|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ส่องกล้องมองครึ่งปีแรก ทุกธุรกิจทั้งคอนซูเมอร์ เครื่องดื่ม คอสเมติกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า กุมขมับ ทั้ง ยอดขาย -กำไร วูบไปตามๆกัน เหตุ ปัจจัยลบเดิมๆที่ยังไม่หมดฤทธิ์ ต้องปรับเกมจ้าละหวั่น ลดอัตราการเติบโตรายได้ หั่นเป้ายอดขายลง กันถ้วนหน้า ซ้ำร้ายครึ่งปีหลังสถานการณ์ยังไร้วี่แววในทางดี ต้องเหนื่อยหนักอีก
ตลอดช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานี้ แวดวงธุรกิจของภาคเอกชน ต้องเผชิญกับวิกฤติการณ์ต่างๆที่กระหน่ำใส่ ทั้ง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และยังไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนตัวลง ดอกเบี้ยขยับตัวขึ้น ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่ง กระทั่งปัญหาทางด้านการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ รายได้ของธุรกิจอย่างหนักหน่วง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางด้านการเมือง ที่ยังมีความขัดแย้งกันของแต่ละฝ่าย การเลือกตั้งที่ยังไม่มีใครการันตีได้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ตามที่คาดการณ์ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เป็นหมัดหนักที่อัดใส่ภาวะเศรษฐกิจอย่างแรง การเป็นรัฐบาลรักษาการนานๆของพันตำรวจโททักษิณ ชินสวัตร หาใช่สิ่งดีไม่ นักลงทุนต่างประเทศจะเกิดความไม่มั่นใจในการลงทุน เพราะว่า การตกอยู่ในห้วงของ “สุญญากาศ” แบบนี้ ไม่มีประโยชน์แน่นอน
หลายบริษัทฯที่ต้องปรับลดเป้าหมายการเติบโตของรายได้ทั้งปีนี้ลง หรือไม่ก็พยายามรักษาระดับการเติบโตให้เท่าและใกล้เคียงกับปีก่อนก็ถือว่าเก่งแล้ว เพราะช่วงครึ่งปีแรกนี้ แวดวงธุรกิจการตลาดต่างกุมขมับกันเป็นทิวแถวกับตัวเลขที่เกิดขึ้น
“ผู้จัดการรายวัน” พยายามฉายภาพให้เห็นถึง ภาวการณ์ “รายได้หาย กำไรหด” แม้จะเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ก็สามารถตอกย้ำถึงสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลรักษาการของ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ได้อย่างดี
คอนซูเมอร์สะดุดเศรษฐกิจ
บิ๊กบอสที่พูดเสียงดังฟังชัดและสั่นสะเทือนมากที่สุดก็คือ นายบุญยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ที่กล่าวแบบเบรกแตกไม่นานนี้ว่า การทำธุรกิจทุกวันนี้ สิ่งดีที่สุดคือ นิ่ง แบบ wait and see เพราะเศรษฐกิจไทยตอนนี้อยู่ในภาวะที่เสี่ยงอย่างมาก ต้องประเมินกันแบบวันต่อวัน เหมือนกับรัฐบาลกำลังขับรถลงเขาแต่ขับไม่เก่งจึงอันตราย ส่วนปัญหาทางด้านการเมืองนั้น การยุบพรรคเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ต้องมาแก้ที่ต้นเหตุคือตัวบุคคล
ทว่า นายบุญยสิทธิ์มิได้ระบุว่า ตัวบุคคลคนนั้นคือใคร
นายบุญยสิทธิ์กล่าวว่า เครือสหพัฒน์ต้องเน้นการทำตลาดในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะการลดต้นทุนและการพัฒนาอินโนเวชั่นใหม่ๆขึ้นมา ซึ่งเป้าหมายรายได้ปีนี้ก็คงเติบโตแค่ 10% เท่านั้น น้อยกว่าช่วงปีที่แล้ว
ขณะที่ซัปพลายเออร์ต่างประเทศอย่างยูนิลีเวอร์ ก็อดที่จะปรับเกมการรุกใหม่ไม่ได้ หลังจากช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมายอดขายรวมของยูนิลีเวอร์ตกลงอย่างเห็นได้ชัดจากกำลังซื้อที่หายไปและภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลง
นายลออิค ทาร์ดี ประธานกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ยอมรับว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่นี้ ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าเติบโต 7 % น้อยกว่าปีที่แล้วที่เติบโต 8%
อีกค่ายอย่างเนสท์เล่นั้น ต้องปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ตามโมเดลของเนสท์เล่ทั่วโลกที่แย่งออกเป็น 6 กลุ่ม คือ กลุ่มไอศกรีม,กลุ่มน้ำดื่ม,กลุ่มอาหารบำรุงสุขภาพ,กลุ่มผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยง,กลุ่มอาหารเช้าซีเรียลและกลุ่มขายของชำ โดยขึ้นตรงต่อต่างประเทศ ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นจะขึ้นตรงต่อ นายเกรแฮม แคมพ์เบลล์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มเนสท์เล่ ประเทศไทย จากเดิมโครงสร้างองค์กรเนสท์เล่ในประเทศไทย กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มแบ่งเป็น 12 แคธิกอรี่
