ผมพบดำริห์ ก่อนันทเกียรติ เป็นครั้งแรกเมื่อเกือบ ๆ 6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นบริษัทยูนิคอร์ดซึ่งยังไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
เพิ่งเข้าซื้อบัมเบิ้ลบี ซีฟู้ดส์ มาไว่ในครอบครองได้ใหม่ ๆ และยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากเท่าไรนัก
รู้กันเพียงว่าเป็นผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเท่านั้น
ยิ่งชื่อดำริห์ ด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีใครรู้จัก ว่าเป็นใคร มาจากไหน
การเทคโอเวอร์ บัมเบิ้ลบี ทำให้ดำริห์ มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ในฐานะนักธุรกิจไทยรายแรกผู้สร้างประวัติศาสตร์ซื้อกิจการต่างชาติด้วยมูลค่าสูงที่สุด
การพบกันครั้งแรกในฐานะคนข่าวกับแหล่งข่าว ที่ห้องทำงานของเขา บนตึกยูนิคอร์ดตรงข้ามวัดเทพศิรินทร์
เป็นการพูดถึงความสำเร็จอันน่าตื่นตาตื่นใจของธุรกิจครอบครัวคนจีน ที่สามารถเป็นเจ้าของบริษัทขายปลาทูน่าใหญ่เป็นอันดับสามของสหรัฐอเมริกา
ด้วยท่าทีที่เป็นันเอง พูดจาตรงไปตรงมา ใช้คำอธิบายง่าย ๆ ชัดเจน ดำริห์
เล่าให้ผมฟังถึงเหตุผลที่เขาต้องตัดสินใจซื้อบัมเบิ้ลบี
"ผมหวังว่า คงมีสักวันหนึ่งที่อุตสาหกรรมของไทย จะยกระดับขึ้นไปเป็นผู้ทำตลาด
มียี่ห้อและช่องทางการจำหน่ายของตัวเอง แทนที่จะเป็นเพียงคนรับจ้างทำของตามออร์เดอร์ของลูกค้าเท่านั้น"
นี่คือความฝันขงเขาของเขา ซึ่งผลักดันให้ยูนิคอร์ดตัดสินใจเทคโอเวอร์บัมเบิ้ลบี
จนถึงวันนี้ ในความเห็นส่วนตัวผมแล้ว ผมยังเชื่อว่า การตัดสินใจครั้งนั้นถูกต้องในเชิงยุทธศาสตร์
ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องการดำเนินกลยุทธ์ในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นไปตามบุคลิก
นิสัยใจคอของดำริห์
การพบกันครั้งแรกและอีก 2 ครั้งต่อมา ในระยะ 6 ปี ด้วยข้อสนทนาที่จำกัดเฉพาะเรื่องธุรกิจของยูนิคอร์ด
คงไม่ทำให้ผม รู้จักเขาได้ดีพอที่จะบอกเล่าถึงตัวตนของเขาได้ แต่สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้คือ
ความหลักแหลม ฉับไว และมีความเชื่อมั่นในตัวเองมาก ซึ่งคำนี้มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า
" ดื้อ"
จากคำบอกเล่าของคนใกล้ชิด นิสัยส่วนตัวของดำริห์ เป็นคนบ้าบิ่น กล้าได้กล้าเสีย
และมักจะไม่ค่อยเห็นคนอื่นอยู่ในสายตา
เมื่อนิสัยส่วนตัว ถูกนำมาใช้ในการตัดสินใจของธุรกิจสงครามราคาในตลาดปลาทูน่ากระป๋องของสหรัฐฯ
จึงระเบิดขึ้นเพราะดำริห์ไม่หยุดยั้งความพอใจของตัวอยู่เพียงแค่การเป็นเจ้าของบัมเบิ้ลบีเท่านั้น
แต่ความต้องการของเขาก้าวเลยไปถึงขั้นถล่มคู่แข่งให้ราบคาบ เพื่อเป็นที่หนึ่ง
ผลก็คือ ต่างฝ่ายต่างเจ็บตัวไปตาม ๆ กัน แต่บัมเบิ้ลบีเจ็บหนักที่สุด เพราะเดินเข้าสู่สนามรบในขณะที่ยังต้องแบกภาระหนี้สินไว้เต็มบ่า
อาการบาดเจ็บจึงสาหัสต่อกว่าคู่ต่อสู้
แต่เขาก็รักศักดิ์ศรี กลัวการเสียหน้า เกินกว่าที่จะยอมรับเป็นความผิดพลาด
และหาทางแก้ไขปัญหา จนกระทั่งไม่อาจฝืนความจริงต่อไปได้ แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
ผมคิดว่า การแก้ไขปัญหาด้วยการตัดสินใจขายบัมเบิ้ลบี ออกไปนั้น เป็นเรื่องที่ทำให้เขาเสียหน้าพอสมควร
แต่ผมไม่เชื่อเรื่องนี้ รวมทั้งปัญหาหนี้สินจะเป็นชนวนของการตัดสินใจฆ่าตัวตาย
เพราะคนในยุทธจักรอย่างเขา ย่อมเคยชินกับการ " ได้มา-เสียไป"
ปัญหาของยูนิคอร์ดนั้น ไม่ได้มีเพียงหนี้สิน และขาดทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาของการบริหารงานภายในระหว่างพี่
ๆ น้อง ๆ กิจการการที่กำเนิดและเติบโตขึ้นมาในวิถีทางของธุรกิจครอบครัวคือ
"กงสี" ที่เป็นสมบัติและเป็นที่มาของรายได้ของสมาชิกในครอบครัว
ถ้าจัดการไม่ดีก็ย่อมเต็มไปด้วยมุ้งใหญ่มุ้งเล็ก
การตัดสินใจของเขาเป็นการ "หนี" อะไรบางอย่าง ที่มีแต่ตัวเขาเองและคนใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้ว่า
เขากำลังหนีอะไร