|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
" ยูเอ็มไอ -อาร์ซีไอ" ยักษ์ใหญ่ธุรกิจกระเบื้อง ปลงตลาดครึ่งปีแรกหดตัว จากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย ส่งผลตลาดอสังหาฯ-ก่อสร้าง-กระเบื้องชะลอตัวตาม หวังครึ่งปีหลังตลาดมีปัจจัยบวกเข้ามาเสริม ด้านRCI ปรับกลยุทธ์ รักษาอัตราเติบโต จับมือดีลเลอร์ทั่วประเทศ เปิด "อาร์ซีไอ โซลูชัน" เจาะกลุ่มลูกค้าโดยตรง 50 ร้านค้าทั่วประเทศก่อนสิ้นปี แจงหลังเปิดดิสเพล ยอดขายดีลเลอร์โตกว่า 200%
นายสุทิน ยุทธนาวราภรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)หรือ ยูเอ็มไอ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดกระเบื้องในช่วงครึ่งปีแรกว่า มีอัตราการขยายตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี48 โดยในช่วง3 เดือนแรกยอดขายขยายตัวประมาณ 3-5% จากเดิมที่ประมาณการไว้ตลาดรวมจะขยายตัวประมาณ 5-10% ในขณะที่อัตราการเติบโตของยอดการใช้กระเบื้องในครึ่งปีแรกคิดเป็นตารางเมตรมีอยู่ประมาณ 3-4% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิต และค่าขนส่งขยับขึ้นไปด้วย ทำให้เกิดการชะลอตัวของตลาดก่อสร้าง ซึ่งกระทบไปถึงยอดขายในตลาดกระเบื้องด้วย
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดคือ ผลกระทบจากการเมือง ที่ทำให้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดก่อสร้างชะลอตัวลงไป รวมถึงการใช้งานในส่วนของกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปด้วย และจาการใช้งานกระเบื้องในกลุ่มตลาดก่อสร้างและกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่ลดลง ได้ทำให้การสต๊อกสินค้าหรือสั่งสินค้าของกลุ่มตัวแทนจำหน่าย(ดีลเลอร์) ลดลงไป เนื่องจากกลุ่มดีลเลอร์ จำเป็นต้องบริหารสต็อกให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาดและเศรษฐกิจ โดยพยายามสั่งซื้อสินค้าตามจำนวนความต้องการที่เข้ามา จากเดิมที่มีการสต็อกสินค้าล่วงหน้าไว้รองรับความต้องการของผู้บริโภคแต่ละพื้นที่อย่างน้อย 1 เดือน ได้ปรับเปลี่ยนลดลงมาสั่งซื้อตามยอดขายที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังของปี49 นี้ คาดว่าตลาดทรงตัวหรือจะดีขึ้นกว่าในช่วงต้นปีเล็กน้อย เนื่องจากการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในตลาดจัดสรร และบ้านเอื้ออาทร จะขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่ไม่น่าจะสูงเท่าปี48 ทั้งนี้การขยายตัวดังกล่าว อาจจะไม่สูงเท่ากับในช่วงครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมา โดยผลดีจากปัจจัยดอกเบี้ยที่เชื่อว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอีก เพราะต้นปีมีการปรับขึ้นไปมากแล้ว หรือหากจะมีการปรับอีกครั้งก็ไม่น่าจะเกิน 0.25%
โดยในส่วนของบริษัทยูเอ็มไอ นายสุทินกล่าวยอมรับว่า ยอดขายช่วงไตรมาสแรกเติบโตประมาณ 5% จากประมาณการว่ายอดขายจะเติบโตประมาณ 5-10% ส่วนในครึ่งปีหลังนี้ คาดว่ายอดขายคงเติบโตไม่เกิน 5% จากความต้องการใช้งานรวมในตลาดกระเบื้องทั้งปี 120-130 ล้านตารางเมตร
ทั้งนี้ ตามข้อมูลงบการเงินที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯระบุว่า ไตรมาสแรกบริษัทฯมีรายได้จากยอดขาย 636.4 ล้านบาท ลดลง 26.4 %จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 865.4 ล้านบาท ขาดทุน 13.6 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.3 ล้านบาท โดยมีสาเหตุสำคัญ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยสัดส่วนต้นทุนขาย ต่อรายได้จากการขาย คิดเป็น 88.9% สูงขึ้นจาก 87.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยหลัก คือ ราคาของวัตถุดิบและต้นทุนด้านพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาแก๊สธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
ในฟากของค่ายบริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์ซีไอ โดยนายสัญญา นองสุวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ มีมุมมองเดียวกันกับผู้ประกอบการรายอื่นที่พบว่าตลาดครึ่งปีแรกชะลอตัวตามปัจจัยทางการเมือง ดอกเบี้ย น้ำมัน
ทั้งนี้ เพื่อรักษาระดับอัตราการเติบโตไว้ บริษัทฯได้เริ่มทำการตลาดแบบเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง โดยบริษัทอาร์ซีไอ ได้เปิดศูนย์บริการแนะนำสินค้า "อาร์ซีไอ โซลูชัน" โดยร่วมกับดีลเลอร์ทั่วประเทศ เปิดศูนย์บริการดังกล่าวในร้านค้าของดีลเลอร์ และได้เริ่มเปิดตัวในต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งศูนย์บริการนี้ จะช่วยแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้า ทั้งในเรื่องของการออกแบบ การคำนวณปริมาณการใช้กระเบื้อง การเลือกกระเบื้องในการตกแต่ให้แก่ลูกค้า ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าเปิดศูนย์ อาร์ซีไอ โซลูชัน ทั้งหมด 50 ร้านค้า ใช้งบประมาณประมาณ 25 ล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดศูนย์บริการไปแล้ว 30 ร้านค้า และจะขยายเพิ่มให้ได้50 ร้านค้าภายในสิ้นปีนี้
"ศูนย์บริการที่เพิ่มใหม่ มีส่วนกระตุ้นยอดขายในร้านตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นกว่า 60-200% ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาสแรก มีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่บริษัทวางไว้ เนื่องจากรายได้หลักของอาร์ซีไอมาจากตลาดในประเทศสัดส่วนสูงถึง 95% โดยการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายทั้งหมด 100% ขณะที่ตลาดส่งออกบริษัทจะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 5% "นายสัญญา กล่าว
|
|
|
|
|