกินแคร์ไปเมื่อช่วงต้นเดือนก.ค.นี้
ปัจจุบันตลาดเครื่องสำอางในร้านวัตสันพบว่าอันดับ 1 คือ เมย์บารีน นิวยอร์ค รองมาเป็นลอรีอัล อันดับ 3 เป็นเลฟรอน อันดับ 4 ซีเอ(ZA) อันดับ 5 เคท (Kate) และฟาซิโออยู่ที่ 6 ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าฟาซิโอจะก้าวขึ้นมาสู่อันดับ 5 แทนเครื่องสำอางเคทที่หยุดการทำตลาดไป และก้าวมาสู่อันดับ 4 แทนซีเอในปีหน้า จากการทำการตลาด ขยายสาขา เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
สำหรับงบการตลาดสำหรับฟาซิโอปีนี้ บริษัทฯ เตรียมใช้ประมาณ10 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมกับโรงเรียนสอนเต้นลาดองซ์เตรียมจัดการประกวดเต้น "Get Active Get Move Fasio Dance Contest" ขึ้น เพื่อคืนกำไรให้กับกลุ่มวัยรุ่นซึ่งถือว่าเป็นลูกค้าหลักของฟาซิโอ อีกทั้งเพื่อเป็นการฉลองที่ฟาซิโอในไทยครบรอบ 5 ปี และช่วยกระตุ้นยอดขายในช่วงจัดกิจกรรมปีนี้เพิ่ม 50%
|
|
|
|
|