Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2538








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2538
รถท่วมออฟฟิค เรื่องปวดหัวของลูกจ้างกับเจ้านาย             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารไทยพาณิชย์

   
search resources

ธนาคารไทยพาณิชย์, บมจ.
Retail Banking
Social




เมื่อคุณจะเริ่มงานใหม่กับบริษัทใด อย่าลืมถามเจ้านายของคุณว่า บริษัทมีที่จอดรถให้หรือเปล่า ถ้าไม่มีต้องไปหาที่เช่าจอดรถได้จากที่ไหน และที่สำคัญใครเป็นคนจ่ายเงินจำนวนนี้ ซักให้ละเอียดเชียวนะ ไม่เช่นนั้นแล้วมันจะทำให้คุณปวดหัวกับการทำงานที่ใหม่ไม่น้อยเชียวล่ะ

เมื่อจะเช่าหรือซื้อพื้นที่ในการตั้งออฟฟิค จุดแรกที่ทำให้เจ้าของบริษัทส่วนใหญ่ตัดสินใจก็คือ ทำเลที่ตั้ง ซึ่งยึดเอาย่านที่ทีการคมนาคมสะดวกเป็นหลัก โดยที่แน่นอนว่าส่วนใหญ่ไม่ได้มองการณ์ไกลไปยังเรื่องที่จอดรถ แต่เมื่อบริษัทขยายใหญ่ขึ้น จำนวนพนักงานเพิ่มมากขึ้น ปัญหาที่จอดรถที่เคยเป็นเรื่องเล็กกำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่

สมชายเป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งทำงานกับธนาคารยักษ์ใหญ่อย่างไทยพาณิชย์ ได้เพียงสองปี ทุก ๆ เช้า สมชายขับรถฝ่าการจราจรที่แออัดจากฝั่งธนบุรีมาทำงานที่สำนักงานใหญ่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ น่าเห็นใจที่สมชายต้องรอสวัสดิการที่จอดรถนานถึงสองปีถึงจะได้สิทธิ์ รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอเป็นปี ๆ หลังจากบุ๊คจองแล้วต้องจ่ายค่าบริการที่แบงก์เก็บน้อยนิดเพียง 300 บาทต่อเดือน เงินรายได้ไม่มากนักนี้ตีเป็นค่าบำรุง "สโมสรธนาคารไทยพาณิชย์" ซึ่งมีศักดิ์ เกี่ยวการค้า ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่เป็นนายกสโมสรฯ อยู่

ปัญหาที่จอดรถไม่พอเพียงบนพื้นที่สำนักงานใหญ่ จนกระทั่งทำให้มีคิวยาวเหยียดที่รอยู่ถึง 1,390 คนนั้น ต้องรอนานเป็นปี ทำให้แบงก์ระบายปัญหาโดยไปเช่าที่ตึกไคเเชตชนม์เพิ่มในราคาเช่าที่เรือนแสนต่อเดือน พอจะขยับขยายให้หายใจได้คล่องขึ้นมาหน่อย คือจอดรถได้อีก 200 กว่าคัน จากจำนวนที่รอคิวที่ไคเชคชนม์ถึง 500 คัน

"ขณะที่พนักงานไทยพาณิชย์ต้องแย่งที่จอดรถของลูกค้า คนทำงานแล้วถึง 3 ปีถึงจะได้ที่จอดรถ ผมบอกว่า ถ้าใครเอารถมาจอดตารมที่เรากำหนด ผมจะออกค่ารถบัสให้ดวย แต่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรม และผมเสนอให้คนในแบงก์ที่มีงานไม่เกี่ยวชข้องกับลูกค้า เช่น งานคอมพิวเตอร์ ทำงานคนละเวลา" ดร. โอฬาร ไชยประวัติ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แบงก์ไทยพาณิชย์เล่าให้ฟัง

ท่ามกลางเปลวแดดที่แผดร้อน รถเก๋งหลากหลายพันธ์ต่างก็จอดเรียงรายรอเจ้านายของมันอย่างมิรู้ร้อนรู้หนาว มีรถป้ายแดงก็มากคัน ราวกับศซื้อง่ายขายคล่องกันดี ยิ่งเด็กหน้าใสปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมหาวิทยาลัย ก็ขับถรถป้ายแดงกันว่าเล่น แม้จะรอคิวที่จอดรถยางแค่ไหนก็รอกันได้

