Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน14 กรกฎาคม 2549
โรซ่าขยายไลน์ลดเสี่ยง             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด

   
search resources

Food and Beverage
ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร, บจก.




“โรซ่า” ชี้ตลาดอาหารสำเร็จรูปปีนี้ไม่โต ระบุปลากระป๋อง-ผักกาดดองกระอักหนักสุด ปรับตัวเร่งขยายไลน์สินค้าคลุมพื้นที่ 5 เซกเมนต์ในตลาดซอสปรุงรส 4 พันล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงปลากระป๋อง ล่าสุดปั้นซอสหอยนางรม-ซอสพริกไทยดำ ทุ่ม 30 ล้านบาท สร้างแบรนด์ผักกาดดองขึ้นแท่นเบอร์สองเบียดตราห่าน สิ้นปีรักษารายได้เท่าปีที่ผ่านมา 2 พันล้านบาท

นายสุวิทย์ วังพัฒนมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายซอสพริก-มะเขือเทศ และปลากระป๋องตรา ”โรซ่า” เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอาหารสำเร็จรูปในปีนี้แทบไม่มีอัตราการเติบโต โดยเฉพาะตลาดปลากระป๋องมูลค่า 3,000 ล้านบาท และตลาดผักกาดดองกระป๋องมูลค่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเพราะปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจเป็นตัวแปรสำคัญ ส่งผลให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง

ดังนั้นบริษัทไฮคิวฯ ซึ่งมีธุรกิจปลากระป๋องสร้างรายได้ให้กับบริษัทในสัดส่วนถึง 80% และอีก 20%มาจากซอสปรุงรส,ซอสมะเขือเทศ-พริก เป็นต้น จึงต้องปรับตัวด้วยการขยายไลน์สินค้าไปสู่เซกเมนต์ใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยงและให้ยอดขายเติบโต ล่าสุดได้เปิดตัวซอสหอยนางรมและซอสพริกไทยดำ ส่งผลให้บริษัทฯมีสินค้าครอบคลุมทั้ง 5 เซกเมนต์ ซึ่งทำให้โครงสร้างรายได้ของบริษัทฯเปลี่ยนไปจากซอสปรุงรสเพิ่มเป็น 30% และอีก 70% เป็นปลากระป๋อง

สำหรับแนวทางการตลาดของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ”โรซ่า” ทั้ง 5 เซกเมนต์ จะชูคอนเซปต์ ”โรซ่า คุณค่าจากธรรมชาติ” เพื่อตอบรับกับกระแสสุขภาพที่มาแรง ภายใต้การใช้งบที่วางไว้ในปีที่ 70 ล้านบาทเท่ากับปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นจำหน่ายผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรด 60% และอีก 40% จะจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด

อย่างไรก็ตามการทำตลาดทั้ง 5 เซกเมนต์ จะเน้นสร้างความแตกต่างทั้งจากสินค้าคู่แข่งที่อยู่ในตลาด และเฮาส์แบรนด์ที่วางราคาถูกกว่า 20% สำหรับตัวซอสหอยนางรมบริษัทฯจะสร้างความต่าง ด้วยการเปิดสูตรผสมกระเทียม และซอสพริกไทยดำลงสู่ตลาด

ปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯขยายไลน์สินค้าสู่ตลาดซอสหอยนางรม เนื่องจากเป็นตลาดที่เติบโตสูงที่สุดใน 5 เซกเมนต์ จากมูลค่าตลาดซอสปรุงรสรวม 4,000 ล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าซอสหอยนางรมมูลค่า 1,000 ล้านบาท โต 15% ทั้งนี้เป็นเพราะผลพวงมาจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวลง ส่งผลให้ผู้บริโภคทำอาหารทานในบ้านมากขึ้น และเทรนด์ในเรื่องของสุขภาพ ทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลรับประทานอาหารนอกบ้าน สำหรับในตลาดซอสหอยผู้นำตลาดเป็นตราแม่ครัว มีส่วนแบ่ง 70%

ทั้งนี้เมื่อเทียบกับภาวะตลาดซอสพริก-มะเขือเทศมูลค่า 500 ล้านบาท ปีนี้มีอัตราการเติบโต 5% ซึ่งในตลาดนี้โรซ่าเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 40% และไฮนซ์ 30% ส่วนตลาดซอสปรุงรสมูลค่า 1,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 8-10% และตลาดซีอิ้วมูลค่า 1,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 8-10%

ทุ่ม30ล.ปั้นโรซ่าเกิดตลาดผัดกาดดอง

นายสุวิทย์ กล่าวว่า หลังจากได้ลงทุนเครื่องจักร 20 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา เพื่อขยายไลน์สินค้าผักกาดดองตราโรซ่าลงสู่ตลาด โดยเปิดตัวด้วยกัน 3 รสชาติ ได้แก่ ยำผักกาดดอง ผักกาดดองเผ็ดหวาน และผักกาดดองเค็ม เจาะกลุ่มเป้าหมายแม่บ้านทันสมัย และคนรุ่นใหม่มา 1 ปี ปรากฎว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากมีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่ง คือ ตัวแพกเกจจิ้งในรูปแบบซอง มีความทันสมัย และปลอดภัย ซึ่งตลาดต่างประเทศอาหารสำเร็จรูปใช้บรรจุภัณฑ์ซองหมด ในขณะที่ประเทศไทยตลาดอาหารสำเร็จรูปส่วนใหญ่ยังเป็นบรรจุภัณฑ์กระป๋อง

ล่าสุดในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯได้ทุ่มงบ 30 ล้านบาท เปิดตัวผัดกาดดองโรซ่าอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ การจัดบูธทดลองชิมตามโมเดิร์นเทรด 200 จุดในกรุงเทพฯและปริมณฑล เนื่องจากในตลาดนี้ผู้บริโภคมีความจงรักภักดีต่อตราสินค้าสูงมาก จึงต้องกระตุ้นให้เกิดการทดลองชิม อีกทั้งยังเป็นการแจ้งเกิดจากเต็มตัวในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งตลาดผักกาดดองจะมีอัตราการเติบโตมากกว่าช่วงปกติเล็กน้อย

ทั้งนี้หลังจากรุกสร้างแบรนด์ผักกาดดองโรซ่าในปีนี้ คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาด 10% ไล่เลี่ยกับผู้นำตลาดอันดับสองผักกาดดองตราห่านมีส่วนแบ่ง 10-15% โดยบริษัทตั้งเป้าจะขึ้นเป็นอันดับสองของตลาด ส่วนอันดับหนึ่ง คือ นกพิราบ 70%

สำหรับผลประกอบการปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าจะรักษารายได้ให้เท่ากับปีที่ผ่านมา คือ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกผลประกอบการมีเพียง 800 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากภายในประเทศ 1,500 ล้าน และจากต่างประเทศ 500 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us