|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ สัญชาติไต้หวัน หนีตายจากจีนแผ่นดินใหญ่ หอบเม็ดเงินมาลงทุนในไทย เหตุภาษีสูงลิ่ว -กระจายความเสี่ยง หลังเคยมีการลงทุนในไทยไปแล้วกว่า 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ล่าสุดคาดอีก 2 บริษัท หอบเม็ดเงินกว่า 200 ล้านบาท เตรียมย้ายฐานการผลิตมาไทย ด้านสมาคมธุรกิจการค้าไทย-ไต้หวัน พร้อมกุมบังเหียนดันไทยเป็นศูนย์กลางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในอาเซียน ผุดงาน "ไทยทรอนิคส์ กรุงเทพ 2006" คาดมีผู้เข้าชมงานกว่า 1 แสนราย
นายหลิน เหยา ตัง ประธานสมาคมการค้าไทย-ไต้หวัน หรือ ทีทีบีเอ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทในประเทศไต้หวันส่วนใหญ่จะนิยมลงทุนในประเทศจีนมากที่สุด เนื่องจากค่าแรงและภาษีที่ต่ำ แต่หลังจากที่จีนได้ปรับภาษีเพิ่มขึ้นประมาณ 50 % ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลไต้หวันจึงมีนโยบายให้บริษัทเหล่านั้น หันกระจายความเสี่ยง และลงทุนยังประเทศอื่นๆทดแทน
ทำให้บริษัทฯส่วนใหญ่ ได้มีการออกมาตั้งฐานการผลิตนอกเหนือจากประเทศจีนมากขึ้น โดยประเทศที่บริษัทจากประเทศไต้หวันให้ความสนใจที่จะลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และไทย ตามลำดับ ซึ่งในไทยเองนั้น ที่ผ่านมามีบริษัทจากไต้หวันเข้ามาลงทุนแล้ว มูลค่าไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
"เหตุที่ไทยติดอันดับที่ 3 นั้น เนื่องจากพบว่า ไทยเองถือเป็นประเทศหนึ่งในอาเซียนที่มีศักยภาพ ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาทางการเมืองบ้าง แต่เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย และมาเลเซียแล้ว ถือว่าปัญหาการเมืองของไทยนั้น เป็นปัญหาในระยะสั้น อีกทั้งไทยยังเป็นประเทศที่นานาประเทศรู้จักอีกด้วย ดังนั้นปัญหาการเมืองจึงไม่ใช่เหตุผลหลักสำหรับการลงทุน เนื่องจากบริษัทที่มาลงทุนส่วนใหญ่จะมองระยะยาวมากกว่า อีกทั้งการลงทุนในไทยยังสามารถผลิตสินค้าออกจำหน่ายได้ นอกเหนือจากเป็นฐานการผลิตสำหรับส่งออกเพียงอย่างเดียว บริษัทส่วนใหญ่จึงนิยมเข้ามาลงทุนในไทย"
นอกจากนี้ประเทศในอาเซียนที่นักลงทุนจากไต้หวันให้ความสำคัญรองจากไทย คือ เวียดนาม แต่สำหรับเวียดนามแล้ว จะเป็นการลงทุนที่จะเน้นการส่งออกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ขณะที่ปีนี้มีบริษัทที่เคยลงทุนอยู่แล้วในจีน หันมาลงทุนในไทยกว่า 10 บริษัท คิดเป็นเม็ดเงินในการลงทุนกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำลังจะเข้ามาลงทุนอีกอย่างน้อย 2 บริษัท มูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ โดยเฉพาะชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์เกี่ยวกับรถยนต์ และเป็นการสร้างฐานการผลิตในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม 304 อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบริษัทที่หันมาลงทุนในไทยกว่า 70 % นั้น ไม่คิดที่จะหันไปลงทุนในประเทศอื่นแทนอีก ทำให้ทางสมาคมฯต้องการที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางฐานการผลิตอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ในอาเซียนและเพื่อเป็นการขยายตลาดสินค้าจากไต้หวันสู่ตลาดโลกต่อไป
ทั้งนี้ทางสมาคมฯจึงได้ร่วมมือกับสมาคมการค้าส่งออกแห่งไต้หวันและสมาคมการค้าอิเล็คทรอนิกส์แห่งไต้หวัน ร่วมกันจัดงานแสดงสินค้า "ไทยทรอนิคส์ กรุงเทพ 2006" ขึ้น ณ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 27-30 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยภายในงานจะมีผู้ผลิตชาวไต้หวันมาร่วมงานกว่า 300 บริษัท และมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 200 บริษัท จำนวน 302 บูธ ใน 5 หมวดสินค้าหลัก เช่น ผลิตภัณฑ์ความบันเทิงพร้อมภาพและเสียง ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคแบบพกพา ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับแสงสว่าง ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ชิ้นส่วนเกี่ยวกับรถยนต์ โดยคาดว่างานดังกล่าวจะมีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 1แสนราย
|
|
|
|
|