Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2538








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2538
ปิดฉากพันธมิตรเทลสตาร์-สามารถ งานนี้ฉัตรชัย บุนนาคไม่เกี่ยว?             
 


   
www resources

โฮมเพจ กลุ่มบริษัทสามารถ

   
search resources

สามารถกรุ๊ป
ฉัตรชัย บุนนาค
ธวัชชัย วิไลลักษณ์
Transportation




กรณีการสิ้นสุดสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสามารถและบริษัทเทลสตาร์ ที่มีมายาวนานกว่า 7 ปี ด้วยการที่กลุ่มสามารถซื้อหุ้นจำนวน 1,400,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 160 บาท ( มูลค่าตราไว้หุ้นละ 100 บาท ) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 224 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% จากบริษัทเทลสตาร์ ที่ถืออยู่ในสามารถเทลคอมกลับคืนมาทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือหุ้นในบริษัทสามารถเทลคอมรวมเป็น 85% ของทุนจดทะเบียน 350 ล้านบาท

โดยผู้บริหารกลุ่มสามารถออกมาให้เหตุผลว่า ต้องการความคล่องตัวในการดำเนินงาน เพราะการที่เทลสตาร์เป็นรัฐวิสาหกิจ จึงต้องใช้ขั้นตอนในการตัดสินใจมาก ไม่สอดคล้องกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น ในขณะเดียวกับเทลสตาร์มีนโยบายไม่สนใจจะลงทุนในไทยอีกต่อไป ทำให้ข้อตกลงการซื้อขายหุ้นเป็นไปได้โดยง่าย

แต่ที่น่าสังเกตว่า การแยกทางเดินของทั้งสองบริษัท เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่บริษัทเทลคอม เพิ่งได้รับสัมทานวีเซทใหม่ จากรมไปรษณีย์โทรเลขไปหมาด ๆ ซึ่งทำให้บริการได้ทั้งภาพ ข้อมูลและเสียง มีอายุสัมปทาน 22 ปี แทนสัมปทานเดิมที่ให้บริการได้แต่ข้อมูล และมีอายุสัมปทานเพียง 15 ปีเท่านั้น

โดยเฉพาะผลผระโยชน์ตอบแทนที่แตกต่างไปจากสัมปทานวีแซทของการสื่อสารแห่งประเทสไทย (กสท) ลิบลับ โดยกลุ่มสามารถจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้กรมไปรษณีย์ในช่วง 9-10 ปีแรก จ่าย 10% แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ปีที่ 11-20 จ่าย 20% แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และปีที่ 21-22 จ่าย 30%แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท ในขณะที่สัมปทานวีแซทของกสท. กำหนดไว้ว่าเอกชนจะต้องจ่ายเป็นเงินประกันรายได้ขั้นต่ำตลอดอายุสัมปทาน 22 ปี ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

ในวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา สามารถเทลคอมได้งานงานเลี้ยงลูกค้าเป็นครั้งแรก ในรอบ 5 ปี และถือโอกาสเปิดตัวบริการรูปแบบใหม่ ๆ ที่จะมีขึ้นจากศักยภาพของสัมปทานที่เพิ่มขึ้น

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เหตุใดสามารถเทลคอม และเทลสตาร์ จึงต้องหันหลังให้กันทั้ง ๆ ที่ร่วมบุกเบิกกันมาถึง 7 ปี และเทลสตาร์เองต้องยกเลิกการลงทุนในไทยทั้ง ๆ ที่มีโอกาสแสวงหารายได้เพิ่มขึ้นเช่นนี้