นายแคมพ์เบลล์ กล่าวว่า ปีนี้ยังไม่มีแผนลงทุนโครงการใหม่ๆที่ใช้งบประมาณมาก แต่จะเน้นการพัฒนาและหาพลังงานอื่นมาใช้ทดแทน เพราะบริษัทฯไม่มีนโยบายปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นแต่เน้นการบริหารต้นทุนแทน พร้อมกับการคุมเข้มใช้งบตลาดมากขึ้น สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 8% หรือมีรายได้ 29,160 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมาเนสท์เล่มีรายได้รวม 27,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 7%
บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มและอาหารจากประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกรายที่ออกอาการเหนื่อย โดยนายพิเชียร คูสมิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าตลาดอาหารและเครื่องดื่มจะหดตัวลงเท่ากับจีดีพีหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ที่ประมาณการว่าจะโตไม่ต่ำกว่า 4 -4.5% เมื่อเทียบกับปีที่ 2548 ตลาดอาหารและเครื่องดื่มมีอัตราการเติบโตเท่ากับจีดีพีของประเทศ คือ 5.5%
ผลกระทบดังกล่าวทำให้ ครึ่งปีแรกนี้ยอดขายของบริษัทฯโตต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10% ทั้งนี้ต้องปรับเกมบุกในช่วงครึ่งปีหลังใหม่ ที่หันมาเน้นการทำบีโลว์เดอะไลน์กับตัวผลิตภัณฑ์มากขึ้น เพราะตรงกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งยังได้ปรับระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนดำเนินการ
หม่อมราชวงศ์สุภาณี ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันพืชทิพ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายน้ำมันพืชทิพ เปิดเผยว่า ปีนี้คาดว่ายอดรายได้จะไม่เติบโตคือประมาณ 700 ล้านบาทเท่ากับปีที่แล้ว เพราะ บริษัทฯได้ลดขนาดการทำธุรกิจในส่วนของการส่งออก และภาคอุตสาหกรรมลง
โดยหันมาให้เน้นตลาดน้ำมันพืชสำหรับผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 50% เป็น 70% และได้ปรับลดการทำตลาดน้ำมันพืชสำหรับอุตสาหกรรมจาก 50% เป็น 30% เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ขณะที่การส่งออกน้ำมันพืชก็ประสบปัญหาในเรื่องของตราสินค้าที่ไม่เป็นที่รู้จัก โดยล่าสุดเปิดตัวซับแบรนด์ “ทิพไวส์” ลงตลาดคาดหวังรายได้ปีแรก 280 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของรายได้รวม
นายเพชร พะเนียงเวทย์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมามาม่าเติบโตแค่ 5% เท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าตลาดบะมี่กึ่งสำเร็จรูปโดยรวมที่โตปรกติ 9% เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง และการแข่งขันด้านราคาจากคู่แข่งในตลาดด้วย
เครื่องใช้ไฟฟ้าร้อนผ่าว
นายอดิศักดิ์ เธียไพรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ บริษัท เจ๊บเซ่น แอนด์ เจ๊สเซ่น มาร์เก็ตติ้ง (ที) จำกัด ผู้ทำตลาดแอร์บ้าน ฟูจิตสึ กล่าวว่า แม้ว่าไตรมาสแรกบริษัทฯจะมีการเติบโตมากกว่า 25% แต่เมื่อไตรมาสที่สองกลับมีการเติบโตที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะตลาดโครงการที่ลดลง 5% เพราะตลาดโครงการเช่น บ้านจัดสรรนั้นเปิดตัวน้อยลง จากที่บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้จากตลาดกลุ่มโครงการนี้ 30% และตลาดบ้าน 70%
นายคณาธิป เจริญสิน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไพโอเนียร์ อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทฯช่วงครึ่งปีแรกปีนี้ตกลงประมาณ 10% ซึ่งเป็นไปตามภาวะการณ์ตลาดรวมของเครื่องเสียงที่ตกลงกว่า 20% เพราะภาวะเศรษฐกิจที่มีปัญหา ทำให้ต้องทุ่มงบตลาดรวมกว่า 120 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงครึ่งหลัง
นายนพชัย วีรมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผย “ผู้จัดการายวัน” ว่า จากช่วงครึ่งปีแรกนี้ยอดขายเครื่องทำความเย็นของบริษัทฯไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เพราะผู้บริโภคชะลอการซื้อเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ โดยทั้งปีตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 160 ล้านบาท ทำให้จากนี้ต้องมุ่งเน้นทำตลาดส่งออกเพื่อเป็นการชดเชยรายได้แทน
