3 ค่ายบัตรเครดิตรุกจับลูกค้าระดับบน อัดสิทธิประโยชน์เพิ่มหลังพบลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมียอดใช้จ่ายพุ่ง เคทีซีมั่นใจสิ้นปีขยายยอดบัตร 1 แสนบัตร บัตรกรุงศรี 6 หมื่นบัตร ด้านเอชเอสบีซีงัดกลยุทธ์จับลูกค้าที่มีเงินฝาก3ล้านบาทขึ้นไป

นายธีรพจน์ โชคอนันตัง ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจบัตรเครดิต บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า จากนี้ไปบริษัทได้ให้ความสำคัญกับบัตรแพลทตินั่มมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าที่ถือบัตรดังกล่าวเกือบ50,000 บัตร และเป็นผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 70,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป โดยในสิ้นปีมีแผนที่จะขยายยอดบัตรแพลทตินั่มเพิ่มเป็น 100,000 บัตร ได้แน่นอน เนื่องจาก ได้อาศัยจุดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น โดยได้เจาะกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมกับเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังได้มีการจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดใช้จ่ายทุกเดือนอีกด้วย และเชื่อว่ากลยุทธ์และจุดเด่นทั้งหมดจะทำให้เป็นแรงดึงดูดให้ลูกค้ามาสนใจสมัครบัตรเครดิตแพลทตินั่มของเคทีซีเพิ่มได้ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะเติบโตลดลงก็ตาม

“เคทีซีให้ความสำคัญกับแพลทตินั่มเพราะเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูงกว่ากลุ่มอื่น ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มนี้มียอดใช้จ่าย15,000 บาทต่อเดือน และคาดว่าต้นปีหน้าจะมียอดใช้จ่ายเพิ่มเป็น 2-3หมื่นบาทต่อเดือน ลูกค้าแพลทตินั่นเป็นลูกค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนักเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น และการที่เราทุ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้นแต่ผลที่เคทีซีได้รับกลับมาก็คุ้ม”

สำหรับกรณีการติดชิพการ์ดนั้น เคทีซี จะทำการติดให้กับลูกค้าได้ในช่วง 2-3เดือนข้างหน้าสำหรับลูกค้าที่มีการใช้จ่ายสูงๆ และส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าแพลทตินั่ม แต่ทั้งนี้บริษัทจะทยอยเปลี่ยนเป็นชิพการ์ดได้หมดภายใน 2ปีข้างหน้า

ด้านนางสาว วรรวิมล กนกธนาพร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า ธนาคารได้วางแผนเพิ่มจำนวนบัตรเครดิตแพลทตินั่มในปีนี้เป็น 60,000 บัตร จากปัจจุบันมีอยู่ 55,000 บัตร โดยยังใช้นโยบายฟรีค่าธรรมเนียมตลอดชีพ และเชื่อว่าในภาวะเช่นนี้น่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะเดียวกันธนาคารได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าจำนวนมาก โดยในส่วนลูกค้าแพลทตินั่มจะมียอดการใช้จ่ายสูงถึง 20,000 บาทต่อเดือน และตั้งแต่เปิดให้ดำเนินการมาตั้งแต่ก.พ.ที่ผ่านมายอดใช้จ่ายของลูกค้ากลุ่มนี้ยังไม่ได้ลดลง

ขณะที่นายมาริอาโน เรซิน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาดและสื่อสาร ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารยังไม่มีนโยบายออกบัตรแพลทตินั่ม แต่ธนาคารธนาคารได้มีบัตรพรีเมียร์ ซึ่งมีคุณสมบัติสูงกว่าบัตรแพลทตินั่ม โดยคุณสมบัติของบัตรพรีเมียร์ นั้นธนาคารจะทำการเชิญลูกค้าเท่านั้น และต้องเป็นลูกค้าที่มีเงินฝากประจำตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนมากเป็นนักธุรกิจ ผู้บริหารระดับสูง หรือ เจ้าของธุรกิจ ณ ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ ไม่ถึง 1% ของพอร์ตบัตรเครดิตของธนาคาร ซึ่งแนวโน้มธนาคารก็ยังให้ความสำคัญกับลูกค้าพรีเมียร์เพิ่ม เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีการใช้จ่ายสูงกว่าลูกค้าบัตรเครดิตทั่วไป 3เท่า และการเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้ากลุ่มนี้แม้ว่าจะมีต้นทุนที่สูงแต่ผลตอบรับกลับคืนมาสู่ธนาคารก็ถือว่าคุ้มค่าเช่นกัน