ช่วงวิกฤตตอนเช้าวันเสาร์ 8.30 และใกล้แบงก์ปิด บ่าย 15.30 น. ปรากฏภาพแห่งความชุลมุนที่จอดรถกันจ้าละหวั่น โดยเฉพาะลูกค้าแบงก์ที่มีที่จอดรถอยู่เพียงชั้นล่างชั้นเดียว เป็นความแออัดยัดทะนานเหมือนปลากระป๋องปุ้มปุ้ย เป็นภาพที่น่าสังเวชใจยิ่งนัก เพราะไม่ว่าจะซอกมุมไหนเต็มไปด้วยรถไม่ว่ารถเก๋งหรือรถมอเตอร์ไซค์

ขณะที่ชั้น 2 เป็นที่จอดรถประจำตำแหน่งของผู้บริหารของแบงก์และบริษัทในเครือระดับผู้จัดการฝ่ายขึ้นไปถึงกรรมการผู้จัดการ และรถของบริษัท

ส่วนชั้น 3-7 เป็นที่จอดรถของพนักงานแบงก์ไทยพาณิชย์และบริษัทในเครือที่ทำงานอยู่บนพื้นที่ 3 อาคาร

รวมทั้งหมดจอดรถได้ 450 คัน ต่อจำนวนพนักงานที่มีอยู่ไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นคน

สำหรับน้องใหม่ที่เพิ่งมีรถ การรอคอยเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่ายจนกระทั่งบางรายหงุดหงิดขอลาออกจากแบงก์ไปทำงานที่อื่นก็มี ยกเว้นคู่สามีภรรยาที่ทำงานที่เดียวกัน ทางแบงก์อนุญาตให้สามีหรือภรรยาโอนสิทธิที่จอดรถให้อีกฝ่ายหนึ่งได้

ระหว่างรอเพื่อที่จะได้ที่จอดรถก็ต้องเหนื่อยหน่อยในการวิ่งตะเวณหาที่จอดรถที่ห้างโรบินสันราชดำริบ้าง ที่ศุนย์การค้าดมโทรบ้าง หรือสุดแท้แต่จะเสาะหาได้

เมื่อหาที่จอดรถได้แล้วจ่ายสตางค์เป็นรายวันๆ ละ 30-50 บาท หรือเหมารายเดือนประมาณ 1,500 แถมต้องเดิอนย่ำจากโรบินสันมาที่แบงก์ทุกวัน ๆ เป็นนี้อยู่สองปี จึงมีคำตอบจากฝ่ายธุรกิจว่า คิวว่างแล้วให้รีบนำหลักฐานสำเนาทะเบียนรถยนต์และใบขับขี่มาโดยด่วน

สำหรับบางคน เสียงนี้พอ ๆ กับถูกล็อตเตอร์ลี่

เป็นอยู่เช่นนี้นานจนกระทั่งความหวังใหม่เริ่มส่องแสง เมื่อตึกสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของแบงก์ไทยพาณิชย์ซึ่งตั้งอยู่บนถนนรัชโยธิน เนื้อที่กว้างขวางราว 50 ไร่ ได้สร้างเสร็จแล้วมีเนื้อที่จอดรถเพียบ พนักงานหวังว่าต่อไปนี้พวกเขาคงไม่ต้องรอคิวยาว ไม่ต้องเสียเวลาและเสียเงิน ไม่ต้องเสียความรู้สึก และอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่ดี ๆ เกี่ยวกับการจอดรถมลายหายไปสิ้น

เหลืออยู่ปัญหาเดียวคือ ...ระยะทาง จากบ้านไปที่ใหม่ เส้นทางเต็มไปด้วย รถ รถ รถ รถ...ติดเป็นแพ

อาคารสูงตะหง่านย่านปทุมวันซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการของบริษัท สยามกลการ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์นิสสันก็มีปัญหาเรื่องที่จอดรถของบริษัทไม่เพียงพอแก่จำนวนรถของพนักงานเช่นกัน แม้ว่าด้านหลังของบริษัทจะมีอาคารที่จอดรถสูง 9 ชั้น รองรับระได้เกือบ 300 คันก็ตาม

ทั้งนี้เนื่องในแต่ละวันจะมีลูกค้ามาติดต่อธุรกิจกับบริษัทมากมาย ที่จอดรถจำนวน 2 ชั้นจึงถูกกักกันไว้ให้เป็นที่จอดรถของลูกค้าที่จอดรถอีก 7 ชั้นที่เหลือ ส่วนใหญ่เป็นที่ถูกจัดให้เป็นที่จอดรถของรถใช้งานของบริษัทและรถของพนักงานระดับผู้บริหารขึ้นไป เหลือที่จอดอีกเพียง 2 ชั้น ที่อนุญาตให้พนักงานจำนวน 50 คน สามารถนำรถมาจอดได้ฟรี ในที่จอดรถของบริษัทเพียง 1 ปี เพราะบริษัทจะจัดให้มีการจับฉลากใหม่ทุกครั้งในช่วงสิ้นปีโดย 50 คนที่ได้สิทธิ์จอดรถไปแล้วจะไม่มีสิทธฺ์จับฉลากในครั้งต่อไปต้องเปิดโอกาสให้พนักงานที่มีรถประมาณ 150 คันได้จับฉลากแข่งกัน

