อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ยังคงได้รับความเชื่อมั่นจากค่ายรถทั่วโลก แม้ปัญหาการเมืองยังอึมครึม ล่าสุด “นิสสัน” ตั้งศูนย์ส่งออกชิ้นส่วนจากไทย ตั้งเป้ามูลค่าปีละกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากผู้ผลิตชิ้นส่วน 94 รายในไทย จากปัจจุบันที่มีการส่งออกเพียง 5% ของเป้าหมายใหม่ ส่งผลให้ไทยเป็นฐานส่งออกใหญ่เป็นอันดับสองรองจากญี่ปุ่นเท่านั้น

นายอคิฮิโร อิชิวาทาริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จากแผนธุรกิจของนิสสันภายหลังเรโนลต์เข้ามาถือหุ้นใหญ่ โดยเริ่มต้นปี 2000 จะเป็นช่วงพลิกฟื้นธุรกิจที่ประสบปัญหาการขาดทุน จากนั้นในปี 2002 เป็นการทำงานที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาก็สำเร็จด้วยดีตามเป้าหมายทุกอย่าง และปัจจุบันอยู่ในแผนระดับ 3 คือ การสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจให้กับนิสสัน

“ประเทศไทยในฐานะเป็นฐานการผลิต และตลาดสำคัญของนิสสัน จึงมีส่วนที่จะขับเคลื่อนให้เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว เราจึงได้ตั้งให้ไทยเป็นศูนย์ส่งออกชิ้นส่วน ส่งให้กับโรงงานประกอบของนิสสันทั่วโลก โดยตั้งเป้าการส่งออกชิ้นส่วนจากไทยมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี หรือประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี ”

ทั้งนี้การส่งออกชิ้นส่วนจากไทย อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท นิสสัน เซาท์ อีส เอเชีย จำกัด ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทย ทุนจดทะเบียน 240 ล้านบาท ในการรับออเดอร์และรวบรวมชิ้นส่วนจากผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทย 94 ราย จากผู้ผลิตชิ้นส่วนของนิสสันในไทยทั้งหมด 135 ราย เพื่อส่งออกไปยังโรงงานประกอบของนิสสันทั่วโลก

นายอิชิวาทาริกล่าวว่า การที่ประเทศไทยเป็นการผลิตชิ้นส่วนเพื่อการส่งออกนั้น จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผลิตกหลากหลายแห่ง ซึ่งส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพแก่สินค้าของนิสสันโดยตรง และในเรื่องการขนส่ง หรือโลจิสติกส์ บริษัทฯ ได้ว่าจ้างบริษัท สยามนิสสัน เทรดดิง จำกัด ดำเนินงานเป็นสัญญาระยะเวลา 3 ปี โดยศูนย์ส่งออกชิ้นส่วนของนิสสันจากไทย ตั้งอยู่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี บนพื้นที่กว่า 40,000 ตรม.

“เดือนมกราคม 2550 การส่งออกชิ้นส่วนจากไทยจะมีความพร้อมเต็มที่ คาดว่าจะส่งออกสินค้าประมาณ 1,080 FEUs (ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต) ส่งผลให้ไทยกลายเป็นแหล่งส่งออกชิ้นส่วนใหญ่เป็นดับสองรองจากญี่ปุ่น จากปัจจุบันที่ไทยส่งออกชิ้นส่วนเพียง 50 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือประมาณ 5% ของเป้าหมายการส่งออกล่าสุด ขณะที่จีนส่งออกประมาณ 100 ตู้คอนเทนเนอร์ และอินโดนีเซียส่งออก 400 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งปัจจุบันสูงสุดที่ประเทศญี่ปุ่น 6,000 ตู้คอนเทนเนอร์”

โดยชิ้นส่วนที่ส่งออกจากฐานผลิตในประเทศไทย ยังรวมถึงส่วนประกอบตัวถังและหลังคาของรถนิสสัน ทีด้า ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อส่งไปประกอบในประเทศแม็กซิโก และประเทศอื่นๆ ส่วนชิ้นส่วนปิกอัพกำลังศึกษาอยู่ เพราะไทยถือเป็นฐานการผลิตปิกอัพที่ใหญ่ที่สุดของนิสสัน โดยจะเริ่มส่งผลิตและส่งออกปิกอัพโมเดลใหม่ในปี 2550

นายอิชิวาทาริกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์การเมืองไทยที่กำลังอึมครึมขณะนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายต่างๆ ของนิสสันในไทย รวมถึงการก่อตั้งศูนย์ส่งออกชิ้นส่วนจากไทย เนื่องจากไทยมีศักยภาพในการผลิต ทั้งเรื่องคุณภาพ ราคา และเวลา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกชิ้นส่วนเพื่อส่งโรงงานประกอบนิสสันทั่วโลก

“การจัดตั้งไทยเป็นฐานส่งออกชิ้นส่วน ถือเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มคุณค่าให้แก่บริษัทฯ โดยเสาะหาและเพิ่มแหล่งต้นทุนในการผลิตที่ต่ำกว่าที่อื่น และในเดือนเมษายนปี 2550 นิสสันจะสร้างจีนเป็นฐานการส่งออกชิ้นส่วนอีกแห่ง รวมถึงอินโดนีเซียที่จะเปิดในเดือนสิงหาคม 2550 อีกแห่งในภูมิภาคเอเชีย”นายอิชิวาทาร่ากล่าว