นครหลวงไทยเตรียมงัดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3ปี จับกลุ่มลูกค้าชั้นดีขอกู้ในโครงการที่ธนาคารปล่อยกู้หลังกังวลกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่สูงและการผ่อนชำระที่เพิ่มขึ้น ด้านกสิกรไทยเตรียมจัดโปรแกรมกระตุ้นการขยายสินเชื่อคาดครึ่งปีหลังสินเชื่อขยายตัวดีกว่าครึ่งปีแรกระบุเจ้าของโครงการต้องเร่งปิดยอดเดินหน้าสร้างโครงการใหม่

นางสาวอัญชลี เบสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสินเชื่อบุคคล ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากภาวะของอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ลูกค้าที่มีความต้องการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันชะลอการตัดสินใจซื้อลงเนื่องจากยังมีความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังปรับสูงอย่างต่อเนื่องประกอบกับความกังวลในเรื่องของอัตราการผ่อนชำระที่ต้องสูงขึ้น ธนาคารจึงเตรียมเสนออัตราดอกเบี้ยคงที่ 2รูปแบบใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มีความต้องการขอสินเชื่อ

โดยรูปแบบแรกเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยในปีแรก 5.25% ปีที่สอง 5.99% และปีที่สาม 6.99% หลังจากนั้นคิด MLR-0.5% และแบบที่2 เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีคิดอัตราดอกเบี้ย 4.75% หลังจากนั้นคิด MLR-0.5% โดยอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 รูปแบบนี้จะมอบให้สำหรับลูกค้าชั้นดีที่มีการขอสินเชื่อกับโครงการที่ธนาคารปล่อยกู้หรือโครงการที่มีเจ้าของโครงการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะเริ่มใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่แบบใหม่นี้ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคมไปจนถึงสินเดือนกันยายน 2549

“เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3ปีจะคิดอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 6% ซึ่งการที่ธนาคารเสนออัตราดอกเบี้ยคงที่นี้นับได้ว่าตอนนี้ยังไม่มีใครทำแน่นอน ส่วนการพิจารณาปล่อยสินเชื่อดังกล่าวนี้ก็จะให้กับโครงการที่มีศักยภาพจริงๆ”นางสาวอัญชลีกล่าว

ทั้งนี้ การเสนออัตราดอกเบี้ยดังกล่าวธนาคารมีความต้องการที่จะช่วยเหลือลูกค้าที่ยังมีความกังวลในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นต่อไปอีกประกอบกับเพื่อเป็นการคลายความกังวลกับการผ่อนชำระที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามในสิ้นปีธนาคารตั้งเป้าขยายสินเชื่อ 7,000 ล้านบาท จากพอร์ตสินเชื่อรวม 20,000 ล้านบาท ทำให้ภายในสินปีธนาคารจะมีพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งหมด 27,000 ล้านบาท

ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถทำได้ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเนื่องจากเจ้าของโครงการต่างต้องรีบทยอยปิดยอดโครงการเพื่อเริ่มทำโครงการใหม่ โดยคาดว่าในครึ่งปีหลังอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้นอีก 20% จากครึ่งปีแรก

“ในครึ่งปีหลังเจ้าของโครงการต่างๆ ก็คงต้องเร่งทำยอดและปิดยอดโครงการกัน ซึ่งแม้ในครึ่งปีแรกการขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัยอาจจะดูชะลอตัวมันก็เหมือนกับเป็นการพัก โดยปกติการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยก็เป็นอย่างนี้มาตลอด”นายชาติชายกล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของธนาคารจากนี้ไปจะเริ่มทำโปรแกรมกระตุ้นการขยายสินเชื่อพร้อมทั้งจัดโปรแกรมชิงโชคมอบให้แก่ลูกค้า หลังจากเชื่อว่าจากนี้อัตราดอกเบี้ยจะไม่ใช่ตัวแปรหลักในการขยายสินเชื่อ เนื่องจากที่ผ่านมาการปล่อยสินเชื่อสำหรับลูกค้าเกรดเอ ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี 3.75%หลังจากนั้นคิด MLR-0.50% ถึง 0.75% ซึ่งก็ถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำอยู่แล้ว

“ล่าสุดได้ร่วมกับโครงการเอเซียพร็อพเพอร์ตี้และโครงการแสนสิริ ปล่อยกู้อัตราดอกเบี้ย 0% ในปีแรก ซึ่งสาเหตุที่คิดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าเกรดเอในระดับที่ต่ำเนื่องจากว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาหนี้เสียจากลูกค้ากลุ่มนี้มี 0% ทำให้ธนาคารสามารถปล่อยในระดับที่ต่ำได้”

นายชาติชายกล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของปัจจัยจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นตามไปด้วยซึ่งในส่วนของลูกค้าที่ขอสินเชื่อย่อมได้รับผลกระทบในแง่ของการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารที่จะมีการอนุอนุมัติให้ 40%ของราย ขณะที่ค่าครองชีพมีการปรับสูงขึ้นตามมาด้วย

อย่างไรก็ตามในส่วนตัวเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยไม่น่าจะมีการปรับสูงขึ้นกว่านี้อีกแล้ว แต่ปัจจัยทางการเมืองจะเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่าที่มีผลทำให้การขยายสินเชื่อชะลอตัวลง ซึ่งหากการเมืองเริ่มมีความชัดเจนเมื่อไหร่เชื่อว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคก็จะกลับคืนมา

สำหรับการปล่อยสินเชื่อบ้านของธนาคารในครึ่งปีแรกต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย โดยธนาคารมีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อครึ่งปีแรกประมาณ 8,000 ล้านบาท แต่ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 7,500 ล้านบาท