ส่วนพนักงานทั่วไปที่มีรถอีกจำนวน 150 คัน ที่เหลือบริษัทได้ขอความร่วมมือให้นำรถไปจอดที่อื่นซึ่งในอดีตพนักงานต้องหาที่จอดและรับภาระเรื่องค่าที่จอดเอง แต่ตั้งแต่ต้นปี 2537 ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้ามาแบ่งภาระของพนักงานในส่วนนี้ ด้วยการเหมาที่จอดรถสยามคาร์ปาร์คของศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ 2 ชั้น ให้พนักงานนำรถไปจอดโดยบริษัทช่วยออกค่าจอดรถให้คนละ 1,300 บาท หากค่าจดรถ 1,800 ต่อเดือน อันนับเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการที่มอบให้แก่พนักงานซึ่งเมื่อคิดเป็นค่าใช้จ่ายแล้วบริษัทต้องจ่ายเงินเดือนเดือนละ 195,000 บาทหรือปีละ 2,340,000อ บาท

ผู้ที่ได้ดรับโชคแบบเนื้อ ๆ จากตัวเลขเงิน 2 ล้านบาทีรายเดียวคือ "สยามคาร์ปาร์ค" ของบริษัทบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ล จำกัด เจ้าของโรงแรมสยามอินเตอร์คอนติแนนตัล และศูนย์การค้าสยาม

วิชัย เป็นมนุษย์พันธ์เมืองหลวงอีกคนหนึ่ง ที่กำลังประสบปัญหาร่วมสมัยของชาวกรุงเทพฯ คือปัญหาที่จอดรถในที่ทำงาน วิชัยเป็นพนักงานระดับผู้ช่วยผู้จัดการของบริษัทหนึ่งในเครือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอกธนกิจ ของปิ่น จักกระพาก บุรุษซึ่งถูกจับตามองว่าจะมาเป็นบ๊กบอสของแบงก์ใหม่ในเมืองไทยหรือไม่ มี่ทำงานของวิชัย อยู่ในอาคาร "เอกอาคาร" ซึ่งเป็นสำนักงานสูง 14 ชั้น ตั้งอยู่ซอยร่วมฤดี

วิชัยถูกดึงตัวมาจากบริษัทขนาดกลางบริษัทหนึ่งบนถนนสาทรในอัตราเงินเดือนที่สูงกว่าเดิมแม้ไม่มากนัก แต่ชื่อเสียงของกลุ่มเอกธนกิจ ในแง่ที่ว่าเป็นบริษัทที่มีการทำงานของกลุ่มคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีสไตล์การทำงานน่าสนใจ ได้สร้างความท้าทายให้เขาอยากเข้ามาร่วมงานด้วนอย่างมาก และมั่นใจว่า บริษัทนี้ต้องสร้าง
หลักประกันให้กับเขาและครอบครัวได้

ก่อนการทำงานวิชัยได้รับแจ้งว่า ในตำแหน่งของเขาไม่สามารถจอดรถบนตัวตึกเอกอาคารได้ พื้นที่จอดรถบนตึกจะถูกกักกันไว้เป็นที่จอดรถของผู้บริหารระดับสูงของแต่ละบริษัทที่มาเช่าอยู่เท่านั้น แต่ก็ไม่มีปัญหาสำหรับพนักงานตำแหน่งรอง ๆ ลงมาอย่างเขา บริษัทได้เช่าที่จอดรถไว้ให้แล้วบริเวณที่ว่างติด ๆ กับตัวตึก ส่วนพนักงานทั่วๆไป นั้นบริษัทให้หาเช่าที่จอดรถเองโดยไม่ออกค่าใช้จ่ายให้

ที่ดินซึ่งบริษัทเช่าไว้เป็นที่จอดรถแปลงดังกล่าวนั้น เรียกกันติดปากว่า " รั้วเขียว" มีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ นอกจากบริษัทต่าง ๆ ในเอกอาคารแล้ว บริษัทที่อยู่ใกล้เคียงในย่านนั้นก็ได้มา เช่าจอดรถด้วย ซึ่งจอดได้ประมาณ 200 คัน ปัจจุบันมีรถมาจอดเต็มแล้ว ไม่สามารถจอดรถเพิ่มได้อีก โดยที่มีอัตราเช่า 1,500 บาทต่อคันต่อเดือน ผู้ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ที่ดินแปลงนี้เป็นที่รู้กันว่า ก็คือบริษัทใดบริษัทหนึ่งของปิ่น จักกระพาก นั่นเอง