ธวัชชัย วิไลลักษณ์ รองประธานบริหาร บริษัทสามารถคอร์ปอเรชั่นเปิดเผยถึงสาเหตุของการแยกทางในครั้งนี้ว่า ไม่ได้เพราะความขัดแย้ง เนื่องจากยังมีธุรกิจร่วมทำกันอยู่คือ บริการอิเล้กทรอนิกส์ ฟันด์ ทรานสเฟอร์ เป็นบริการประเภทหนึ่งของธนาคาร ซึ่งเทลสตาร์จะเป็นผู้สนับสนุนในเรื่องของเทคโนโลยี แต่ที่ต้องซื้อหุ้นคืนเพื่อต้องการความคล่องตัวในการบริหาร เพราะต่อไปวีแซทจะมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อการขยายธุรกิจของกลุ่ม ทั้งในเรื่องของธุรกิจบรอดคาสติ้ง บริการวิทยุติดตามตัว บริการประชุมทางไกล เป็นต้น

ทว่า ลึก ๆ แล้ว การขอสัมปทานใหม่ครั้งนี้ สามารถเทลคอมต้องการระดมทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อันเป็นเป้าหมายการแสวงหารายได้ของทุนสื่อสารทุกวันนี้ ซึ่งจะต้องมีการกระจายหุ้นให้กับประชาชน จะทำให้สัดส่วนการถือครองหุ้นของเทลสตาร์ลดลง สวนทางกับนโยบายของเทลสตาร์ ที่ยังคงต้องการเป็นผู้ถือหุ้นหลักอยู่ เทลสตาร์จึงขอถอนตัว

ในทางกลับกัน มีกระแสข่าวว่า กลุ่มสามารถเตรียมตัวหาพันธมิตรรายใหม่มาร่วมวงแล้ว ซึ่งเป็นไปได้สูงที่กลุ่มยูคอม จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ เพราะมีธุรกิจร่วมกันอยู่แล้ว

สำหรับเทลสตาร์ หรือชื่อเดิมคือโอทีซี เป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศออสเตรเลีย ทำหน้าที่ให้บริการด้านสื่อสารดทรคมนาคมประเภทต่าง ๆ ตั้งแต่บริการเครือข่ายสื่อสารเฉพาะกลุ่ม ( Private network) ซึ่งจะให้บริการตั้งแต่ติดต่อสื่อสารข้อมูลหรือเสียงความเร็วต่ำ บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ บริการเทเลกซ์และแฟกซ์ บริการเสริมประเภทต่าง ๆ เช่น อีดีไอ ตลอดจนบริการออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายสื่อสารประเภทต่าง ๆ

นอกจากการมีฐานที่มั่นในออสเตรเลียแล้ว เป้าหมายอีกอย่างหนึ่งของเทลสตาร์ คือการขยายการลงทุนทางด้านโทรคมนาคมในประเทศต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของการลงทุนในเครือข่ายระหว่างประเทศ อาทิ การเป็นผู้ถือหุ้นหลักในโครงการดาวเทียมอินเทลเซท และระบบเคเบิลในแก้วใต้น้ำ รวมทั้งการรวมทุนในบริการต่าง ๆ

ไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมาย โดยเทลสตาร์ได้ตั้งสำนักงานสาขาขึ้นในไทยเมสื่อหลายปีมาแล้ว เพื่อหาลู่ทางการลงทุนในไทย และเทลสตาร์ได้มาพบกับกลุ่มสามารถ ซึ่งได้รับสัมปทานวีแซทมาจากรมไปรษณีย์โทรเลขมาหมาด ๆ เป็นรายแรก ของไทย และกำลังต้องการหาพันธมิตรจากต่างชาติมาสนับสนุนในเรื่องของความรู้เทคโนโลยี

ในเวลานั้น เจริญรัฐ วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร พี่ชายของธวัชชัย ซึ่งร่ำเรียนทางด้านวิศวกรรมที่ออสเตรเลียจบกลับมา คุ้นเคยกับชื่อเสียงของเทลสตาร์มาเป็นอย่างดี ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำธุรกิจร่วมกัน โดยกลุ่มสามารถได้ชักชวนฉัตรชัย บุนนาค ซึ่งในเวลานั้นเป็นผู้บริหารของกลุ่มเซ็นทรัล มานั่งเป็นกรรมการผู้จัดการของสามารถเทลคอมในปีถัดมา