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด เปิดเผยว่า ได้ปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ รวมบริษัทในเครือกว่า 10 แห่ง มารวมเป็นบริษัทเดียว เพราะต้องการลดต้นทุนในช่วงที่เศรษฐกิจและต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้นจากราคาน้ำมัน ส่วนเป้าหมายยอดขายปีนี้คาดว่าจะไม่มีการเติบโต และพยายารักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีกว่า 6 แสนราย รวมทั้งต้องนำเสนอสินค้าใหม่ทุกเดือนเพื่อกระตุ้นการซื้อ ขณะที่ปีที่แล้วรายได้มีอัตราการเติบโตมากถึง 20-30%
เครื่องดื่ม สำลักพิษปัจจัยลบ
ทางด้านธุรกิจเครื่องดื่ม โดย นายพรวุฒิ สารสิน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ยอมรับว่า แม้ว่ายอดขายเครื่องดื่มของกลุ่มโค้ก ครึ่งปีแรกจะเติบโต 3-5% แต่ก็ยังต่ำกว่าเป้าหมายรวมที่ตั้งไว้อยู่ดี เพราะต้องเจอกับปัจจัยลบมากเช่น ราคาน้ำมัน ฝนตกตลอด และการปรับราคาขึ้นของเครื่องดื่มน้ำอัดลม
ส่วนทางด้านนายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า ตลาดรวมชาเขียวตกลงมากถึง 30% ในไตรมาสแรกปีนี้ ส่งผลให้ทั้งปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะเติบโตอย่างเก่ง 10-20% เท่านั้นเอง สิ่งที่โออิชิมุ่งเน้นในปีนี้คือพยายามรักษายอดขายเอาไว้ให้มากที่สุด และคาดว่ากำไรของปีนี้อาจจะลดลงบ้างเมื่อเทียบจากปีที่แล้ว
นายตุลย์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป การจัดการธุรกิจและการตลาดบริษัท เซเรบอส(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ซุปไก่และรังนก “แบรนด์” เปิดเผยว่า บริษัทฯอาจจะต้องปรับลดเป้าหมายการเติบโตของปีนี้เหลือประมาณ 10% จากเดิมเมื่อต้นปีตั้งการเติบโตไว้ที่ 15% เพราะว่าช่วงต้นปีถึงเวลานี้ยอดขายยังต่ำกว่าที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง กำลังซื้อผู้บริโภคลดน้อยลง และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วยจากภาวะเศรษฐกิจคาด
คอสเมติกส์ แต่งสวยไม่ออก
นายสมพงษ์ ตันติวิไลศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดว๊านส์ คอสเมติคส์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอสเมติคส์ ซิทอเวย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นกว่า 10% ทำให้ต้องปรับราคาตามด้วย แต่การขายก็ลำบากเพราะผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้ครึ่งปีหลังต้องใช้งบ 40 ล้านบาทกในการรุกตลาดเต็มที่หลังจากที่ครึ่งปีแรกยอดขายต่ำกว่าที่วางไว้เพราะโตแค่ 15%
ขณะที่นางสาวภาศิกา ศิลปาจารย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอลวีเอ็มเอช เพอร์ฟูม แอนด์ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำว่า การเติบโตในภาพรวมของตลาดเครื่องสำอางครึ่งปีแรกนี้มีเพียง 5-6% ต่ำลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วที่เติบโต 8-9% ซึ่งสาเหตุหนึ่งคือ ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
นายโชคชัย รัตนวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท โคเซ่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องสำอางโคเซ่จากญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดขายไตรมาสแรกมีการเติบโตเพียง 115% จากเดิมตั้งไว้ 120% เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง และกำลังซื้อของลูกค้าที่มีต่อเครื่องสำอางโคเซ่พบว่าตกลงบ้าง จากเดิมค่าใช้จ่ายของลูกค้าต่อคนจะมีประมาณ 5,000 บาทต่อครั้ง แต่ปัจจุบันการซื้อเครื่องสำอางมีความถี่ช้าลง
โดยยอดขายของบริษัทฯช่วงครึ่งปีแรกตั้งเป้าหมายการเติบโตลดลงจากเดิม 20% เป็น 15% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและรอดูความเคลื่อนไหวของรัฐบาลก่อน จากนั้นถึงจะมีการตั้งเป้ายอดรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังว่าจะไปในทิศทางใด
นายพฤศกร เต็งอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุยเฮงอิมพอร์ต จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา ยอดขายรวมของบริษัทฯไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากปัญหาทางการเมืองและราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ยอดรายได้บริษัทฯปีนี้คาดว่าจะเติบโต 20% แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ คิดเป็นสัดส่วนหลัก 80-90% และที่เหลือเป็นรายได้จากเวชสำอาง เช่น อเมลา-เอ็กซ์ ซึ่งปีนี้บริษัทฯคาดว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกวางตลาดจะสร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป
|
|
|
|
|