ส่วนพนักงานคนอื่น ๆ ที่ไม่สามารถจอดรถบริเวณรั้วเขียวได้ก็จะพากันไปจอดบนที่ดินของบริษัทฮาเบอร์วิว บริษัทร่วมทุนของชิน โสภณพนิช กับดิลก มหาดำรงกุล ซึ่งเป็นที่ดินว่างเปล่าประมาณ 16 ไร่ ผืนสุดท้ายบนถนนวิทยุ ที่มีค่ามหาศาลแต่ตอนนี้ยังรอช่วงจังหวะในการพัฒนา และได้ปล่อยให้เช่าจอดรถไปพลาง ๆ โดยมีระยะห่างจากตัวตึกเอกอาคารเพียงไม่กี่ร้อยเมตร

ใน 2 เดือนแรกการทำงานของวิชัยยังไม่ค่อยลงตัวนัก เพราะช่วงเวลาที่เขาเข้ามาทำงานบริษัทกำลังปรับโครงสร้างใหม่และขยายงาน มีการทยอยรับพนักงานระดับผู้จัดการและระดับผู้ช่วยอีกกว่า 10 ตำแหน่ง

แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุเมื่อฝ่ายธุรการทำหนังสือแจ้งมาที่พนักงานว่าที่ดินตรงรั้วเขียวบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เอกธนกิจ ต้องการยกเลิกการให้เช่าเป็นที่จอดรถ เพื่อนำมาสร้างเป็นอาคารสำนักงาน พนักงานที่จอดรถอยู่ในบริเวณนั้น ต้องไปหาที่เช่าจอดรถใหม่เอง

ไม่มีปัญหา จอดตรงนี้ไม่ได้ ก็ไปจอดตรงที่ดินของบริษัทฮาเบอร์วิว ซึ่งยังมีที่ดินว่างเปล่าอีกมาก เดินออกกำลังเอาหน่อยก็แล้วกัน วิชัยคิด

แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อธุรการเอื้อนเอ่ยวาจาต่อว่า บริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าจอดรถให้อีกต่อไป

เหตุผลลึก ๆ ของบริษัท ก็คือเมื่อรับคนเพิ่มขึ้น ก็พยายามตัดค่าใช้จ่ายบางส่วนลงให้มากที่สุด ซึงทุกวันนี้บริษัทต้องแบกภาระจ่ายค่าจอดรถให้พนักงานระดับผู้จัดการฝ่ายและผู้ช่วยประมาณ 8 คน คนละ 1,500 บาทต่อเดือน หรือปีละ 1.4 แสนบาท เมื่อรับคนระดับนี้เพิ่มค่าใช้จ่ายในที่จอดรถก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเหมือนกัน ก็เลยตัดปัญหาโดยวิธีง่ายที่สุด คือไม่จ่ายให้ใครเลย

คำสั่งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับพนักงานที่เคยได้รับสิทธิอยู่ทันที โดยเฉพาะวิชัยเขาคิดว่า กำลังถูกบริษัทเอาเปรียบ เงินก้อนนี้เป็นส่วนที่บริษัทเคยให้เป็นสวัสดิการ มาตลอด ทำไมจะจ่ายต่อไม่ได้ เมื่อบริษัทต้องการขยายงาน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้บริษัทก็น่าจะพร้อมที่จะแบกรับ มันเป็นค่าแรงจูงใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บริษัทควรจะให้กับพนักงาน และที่สำคัญเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเลยที่เขาเข้ามาทำงานกับบริษัทนี้สองเดือน โอเคความดียังไม่มีแต่ความชั่วยังไม่ปรากฏ แต่เขาถูกลดเงินเดือนลงแล้ว 1,500 บาท

วิชัย เริ่ม "เข้าใจ" ถึงน้ำใจของผู้บริหารที่เขากำลังจะทุ่มเทกำลังกายกำลังใจในการทำงานให้ เขาเริ่มหงุดหงิดในการทำงาน ขณะนี้ข้อถกเถียงระหว่างพนักงานกับผู้บริหารว่าใครจะต้องจ่ายค่าที่จอดรถยังไม่จบ

วันหนึ่ง เจ้านายเก่าของวิชัย ซึ่งไปทำงานในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งโทรมาหาเขา และบอกว่ามีตำแหน่งอยากชวนเขาไปอยู่ด้วย คำถามแรกที่วิชัยพูดกลับไปก็คือ

"มีที่จอดรถให้หรือเปล่าพี่ แล้วใครจ่ายให้ครับ"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us