หลังจากเก็บตัวเงียบ หยุดการเปิดตัวโครงการลงทุนใหญ่-น้อย ตามสไตล์แม็ทชิ่งฯ มานานกว่าครึ่งปี แต่ด้วยแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของอีเว้นท์กีฬาอันดับหนึ่ง อย่างฟุตบอลโลก ที่ตี๋ แม็ทชิ่ง เชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า จะฉุดให้สภาพเศรษฐกิจของประเทศคึกคักขึ้นได้ จึงหันมาลงทุนในโครงการต่อเนื่อง ควัก 120 ล้านบาท กลับมาสร้างความฮือฮาใจกลางกรุงอีกครั้งกับการผุดจอ "เดอะ มูฟเอเบิล แอลอีดี" (THE MOVABLE LED) จอเคลื่อนที่แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเติมเต็มโครงการชีสมีเดีย หลังจากแทรกซึมติดตั้งสื่อจอไฮเทคที่เป็นจอพลาสม่าและแอลอีดีทั่วสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์, สยามเซ็นเตอร์ และสยามพารากอนในกว่า 80 จุดเมื่อปีที่ผ่านมา เจาะกลุ่มเป้าหมายที่แออัดอยู่ในย่านศูนย์รวมแฟชั่นกลางใจเมืองแห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 200,000 คนต่อวัน หรือคิดเป็น 72 ล้านคนต่อปี

"เราทุ่มงบกว่า 120 ล้านบาท เพื่อสร้างเดอะมูฟเอเบิล แอลอีดีที่เป็นสื่อเอาท์ ออฟ โฮม โดยติดตั้งที่สยามพารากอนเป็นแห่งแรก โดยประกอบด้วยจอ LED 3X4 เมตร จำนวน 3 จอ เคลื่อนที่บนรางความยาว 40 เมตร สูง 9 เมตร ควบคุมผ่านระบบไวร์เลส และการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมรวมไปถึงระบบออนไลน์จากอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย ส่วนนี้จะเข้ามารองรับกระแสการใช้สื่อดิจิตอลที่กำลังจะมาแรงและเป็นตลาดที่ใหญ่มีศักยภาพในอนาคตอีกด้วย" สมชาย ชีวสุทธานนท์ หรือ ตี๋ แม็ทชิ่ง กรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) เผยถึงรายละเอียดสื่อตัวล่าสุดของบริษัทฯ

การสร้างสื่อนอกบ้านเพื่อรองรับกับความต้องการของเอเจนซี่โฆษณาและกลุ่มลูกค้าครั้งนี้ ต่างจากเอเจนซี่ที่รับทำสื่อนอกบ้านอื่น ๆ ทั่วไปที่เน้นรูปแบบของป้ายโฆษณา บิลบอร์ด ฯลฯที่ยังเป็นเทรดดิชั่นนอลมีเดีย ในขณะที่แม็ทชิ่งฯ มั่นใจกับพฤติกรรมการบริโภคข้อมูลผ่านสื่อดิจิตอลที่มีแพร่หลายมากขึ้นของกลุ่มเป้าหมายกลุ่มครอบครัวคนเมืองและกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเทรนดี้ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ จากการอยู่บ้านดูโทรทัศน์น้อยลง แต่กลับลุกออกมาใช้เวลานอกบ้านมากขึ้น

อย่างไรก็ตามทางแม็ทชิ่ง มูฟวี่ ทาวน์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแม็ทชิ่ง สตูดิโอ ที่ดูแลธุรกิจนี้ ตั้งเป้าว่าจะโกยรายได้ผ่านสื่อโครงการชีสมีเดียไม่ต่ำว่า 70 ล้านบาท โดยจะสร้างให้สื่อประเภทจอแอลอีดีเคลื่อนที่และพลาสม่า บริเวณลานสยามพารากอน,สยามดิสคัฟเวอรี่ และสยามเซ็นเตอร์กว่า 39 จุด เป็นสื่อหลักที่ทำรายได้ให้ชีสมีเดียเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของทั้งหมด และจะคุ้มทุนภายใน 2 ปีครึ่ง -3 ปีข้างหน้า

หากมองในภาพรวมของนิว มีเดียจะเป็นตัวต่อยอดทางธุรกิจให้กับบริการของแม็ทชิ่ง มูฟวี่ ทาวน์ได้อย่างครบวงจร เพราะสามารถสร้างโอกาสที่ลูกค้าจะใช้บริการตั้งแต่มอบหมายให้แม็ทชิ่ง คิดและผลิตหนังโฆษณา จนถึงการใช้ช่องทางการสื่อสารใหม่ ๆ อย่างเดอะ มูฟเอเบิล แอลอีดี รวมไปถึงสื่อประเภทจอแอลอีดี 39 จุดทั่วทั้ง 3 สยาม ในการเผยแพร่หนังโฆษณานั้น ๆ มีสูงมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายของชีส มีเดีย จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นและครอบครัว ที่มาใช้บริการศูนย์การค้าทั้ง 3 แห่ง โดยเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง กอปรกับเป็นสื่อใหม่ที่เหมาะกับเจ้าของสินค้าที่ต้องการสร้างแบรนด์รีคอล ตอกย้ำตราสินค้ามากกว่าการโฆษณาแบบยัดเยียด เพราะสื่อใหม่นี้สามารถตอบโต้แบบอินเตอร์เรคทีฟ (Interactive) ได้ตลอดเวลา