Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 กรกฎาคม 2549
หุ้นร่วงกระแสข่าวลือท่วมตลาด EPCOลือควบ-DISTARถูกเทคฯ             
 


   
search resources

Stock Exchange
โรงพิมพ์ตะวันออก, บมจ.




ข่าวลือท่วมตลาดหุ้น ในช่วงตลาดหุ้นซบเซา"โรงพิมพ์ตะวันออก"ลือจะถูกนำไปควบรวมกับเอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วน"ไดสตาร์ อิเลคทริก"ลือนักลงทุนรายใหญ่สนใจเข้าเทคโอเวอร์ ขณะที่"ยุทธ ชินสุภัคกุล"โต้ยังไม่มีแผนเสนอเข้าบอร์ด ระบุราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน มั่นใจปีนี้รายได้โต 10% เหตุได้ผลดีจากงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรวมถึงงานพิมพ์จากเทศกาลฟุตบอลโลก

วานนี้(13ก.ค.)หุ้นบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด(มหาชน)หรือ EPCO ราคาเปิดมาที่ระดับ 0.63 บาทต่อมาได้มีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาสูงสุดที่ 0.66 บาท อย่างไรก็ตามภาวะตลาดหุ้นในช่วงบ่ายได้ปรับตัวลดลงมาแรง ส่งผลทำให้มีแรงเทขายหุ้นออกมา ทำให้ราคาหุ้นบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออกปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดหุ้นโดยรวม โดยปิดที่ 0.58 บาทซึ่งเป็นระดับราคาที่ต่ำสุดของวันด้วย ลดลง 0.04 บาทหรือ 6.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น 103.08 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ DISTAR ราคาเปิดมาที่ 0.69 บาทต่อมาได้มีแรงซื้อจนทำให้ราคาขึ้นมาสูงสุดที่ 0.81 บาทต่อมาราคาได้อ่อนตัวลงตามภาวะตลาดหุ้น โดยราคาปิดที่ 0.74 บาทเพิ่มขึ้น 0.05 บาทหรือ 7.25% มูลค่าการซื้อขาย 67.65 ล้านบาท

ส่วนภาวะตลาดหุ้นโดยรวมดัชนีปิดที่ 672.34 จุดลดลง 13.68 จุดหรือ 1.99% มูลค่าการซื้อขาย 11,708.11 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่ามีนักลงทุน 2 กลุ่มแสดงความสนใจที่จะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทไดสตาร์ อิเลคทริก โดยแสดงเจตนาจะเข้าไปครอบงำกิจการ ด้วยการขอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งกลุ่มหนึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนอีกกลุ่มเป็นกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ชื่อดัง ซึ่งกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่มีความเป็นไปได้ว่าจะเข้าไปซื้อหุ้นได้ เพราะเสนอราคาซื้อที่สูงกว่า อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดและยังไม่มีข้อสรุป

นายกมล เอี้ยวศิริกุล ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทไดสตาร์ อิเล็กทริก คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องที่มีกลุ่มนักลงทุนสนใจจะเข้ามาซื้อหุ้น อย่างไรก็ดี การขายหุ้นจะต้องพิจารณาหลายเงื่อนไขประกอบการตัดสินใจ คือความพอใจของระดับราคาของบุคคลที่ต้องการซื้อหุ้น รวมถึงความคิดเห็นโดยรวมของผู้ถือหุ้น และวัตถุประสงค์ของการเข้าซื้อหุ้นด้วย

'การพิจารณาซื้อขายก็ต้องมีเงื่อนไขหลายอย่างประกอบ ก็แล้วแต่ความพอใจของเราและหากเดือดร้อนเงินก็อาจจะขาย อย่างไรก็ดี ก็ต้องดูกลุ่มผู้ถือหุ้นด้วยรวมทั้งดูว่าจะขายเพื่อไปทำอะไร ผู้ถือหุ้นรายอื่นเดือดร้อนหรือไม่' นายกมลกล่าว

นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทโรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า การที่หุ้นของบริษัทมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นเพิ่มขึ้น มองว่าน่าจะเกิดจากราคาหุ้นต่ำกว่าสภาพความเป็นจริง จึงทำให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุน ประกอบกับบริษัทก็ยังเชื่อมั่นว่าภายในปีนี้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลดีเพราะได้รับการว่าจ้างให้พิมพ์งานจากงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรวมถึงงานพิมพ์จากเทศกาลฟุตบอลโลก

สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่าบริษัทบริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน)หรือSPACK ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออกจะนำบริษัทมาควบรวมกิจการกันนั้น นายยุทธกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่เคยมีการนำมาหารือในคณะกรรมการบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งมองว่าที่มีกระแสข่าวลือเนื่องจากนักลงทุนอาจจะมองว่าบริษัทเอส.แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ได้ทยอยเข้าไปซื้อหุ้นของบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออกเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันนี้ถืออยู่ในสัดส่วนประมาณ 23% แล้ว และคงจะต้องรอดูว่าเมื่อบริษัทเข้าไปถือเพิ่มเป็น 24.99%แล้วจึงค่อยคิดว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่เชื่อว่ากว่าจะถึงระดับดังกล่าวคงจะใช้เวลาพอสมควร เพราะบริษัทจะทยอยซื้อหุ้นเมื่อมีจังหวะและเป็นการซื้อเก็บไม่ได้ขายออกมาแต่อย่างใด

ส่วนกระแสข่าวลือว่าบริษัทจะมีการดึงพันธมิตรจากญี่ปุ่นเข้ามาถือหุ้น นายยุทธกล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินข่าวลือดังกล่าว และไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จะมีแต่ลูกค้าจากประเทศญี่ปุ่นที่สั่งออเดอร์งานพิมพ์มายังบริษัท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us