แม้ว่าจะมีคู่แข่งเกิดขึ้นมาในตลาดอีก 3 ราย คือคอมพิวเนท อคิวเมนท์ แะลไทยสกายคอม และบริการวีแซท ยังคงนิยมใช้อยู่ในวงจำกัดไม่กี่กลุ่ม แต่สามารถเทลคอมยังเป้นรายใหญ่ที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจวีแซทมาโดยตลอด สถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งะนาคารและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ล้วนแล้วแต่เป็นลูกค้าของสามารถเทลคอมแทบทั้งสิ้น

จนกระทั่งฉัตรชัย บุนนาค พร้อมทั้งทีมงานบางสาวนของสามารถ เทลคอม ได้ยื่นใบลาออกไปร่วมงานกับบริษัทสยามทีวี แอทนด์ แมเนจแม้นท์ ของสำนักงานทรัพย์สินฯ ซึ่งกำลังขยับเข้าสู่ธุรกิจด้านสื่อ และโทรคมนาคมอย่างเต็มที

เป็นที่รู้กันดีว่า ฉัตรชัยมีส่วนอย่างมากในการบุกเบิกธุรกิจวีแซทของสามารถเทลคอม โดยฉัตรชัยจะต้องทำหน้าที่ผู้บริหาร ที่เป็นตัวกลางระหว่างตรระกูลกลุ่ม และเทลสตาร์ ทำให้ฉัตรชัยมีความสนิทชิดเชื้อกับเทลสตาร์ค่อนข้างมาก

การขายหุ้นสามารถเทลคอมทิ้ง จึงถูกพุ่งเป้าไปในเรื่องที่เทลสตาร์ต้องการจะหันร่วมธุรกิจกับสยามแซทเทิลไลท์ เน็ทเวิร์ค จำกัด หรือชื่อเดิม ไทยสกายคอม เจ้าของสัมปทานวีแซทที่ตกมาอยู่ในมือสยามทีวีแอนด์ คอมมิวนิเคชั่น ซึ่งปัจจุบันมีอดีตเจ้าหน้าที่ของสยามเทลคอม นั่งบริหารงานอยุ่หลายคน รวมทั้งอดีตผู้บริหารระดับสูงของเทลสตาร์ เพราะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว โดยสยามแซทฯ ได้มีการปรับปรุงทั้งการบริหาร และบริการ ด้วยราคาค่าบริการตัดลงมาให้ถูกว่าคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าในเครือเองและภายนอกหันมาใช้บริการเพิ่มขึ้นหลายราย

แหล่งข่าวในบริษัทยอมรับว่า เทลสตาร์ มาเจรจาด้วยจริง และหากจะร่วมมือกันจริงก็คงไม่ใช่ในเร็ววันนี้ คงต้องรอเวลาอีกระยะหนึ่ง เพราะมารยาททางธุรกิจ ในเวลาเดียวกัน สยามแซทฯ ได้ไปเจรจาที่จะร่วมมือกับยักษ์โทรคมนาคมในสหรัฐอเมริกาไว้ก่อนหน้าแล้ว

ในอีกทางหนึ่ง การขายหุ้นของเทลสตาร์ เนื่องจากการแปรรูปจากรัฐวิสาหกิจเป็นเอกชน ทำให้เทลสตาร์ได้ปรับเเปลี่ยนนโยบายใหม่ โดยยกเลิกนโยบายการร่วมทุนกับเอกชนท้องถิ่นภายนอก หันไปมุ่งเน้นในเรื่องของการขายโนว์ฮาว หรือเทคโนโลยีแทน

แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ในวันนี้เทลสตาร์ได้ปิดฉากการลงทุนร่วมกับกลุ่มสามารถที่มีมายาวนานถึง 7 ปี ลงแล้ว แต่สำหรับธุรกิจวีแซทนั้นคงจะต้องรอดูกันต่อไปว่า เทลสตาร์จะหันหลังให้เช่นเดียวกันหรือไม่

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us